เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 7 มิ.ย. ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ. กล่าวถึงกรณีทหารเกณฑ์ สังกัด ม.พัน 27 พล.ม.2 รอ. ถูกทำร้ายร่างกาย​จนเสียชีวิต ว่าปัญหาที่เกิดขึ้นในหน่วยทหาร หากออกมาเป็นข่าวแล้วก็ตั้งคณะกรรมการสอบสวนอยู่แล้ว และลงโทษตามระเบียบทุกอย่างต้องสอบสวนข้อเท็จจริง

เมื่อถามว่าแม้จะมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวน และลงโทษ แต่การลงโทษพลทหารจนเสียชีวิตมีมาเป็นระยะ ผบ.ทบ. กล่าวว่า ทุกอย่างไม่มีอะไร 100% ก็ทราบว่าเขาเสียชีวิต โดยเฉพาะในเรื่องของอุณหภูมิร่างกาย เรื่องฮีทสโตรก การออกกำลังกายอะไรมากเกินไป ก็ต้องตรวจสอบ ซึ่งปกติหน่วยฝึกทหารใหม่กองทัพบกมี 299 หน่วย ส่วนใหญ่รักษามาตรฐานได้ แต่กรณีดังกล่าว เราต้องกลับมาทบทวน และเน้นย้ำกับหน่วยนี้ โดยเฉพาะมาตรการที่กองทัพบกได้ออกไป มี 298 หน่วย ที่รักษามาตรการที่เรามีนโยบายลงไป ดังนั้นหน่วยนี้ต้องถูกสอบสวนทางวินัยว่า ผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้น ไม่สามารถรักษาหรือควบคุมนโยบายของกองทัพบกที่ได้ให้ไว้

“ครอบครัวผู้เสียชีวิต ไปดูมีสิ่งใดที่เราจะสามารถชดเชยได้ แต่ละหน่วยไม่ต้องปรับปรุงอะไร เพียงแต่ให้ปฏิบัติตามนโยบายของกองทัพบก ที่ได้ให้ไว้ เชื่อว่าผู้บังคับบัญชาเขาดูแลอยู่แล้ว แต่เนื่องจากว่าทุกคนมีภารกิจมีหน้าที่เป็นของตัวเอง หน่วยฝึกก็มอบให้เป็นผู้ฝึก เป็นหน่วยที่รับผิดชอบ จากผู้ฝึกก็เป็นหน่วยฝึก และผู้อำนวยการฝึก ผู้พันหรือผู้การ หรือ ผบ.กองพลตามลำดับ ซึ่งเขาจะต้องรับนโยบายกองทัพบก เพื่อไปดำเนินการ กำกับดูแล ในส่วนของผู้ปฏิบัติที่อยู่ใกล้ชิดทหาร ก็ต้องว่ากัน และการเกิดข้อผิดพลาดตรงนั้น เป็นความบกพร่องของใครที่ต้องรับผิดชอบ”

เมื่อถามย้ำว่าต้องเรียกความเชื่อมั่นในเรื่องของการสมัครใจเป็นทหารหรือไม่ ผบ.ทบ. กล่าวว่า กองทัพบกเรียกความเชื่อมั่นมาโดยตลอด ซึ่งที่ผ่านมาก็พอใจกับการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนอย่างการเปิดหน่วยทหาร

นอกจากนี้ พล.อ.ณรงค์พันธ์ ได้ให้สัมภาษณ์ถึงการปรับย้ายนายทหารในส่วนของกองทัพบกว่า ยังไม่มีอะไร ทุกอย่างเป็นศูนย์ เรื่องการปรับย้าย ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนอยู่แล้ว ยังมีเวลา และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ไม่ได้มีการสั่งการอะไร

เมื่อถามต่อว่ามีข่าวจะถูกเช็กบิล ผบ.ทบ. ถามกลับว่า “ใครจะเช็กบิล” พร้อมกับพูดติดตลกว่า “ไปกินข้าว ไปทานอะไรก็ต้องเช็กบิลอยู่แล้ว ทุกอย่างจ่ายตังค์ตลอด”