เมื่อวันที่ 23 มิ.ย. ที่กองบังคับการปราบปราม นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม พา พ.ต.อ.ดำรงศักดิ์ อ่อนตา รอง ผบก.สอท.2 พ.ต.ท.ปฐมพงศ์ มีอยู่ สว.กองกำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.2 เดินทางมาแจ้งความพนักงานสอบสวน บก.ปปป. เพื่อดำเนินคดีกับ พ.ต.อ.วงกต สุวรรณวัฒน์ ผกก.สภ.คูคต กับพวก ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ข้อหา “ร่วมกันเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ” กรณีการจับกุมดำเนินคดี เอี่ยวอดีตผู้การชลบุรีเรียกรับสินบนจำนวน 140 ล้านบาท
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 2 นาย ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตั้งแต่ถูกแจ้งข้อหาดำเนินคดีมา ไม่ได้รับความเป็นธรรมใดๆ จากพนักงานสอบสวน ทั้งชุดที่สโมสรตำรวจ และ สภ.คูตต พยายามติดตามความคืบหน้าของคดี และตรวจสอบว่าใครเป็นผู้แจ้งความดำเนินคดีกับตน ก็ไม่ได้รับคำตอบหรือการชี้แจงใดๆ จาก สภ.คูคต หรือแม้แต่ผู้บังคับบัญชาระดับสูง ก็ไม่สามารถให้ความเป็นธรรมแก่ตนได้ ทั้งที่การปฏิบัหน้าที่วันดังกล่าว มีหลักฐานในการออกปฏิบัติหน้าที่ทุกอย่าง แต่กลับถูกแจ้งข้อหาดำเนินคดีจนทำให้ประวัติด่างพร้อย
“ยอมรับรู้สึกน้อยใจมาก เพราะผู้บังคับบัญชาไม่ได้ลงมาพยายามตรวจสอบความบริสุทธิ์ให้กับตน แต่กลับแจ้งข้อหาภายใน 3 วัน ทั้งที่คดีอื่นๆ กลับใช้เวลาเป็นเดือน แต่คดีนี้กลับแจ้งอย่างรวดเร็ว ทั้งที่ควรสรุปสำนวนส่ง ป.ป.ช. แต่เหตุใดจึงแจ้งข้อหาดำเนินคดีกับตน” ตำรวจทั้ง 2 นายกล่าว
2ตร.ไซเบอร์ แจ้งความกลับ ‘เป้..รักผู้การ’ ฐานแจ้งความเท็จ-แกล้งให้ได้รับโทษ
ทั้งนี้ตนยังนำแนวทางการปฏิบัติในการทำคดีนี้มาเปิดเผยต่อสื่อมวลชน พร้อมพบข้อพิรุธ และทางรอง ผบ.ตร. ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนว่า คดีนี้เข้าข่าย พ.ร.บ.อุ้มหายตามมาตรา 7 ตามขั้นตอนต้องแจ้งให้อัยการ เพื่อให้พนักงานอัยการมาร่วมสอบปากคำ แต่ขณะนี้ยังไม่มีอัยการเข้าร่วมการสอบปากคำตำรวจทั้ง 8 นาย
ด้านนายอัจฉริยะ กล่าวว่า วันนี้นำเอกสารหลักฐานคำสั่ง ผบ.ตร. ที่เซ็นคำสั่งว่าชุดจับกุม ในคดีดังกล่าวเข้าข่าย พ.ร.บ.อุ้มหาย โดยมีการเซ็นคำสั่งเมื่อวันพุธที่ 21 มิ.ย. ที่ผ่านมา แต่ชุดจับกุมไม่ได้ปฏิบัติตามขั้นตอน เช่น ไม่มีการบันทึกภาพขณะจับกุม แต่ตำรวจไซเบอร์ทั้ง 2 นาย มีภาพในขณะจับกุม จึงถือว่าเป็นหลักฐานสำคัญ แต่ทำไมถึงโดนร่างแหถูกดำเนินคดีไปด้วย
นายอัจฉริยะ กล่าวต่อว่า ตนเห็นว่าไม่ถูกต้อง จึงยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ นอกจากนี้ยังพาดพิงถึง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ว่าที่ผ่านมาทำคดีมาเยอะ แต่ทำไมคดีนี้จึงไม่ปกติ มีพิรุธ อีกทั้งมีตำรวจระดับนายพล ตัวย่อ “น.” พูดกับตนและตำรวจทั้ง 2 คนว่า มีบิ๊กระดับประเทศ สั่งให้ดำเนินคดีกับตำรวจทั้ง 2 นาย สำหรับตนแล้วเชื่อว่าเป็นผู้ใหญ่ในรัฐบาล
นายอัจฉริยะ กล่าวทิ้งท้ายว่า จากประวัตินายเป้ เป็นหนึ่งในเครือข่ายของสารวัตรซัว และเหตุใด พล.ต.อ.สุเชษฐ์ ถึงเชื่อนายเป้ แล้วจับกุมตำรวจ 2 นายนี้ พร้อมอยากจะถามกลับไปว่า เหตุใดคนใกล้ชิดอักษรย่อ “ด.” คนสนิทที่มีเว็บพนันอยู่ในมือกว่าร้อยเว็บแต่ไม่จัดการ.