เมื่อวันที่ 14 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ชุดรวบรวมและตรวจสอบข่าว กอ.รมน.จังหวัดกาฬสินธุ์ ได้รับแจ้งจากเครือข่ายรักษ์ผืนป่าไม้พะยูง ว่า ที่โรงเรียนชุมชนดอนยูงวิทยายน บ้านดอนยูง ต.ยางตลาด อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ สถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) กาฬสินธุ์ เขต 2 มีเหตุคนร้ายลักลอบตัดไม้พะยูง 1 ต้น ขอให้เจ้าหน้าที่ลงตรวจสอบเบื้องหน้าเบื้องหลังด้วย ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ขออนุญาตตัดขาย ราคาต่ำ รัฐเสียหาย เหมือนที่โรงเรียนคำไฮ อ.หนองกุงศรี โรงเรียนหนองโนวิทยา โรงเรียนคุรุชนประสิทธิ์ศิลป์ อ.ห้วยเม็ก และโรงเรียนหนองแวงบ่อแก้ว อ.ยางตลาด

จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ชุดรวบรวมและตรวจสอบข่าว กอ.รมน.จังหวัดกาฬสินธุ์ โดยมีครูโรงเรียนชุมชนดอนยูงวิทยายนให้ข้อมูล ระบุว่าเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อต้นเดือน ก.พ. 66 คนร้ายเข้ามาลักลอบตัดในเวลากลางดึก ขนย้ายไม้พะยูงไป 1 ต้น เหลือเพียงส่วนปลาย หลังเกิดเหตุทางโรงเรียนได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ยางตลาด และเจ้าหน้าที่ธนารักษ์พื้นที่กาฬสินธุ์ร่วมตรวจเหตุ จากนั้นเจ้าหน้าที่ให้ตัดทอนส่วนที่เหลือเก็บไว้หลังโรงเรียน โดยใช้แผ่นสังกะสีปกคลุมไว้ เพื่อกันแดดกันฝน

โดยต้นพะยูงที่ถูกตัด อายุเกือบ 100 ปี มี 2 นาง ถูกคนร้ายตัดไป 1 นาง ใกล้ต้นที่ถูกตัดไป ยังพบต้นพะยูงขนาดใหญ่ แผ่กิ่งก้านใบร่มครึ้ม คาดว่าอายุมากกว่า 100 ปี โดยมีการใช้ลวดหนามล้อมโคนต้นไว้ ป้องกันคนร้ายลักลอบตัด นอกจากนี้ยังมีอีกต้นหนึ่ง ที่บริเวณด้านหลังโรงเรียน ยืนต้นตายโดยไม่ทราบสาเหตุ ทั้งนี้ ครูโรงเรียนชุมชนดอนยูงวิทยายน ยังให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ชุดรวบรวมและตรวจสอบข่าว กอ.รมน.จังหวัดกาฬสินธุ์ อีกว่า หลังเกิดเหตุคนร้ายลักลอบตัดต้นพะยูงในโรงเรียนดังกล่าว ได้มีเจ้าหน้าที่ธนารักษ์กาฬสินธุ์ อ้างชื่อ “สันติ” เข้ามาแนะนำให้ทางโรงเรียน และคณะกรรมการสถานศึกษาทำเรื่องขออนุญาตผู้อำนวยการ สพป.กาฬสินธุ์ เขต 2 ตัดไม้พะยูงที่เหลืออยู่ในบริเวณโรงเรียนขาย เพื่อเอาเงินเข้าหลวงอีกด้วย แต่ไม่มีใครเห็นด้วย เพราะทุกคนต่างก็รักและหวงแหนไม้พะยูงทุกต้นที่ให้ความร่มรื่นต่อพื้นที่ ให้ร่มเงาแก่นักเรียน และเป็นทรัพยากรที่มีคุณค่าของแผ่นดิน เจ้าหน้าที่อ้างชื่อ จึงผิดหวังออกไป

อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลการตัดไม้พะยูงในที่ราชพัสดุและในโรงเรียน พื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ ที่ได้รับแจ้งเข้ามายังฝ่ายความมั่นคง ในรอบเดือน ส.ค.-ก.ย. นี้ รวม 8 แห่ง ประกอบด้วย (1) ที่สถานีเพาะชำกล้าไม้กาฬสินธุ์ ต.อิตื้อ อ.ยางตลาด 1 ต้น, (2) ขออนุญาตตัดที่โรงเรียนคำไฮวิทยา อ.หนองกุงศรี จำนวน 22 ต้น (3) รับแจ้งตัดไม้พะยูงที่โรงเรียนหนองโนวิทยาคม อ.ห้วยเม็ก จำนวน 9 ต้น (4) คนร้ายลักลอบตัดไม้พะยูงในโรงเรียนห้วยเม็กวิทยา 1 ต้น, (5) ลักลอบตัดไม้พะยูงที่สถานีวนวัฒนวิจัยกาฬสินธุ์ ต.อุ่มเม่า อ.ยางตลาด 1 ต้น (6) รับแจ้งขออนุญาตตัดไม้พะยูงขายจำนวน 3 ต้น ที่โรงเรียนคุรุชนประสิทธิ์ศิลป์ อ.ห้วยเม็ก (7) ตัดและขายไม้พะยูงทอดตลาด 6 ต้น ที่โรงเรียนหนองแวงบ่อแก้ว และล่าสุด (8) ที่โรงเรียนชุมชนดอนยูงวิทยายน อ.ยางตลาด ทั้งนี้ หากรวมกับสถิติการก่อเหตุตัดไม้ประดู่ และไม้หวงห้ามในป่าสงวนแห่งชาติ และที่ ส.ป.ก.4-01 เกือบ 20 แห่งทีเดียว

