เมื่อวันที่ 9 พ.ค. นายนิกม์ แสงศิรินาวิน ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขต 17 (คลองสามวา) พรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงกรณีที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ชี้แจงเรื่องหุ้น ITV ว่าเป็นเพียงผู้จัดการมรดกนั้น จะพบว่า ในเอกสารนายพงษ์ศักดิ์ ลิ้มเจริญรัตน์ เสียชีวิตในปี 2549 (พิธีศพระหว่างวันที่ 18-24 ก.ย. 2549) มีทายาทผู้มีสิทธิรับมรดก 3 คน คือ นางลิลฎา ลิ้มเจริญรัตน์ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และนายภาษิณ ลิ้มเจริญรัตน์ โดยนายพิธา อ้างว่าเป็นผู้จัดการมรดก ซึ่งตามกฎหมาย ทายาทเป็นผู้มีสิทธิได้รับมรดกจากผู้เสียชีวิต ดังนั้น หุ้น บริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) 42,000 หุ้น จะต้องตกเป็นของทายาทในสัดส่วนเท่า ๆ กัน ย่อมหมายความว่า นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ยังคงเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในหุ้นบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) 14,000 หุ้น

“ผมขอตั้งข้อสังเกตว่า นายพิธา จะอ้างว่ามิใช่เจ้าของหุ้นไม่ได้ เพราะไม่ปรากฏหลักฐานว่านายพิธา ได้สละมรดกแต่อย่างใด อีกทั้ง การสละมรดก จำต้องทำเป็นลายลักษณ์อักษรยื่นต่อเจ้าพนักงาน หรือสัญญาประนีประนอม และในประการสำคัญ หากนายพิธา สละมรดกจริง ย่อมไม่มีสิทธิยื่นคำร้องเป็นผู้จัดการมรดกได้ ที่สำคัญถ้าหุ้นนี้เป็นของกองมรดก ก็ต้องระบุใน บอจ.5 ว่าผู้ถือหุ้นคือนายพิธา ในฐานะผู้จัดการมรดก” นายนิกม์ กล่าว

นายนิกม์ กล่าวว่า อย่างในกรณีของตน ก็ได้รับมรดกเป็นหุ้นของ ITV เช่นเดียวกัน และตั้งแต่กรณีเรื่องหุ้นสื่อของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เกิดขึ้น ผมก็ระมัดระวังตัว ในการลงสมัครรับเลือกตั้งครั้งนี้ ผมได้ติดต่อโบรกเกอร์ ติดต่อ TSD เสียค่าธรรมเนียม ออกใบหุ้น เพื่อโอนออกจากตัวเองไปแล้ว

“เมื่อก่อนผมอยู่พรรคอนาคตใหม่ เคยนำเรื่องหุ้น ITV ไปปรึกษา ทีมกฎหมายของพรรค เขาบอกว่าไม่เป็นอะไร ไม่ต้องไปทำอะไร ดีนะคราวนั้นผมได้ที่ 2 ไม่ได้เป็น ส.ส. ถ้าได้เป็นคงโดนแบบพี่เอก (นายธนาธร) ถูกตัดสิทธิทางการเมือง ในครั้งนี้ผมย้ายมาอยู่พรรคภูมิใจไทย เพราะเรื่องที่จะมีการแก้ไขหรือยกเลิก มาตรา 112 ซึ่งผมไม่เอาด้วย และผมเชื่อมั่นในตัวหมอหนู ในเรื่องสาธารณสุข ที่ผมเคยร่วมงานมูลนิธิ ด้วย เชื่อมั่นว่าเป็นพรรคที่พูดแล้วทำ เขาแนะนำให้จัดการเรื่องหุ้น ITV ให้เรียบร้อย” นายนิกม์ กล่าว