นับตั้งแต่การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในประเทศไทย โดยเฉพาะในระลอก 3 นี้สร้างผลกระทบต่อทั้งเศรษฐกิจและชีวิตของคนในสังคมอย่างมากมาย ประชาชนทุกคนต้องใช้ชีวิตท่ามกลางความโกลาหลและยากลำบาก ด้วยเหตุนี้กลุ่ม ปตท. จึงได้จัดตั้ง “โครงการลมหายใจเดียวกัน” ขึ้นมา เพื่อเป็นอีกความร่วมมือร่วมใจที่จะสนับสนุนการแก้ปัญหาวิกฤตโควิด-19 ของประเทศ
โดยได้ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข สถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง (สปคม.) สำนักงานหลักประกัน สุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และพันธมิตรทางการแพทย์ได้แก่ มูลนิธิโรงพยาบาลในเครือบางปะกอกฯ และโรงพยาบาลปิยะเวท จัดตั้ง “หน่วยคัดกรอง และโรงพยาบาลสนามครบวงจร (End-to-End)” ขึ้น เพื่อรองรับจำนวนผู้ป่วยที่ยังคงมีตัวเลขที่สูง และมุ่งหวังที่จะมีส่วนในการช่วยลดการเสียชีวิต บรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน และหยุดยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ให้เร็วที่สุด
โดยหน่วยคัดกรอง และ โรงพยาบาลสนามครบวงจร (End-to-End) พร้อมให้บริการเสมอ บุคลากรทางการแพทย์พร้อมดูแลประชาชนและทำงานอย่างเต็มกำลัง เพื่อให้ประชาชนปลอดภัยจากโควิด-19 ภายใต้ข้อกำหนดที่ต้อง “ตรวจเร็ว แยกเร็ว รักษาเร็ว” ซึ่งจะเป็นการตรวจรักษาแบบครบวงจร และยังเป็นต้นแบบที่ภาคธุรกิจจับมือกับภาครัฐอีกด้วย
ทั้งนี้ ผู้ที่ต้องการจะเข้าใช้บริการ จำเป็นจะต้องลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน QueQ ผ่านการให้บริการของทั้งแอนดรอยและ IOS ก่อน แล้วเข้าไปกดเลือกเมนู : บริการสาธารณะ เมื่อเข้ามาแล้วจะมีให้เลือกรูปแบบบริการ ไปที่โครงการลมหายใจเดียวกัน ที่ระบุสถานที่เป็น EnCo Terminal (ศูนย์ลูกเรือฯ เดิม เยื้องสนามบินดอนเมือง)
และทำการลงทะเบียนโดยมีขั้นตอนดังนี้ 1. ลงทะเบียนด้วยเลขบัตรประชาชน 13 หลัก พร้อมลงทะเบียนใน Link สปคม. ที่แนบในแอป 2.เมื่อลงทะเบียนเรียบร้อยจะได้เลข 4 หลัก ส่งมาทางโทรศัพท์ซึ่งผู้ลงทะเบียนจะต้องจดเลข 4 หลักไว้เพื่อแสดงในวันตรวจโควิด-19 ณ หน่วยคัดกรอง รับตรวจ ตามวันและรอบเวลาที่ลงทะเบียนเท่านั้น เพื่อลดความแออัดของจุดตรวจ ซึ่งบริการนี้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย
การบริการดังกล่าวประกอบด้วย 4 จุดหลัก ได้แก่ จุดที่ 1 หน่วยคัดกรอง โครงการลมหายใจเดียวกัน ณ อาคาร EnCo Terminal หรือ EnTer ของ บริษัท Energy Complex กลุ่ม ปตท. ถนนวิภาวดีรังสิต กรุงเทพฯ เพื่อใช้เป็นจุดคัดกรองสำหรับกลุ่มเสี่ยง มีการวางระบบดิจิทัลเพื่อลงทะเบียน และเริ่มจากการตรวจโดยใช้ชุดตรวจ Antigen Test Kit (ATK) และหากพบว่ามีความเสี่ยงติดเชื้อ จะนำส่งตรวจ RT-PCR ต่อไป เพื่อให้การแสดงผลนั้นแน่นอน
ขณะที่จุดให้บริการที่ 2 , 3 และ 4 จะจัดเตรียมเป็นโรงพยาบาลสนามครบวงจร โครงการลมหายใจเดียวกัน เพื่อรองรับการรักษาผู้ป่วยที่ตรวจพบเชื้อโควิด-19 รองรับการรักษาผู้ป่วยที่ตรวจพบเชื้อโควิด-19 ทุกระดับความรุนแรง ภายใต้การดูแลของบุคลากรทางการแพทย์จากโรงพยาบาลปิยะเวท โดยโรงพยาบาลสนามครบวงจรแห่งนี้ เป็นการระดมกำลังของกลุ่ม ปตท. ทั้งด้านนวัตกรรม เทคโนโลยี และผลิตภัณฑ์ต่างๆ เพื่อแบ่งเบาภาระและบรรเทาปัญหาการขาดแคลนเตียงในพื้นที่กรุงเทพฯ
