เมื่อวันที่ 20 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคเพื่อไทย (พท.) ว่า ภายหลังที่ประชุมรัฐสภามีมติเกี่ยวกับข้อบังคับการประชุมรัฐสภาข้อที่ 41 ชัดเจนว่าการเสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกฯ พรรคก้าวไกล คือญัตติที่ไม่สามารถเสนอชื่อซ้ำได้ในสมัยประชุมเดียวกัน ทำให้ สส.อีสานพรรค พท. จับกลุ่มคุยกันว่า ถึงเวลานี้การจัดตั้งรัฐบาลต้องเปลี่ยนแปลง เพื่อให้ได้รัฐบาลใหม่เร็วที่สุด เพราะวันนี้ประเทศมีปัญหามาก ทั้งเรื่องเศรษฐกิจปากท้องของประชาชน ที่รอรัฐบาลใหม่เข้ามาแก้ไข ตอนนี้เลือกตั้งมาแล้วกว่า 2 เดือน ยังไม่มีรัฐบาลเข้ามาแก้ปัญหา เมื่อพรรคอันดับหนึ่งไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ พรรคอันดับสองจึงต้องรับไม้ต่อ และรีบดำเนินการ เพราะปัญหาประชาชนรอไม่ได้ โดยหลังจากนี้คงต้องสลาย 8 พรรคร่วมรัฐบาล เพราะผลคะแนนที่ออกมาเห็นชัดว่ากลุ่ม สว. ไม่เห็นด้วยกับการให้พรรคก้าวไกลเป็นรัฐบาล หากพรรค พท. จะตั้งรัฐบาลก็ต้องแยกตัวออกมา

ส่วนที่อาจจะมีกระแสโจมตีพรรค พท. นั้น การที่พรรค พท. อยากมุ่งหน้าแก้ปัญหาให้ประชาชน ก็อาจเจอกระแสโจมตีบ้าง แต่เชื่อว่าเมื่อได้เข้ามาทำงานขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ทำให้ปากท้องประชาชนดีขึ้นแล้ว กระแสเหล่านั้นจะซาลงไป ที่สำคัญเรื่องเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลโดยไม่มีก้าวไกล ต้องชัดเจนให้ได้ก่อนวันที่ 27 ก.ค. นี้ เพราะวันดังกล่าวพรรค พท. จะเสนอชื่อนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ ของพรรค ซึ่งจากการประชุมรัฐสภาวันที่ 19 ก.ค. ที่ผ่านมา เห็นแล้วว่าแคนดิเดตนายกฯ จะโหวตได้แค่ชื่อละหนึ่งครั้ง ถ้ายังมีพรรคก้าวไกลร่วมอยู่ อาจทำให้แคนดิเดตนายกฯ พรรค พท. ต้องสะดุดไปด้วย.