ขณะที่ที่ห้องประชุมโสมพะมิตร ศาลากลาง จ.กาฬสินธุ์ ชั้น 4 นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ ผวจ.กาฬสินธุ์ เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการป้องกันและปราบปรามการตัดไม้ทำลายป่าจังหวัดกาฬสินธุ์ (คปป.จว.) ครั้งที่ 2/2566 โดยมีนายธวัชชัย รอดงาม รอง ผวจ.กาฬสินธุ์ นายวิทยา ปัญจมาตย์ ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทสจ.) จ.กาฬสินธุ์ นายนิยม กิตติวงศ์ตระกูล ผู้อำนวยการส่วนสิ่งแวดล้อมฯ นายอดิศร คงสมกัน หัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษป่าไม้กาฬสินธุ์ และคณะอนุกรรมการฯ ร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง ทั้งนี้ เป็นการประชุมด่วน เพื่อเพื่อหามาตรการป้องกันการลักลอบตัดไม้ทำลายป่า โดยเฉพาะไม้พะยูง ไม้มูลค่าสูงอื่นๆ และกำชับทุกหน่วยงาน ได้ช่วยกันเข้มงวดกวดขัน หากพบการกระทำผิด ให้ดำเนินการตามระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด พร้อมตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีที่มีการตัดไม้ที่ในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ ที่ผ่านมา ทุกราย

นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ ผวจ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ในการประชุมคณะอนุกรรมการป้องกันและปราบปรามการตัดไม้ทำลายป่า จ.กาฬสินธุ์ (คปป.จว.) ครั้งนี้ ประเด็นสำคัญคือการเข้มงวดกวดขัน ในการป้องกัน ปราบปราม ปัญหาการตัดไม้พะยูง และไม้หวงห้าม ในที่ราชพัสดุ รวมทั้งป่าสงวนแห่งขาติ ที่ ส.ป.ก.4-01 โดยเฉพาะปัญหาที่เกิดขึ้นในโรงเรียนคำไฮวิทยา และโรงเรียนหนองโนวิทยาคม ได้สั่งกำชับให้ธนารักษ์พื้นที่กาฬสินธุ์ เร่งทำประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจการทำไม้ออกจากพื้นที่ราชพัสดุ ให้ถือปฏิบัติตามหนังสือกรมธนารักษ์ ตาม ว 20 ลงวันที่ 1 ก.พ. 60 โดยต้องมีเหตุผลและความจำเป็นเท่านั้น

“ส่วนปัญหาการตัดไม้ในพื้นที่ปฏิรูปที่ดิน หรือ ส.ป.ก.4-01 รวมถึงที่สาธารณะ พื้นที่เขตป่าไม้ ให้เจ้าหน้าที่หน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้มงวดกวดขันและดำเนินตามระเบียบ กฎหมายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งได้มีข้อสั่งการเป็นหนังสือไปก่อนหน้านี้แล้ว และจะได้มีการยกระดับการตรวจสอบข้อเท็จจริงการทำไม้ในที่ราชพัสดุ รวมทั้งการทำไม้ในพื้นที่ ส.ป.ก. และพื้นที่ราชพัสดุทุกรายที่ผ่านมา เช่น กรณีการให้อนุญาตตัดไม้พะยูงในโรงเรียนคำไฮวิทยา และโรงเรียนหนองโนวิทยาคม โดยให้แต่งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อหาคนมารับผิดตามกฎหมายต่อไป ทั้งนี้ได้มอบหมายให้นายธวัชชัย รอดงาม รอง ผวจ.กาฬสินธุ์ เป็นประธาน มีเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ป่าไม้ ที่ทำการปกครอง ปฏิรูปที่ดิน ธนารักษ์พื้นที่ เป็นกรรมการ และมีผู้อำนวยการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นเลขานุการ อย่างไรก็ตาม ปัญหาการตัดไม้พะยูงในโรงเรียนที่เกิดขึ้น ซึ่ง สพป.กาฬสินธุ์ เขต 2 ขออนุญาตตัดขาย และธนารักษ์พื้นที่กาฬสินธุ์ให้อนุญาตตัดขาย กำลังดำเนินการตรวจสอบเชิงลึกกันอยู่ เห็นชัดว่าขัดกับหนังสือกรมธนารักษ์ ตาม ว 20 ลงวันที่ 1 ก.พ.60 ดังนั้น ใครทำอะไรไว้รู้ตัวดี ขอให้รอรับผลสิ่งที่ทำลงไปก็แล้วกัน” นายศุภศิษย์ กล่าว.