อย่างไรก็ตาม โรงพยาบาลสนามครบวงจร (End – to – End) ถือเป็นครั้งสำคัญที่เทคโนโลยีและนวัตกรรมจาก กลุ่ม ปตท. ถูกนำเข้ามาสนับสนุนการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์ราบรื่นขึ้น และช่วยปกป้องบุคลากรจากความเสี่ยงในการสัมผัสเชื้อ นวัตกรรม Robot หรือหุ่นยนต์ จึงถูกส่งเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ในการนำส่งเวชภัณฑ์และอาหาร โดย บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) ได้ส่ง ‘หุ่นยนต์ CARA’ ซึ่งเป็นหุ่นยนต์ลำเลียง เข้ามาช่วยการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์ และยังมี ‘หุ่นยนต์ฆ่าเชื้อ Xterlizer UV Robot’ ก็ถูกนำเข้ามาเสริมทัพในครั้งนี้ด้วย โดยทำหน้าที่สำคัญในพื้นที่เพื่อสร้างสิ่งแวดล้อมภายในที่ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ผ่านการฆ่าเชื้อโรคอัตโนมัติด้วยแสงยูวี
นอกจากนี้ ‘เตียงสนามพลาสติก POLMAXX (PP)’ ที่ผสานนวัตกรรมให้สามารถกันน้ำและสารคัดหลั่งซึมผ่าน พร้อมรองรับน้ำหนักได้ถึง 200 กิโลกรัม รวมถึงฆ่าเชื้อได้ทั้งน้ำยาและความร้อน โดย บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หนึ่งในกลุ่ม ปตท. ที่นำนวัตกรรมนี้เข้าไปสนับสนุนการทำงานและอำนวยความสะดวกประชาชนอีกด้วย
‘เสื้อกาวน์พลาสติกป้องกันการติดเชื้อ (PE Gown)’ เป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมที่นำมาใช้ที่ด่านหน้า โดยเสื้อกาวน์พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง (Disposable Gown) นี้ ผลิตจากเม็ดพลาสติกชนิดโพลิเอทิลีน (PE) คุณภาพสูง ผลิตภายใต้แบรนด์ InnoPlus โดย พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) ซึ่งออกแบบมาให้น้ำหนักเบา สวมใส่สบาย ระบายอากาศได้ดี มีความเหนียวและยืดหยุ่นสูง พร้อมคุณสมบัติในการป้องกันการปนเปื้อนสารคัดหลั่ง ส่วนบุคลากรทางการแพทย์ต้องทำหัตถการให้กับผู้ป่วยโควิด-19 ก็จะมี ‘หมวกอัดอากาศความดันบวก (Powered Air-Purifying Respirator : PAPR)’ ซึ่งเป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ใช้สวมใส่เพื่อการป้องกันในระดับสูง โดยเป็นอุปกรณ์ที่ขึ้นรูปด้วยเทคโนโลยี 3D Printing
ในภารกิจครั้งนี้ นอกจากกลุ่ม ปตท. จะนำเทคโนโลยีและนวัตกรรม เข้ามาช่วยแบ่งเบาภาระของบุคลากรด่านหน้าแล้ว ก็ยังได้รวมพลังกันในรูปแบบต่างๆ เพื่อฝ่าวิกฤตนี้ไปด้วยกันอีก อย่าง บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) ที่ได้นำชุดตรวจเชื้อโควิด-19 Antigen Test Device เข้ามาช่วยสนับสนุนการทำงาน
ในขณะที่ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) ขอหนุนอีกแรงด้วยการสนับสนุนคาเฟ่ อเมซอน ส่งมอบกาแฟ และน้ำดื่มเพื่อบุคลากรทางการแพทย์ เป็นพลังใจเล็กๆ ที่มีความหมาย รวมถึง บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ที่เข้ามาร่วมโดยมอบน้ำมันเชื้อเพลิงให้แก่หน่วยงานสาธารณสุขเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ที่ราบรื่นขึ้น รวมถึงบริษัท เอนเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์ จำกัด จัดพื้นที่อาคาร Enter เป็นจุดคัดกรองโควิด-19 บริษัท พีทีที ดิจิตอล โซลูชั่น จำกัด จัดการระบบดิจิทัลสำหรับการลงทะเบียน และบริษัท บิซิเนส เซอร์วิสเซส อัลไลแอนซ์ จำกัด บริหารระบบการตรวจคัดกรองโควิด-19 อีกด้วย
แม้โควิด-19 ยังอยู่กับสังคมมนุษย์ไปอีกสักระยะหนึ่ง แต่กลุ่ม ปตท. ขอเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนและส่งเสริมการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์ ที่กำลังเผชิญกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ด้วยเชื่อว่าคนไทยทุกคนล้วนมีลมหายใจเดียวกัน จึงขอเป็นกำลังใจให้บุคลากรทางการแพทย์และคนไทยก้าวผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกัน