จากกรณีข่าว “เรืองไกร” หอบหลักฐานยื่น กกต.หวังเช็กบิล “นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์” แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคก้าวไกล มีลักษณะต้องห้ามในการลงสมัครรับเลือกตั้ง เนื่องจากมีชื่อเป็นผู้ถือครองหุ้นสื่อบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) 42,000 หุ้น อาจซ้ำรอย “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” อดีตแคนดิเดตพรรคอนาคตใหม่ ตามที่ได้เสนอข่าวไปก่อนหน้านี้

ต่อมาด้าน “นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ” ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ก็ได้ออกมาเคลื่อนไหวประเด็นดังกล่าวเช่นกัน โดยเจ้าตัวโพสต์ข้อความระบุว่า “เรียกผมว่า ลุง หรือ อาจารย์ ก็ได้ ตามสะดวก-นักกฎหมายรุ่นลูก เรียกผมว่า ลุง ค่อนข้างเหยียดๆ ผมเสียด้วยซ้ำ นักกฎหมายรุ่นกลาง เรียกผมว่า อาจารย์”

หลายปีมาแล้ว ผมเจออดีตประธานศาลฎีกา และ อดีตรองประธานศาลฎีกา บนเครื่องบิน ท่านนำผู้ช่วยผู้พิพากษาไปทัศนศึกษาที่สงขลา ก่อนลงเครื่อง ท่านอดีตประธานศาลฎีกา เรียกผู้ช่วยผู้พิพากษามาให้รู้จักผม และบอกว่า ถ้าพวกคุณได้นั่งพิจารณาและเจอผมในบัลลังก์ ให้ถือผมเป็นครูได้

ท่านอดีตรองประธานศาลฎีกา พูดแซวขึ้นว่า แต่ระวังนะ คุณนิพิฏฐ์ ว่าความ “กวนไปหน่อย” ทุกคนหัวเราะ ผมเพียงกล่าวตอบท่านทั้งสอง ที่ผมเคารพนับถือ ว่า “ผมไม่ว่าความแล้วครับ” ดูเหมือนผู้ช่วยผู้พิพากษาทุกคนโล่งใจ ท่านอดีตประธานฯ และท่านอดีตรองประธานฯ ทั้ง 2 ท่าน ผมเคารพนับถือท่านด้วยใจ ท่านสุภาพ และใจเย็น

สมัยก่อน ผมว่าความ ก็ดุเดือดตามสไตล์นักเลงบ้านนอก กวนบ้าง อะไรบ้าง ตามนิสัยทนายความบ้านนอกล่ะครับ ผู้พิพากษาใหม่ๆ บางครั้งก็ถูกผมลองของ จนต้องพักการพิจารณาลงไปปรึกษาหัวหน้าศาลว่าจะทำอย่างไรดี แต่ก่อนผมจะวางมือ-แขวนครุย ผมไม่ค่อยมีนิสัยแบบนั้นแล้ว แต่ผมก็ยังว่าความอยู่บ้างในศาลฎีกา และ ศาลรัฐธรรมนูญ เพราะตุลาการท่านเป็นผู้ใหญ่ คุยกันรู้เรื่อง ส่วนในศาลยุติธรรมทั่วไป ผมเพียงไปนั่งดมยาดมฟังเด็กๆเขาว่าความกัน

นี่อ่านข่าว คุณพิธา หัวหน้าพรรคก้าวไกล เรื่องถือหุ้นสื่อ ผมไม่ได้ตามละเอียด เพียงจับประเด็นได้ แต่คิดว่า คุณพิธา น่าจะรอดเรื่องนี้ ใครอยากรู้รายละเอียด ไปอ่านคำสั่งศาลฎีกา คดีแดงที่ ลต สสข. ที่ 24/2566 ลงวันที่ 2 พ.ค. 2566 ระหว่าง นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ ผู้ร้อง/ผู้อำนวยการการเลือกตั้ง เขตเลือกตั้งที่ 2 จังหวัดนครนายก ผู้คัดค้าน ก็พอจะมีประเด็นให้คิดต่อได้

ผมไม่ค่อยชอบคุณพิธา เท่าไหร่หรอก ถ้าจะว่าไปก็แค่พูดเก่ง หน้าตาหล่อ ส่วนการทำงานการเมืองผมว่า เกินครึ่งที่พูดทำไม่ได้หรอก แต่เรื่องกฎหมาย นี่ มันไม่มีฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล มันมีเพียงการอำนวยความยุติธรรมอย่างเสมอภาคกันเท่านั้นเอง ผมตรงไป-ตรงมา อย่างนี้แหละ”…

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ : @นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