นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ในวันที่ 3 ก.ย.นี้ กระทรวงการท่องเที่ยวฯ จะหารือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ถึงแผนในการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งขณะนี้ยังเหลืออีก 5 พื้นที่ คือ กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี และชลบุรี หลังจากเปิดไปแล้ว 4 พื้นที่ ได้แก่ ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ สมุยพลัสโมเดล กระบี่ และพังงา ซึ่งผลการหารือครั้งนี้ คาดว่าจะมีแผนดำเนินงานที่ชัดเจนออกมาได้ภายในวันที่ 5 ก.ย.นี้  

“ขณะนี้เห็นยอดผู้ติดเชื้อทยอยลดระดับลงอย่างต่อเนื่อง เบื้องต้นคาดการณ์ว่า การเดินทางในประเทศจะสามารถกลับมาเริ่มต้นใหม่อีกครั้งได้ในเดือน ต.ค.นี้ เนื่องจากเดือน ก.ย. จะเป็นช่วงเดือนที่มีวัคซีนเข้ามาเพิ่มอีกจำนวนมาก ถือเป็นเดือนแห่งการเร่งฉีดวัคซีนอย่างเต็มที่ โดยคาดว่าพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล จะสามารถฉีดวัคซีนให้กับคนในพื้นที่ได้ไม่ต่ำกว่า 70% ซึ่งเป็นสัดส่วนที่สามารถสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ได้แล้ว จึงคาดว่าการเดินทางจะฟื้นตัวกลับมาในเดือนถัดไป”

ด้าน นายกรด โรจนเสถียร คณะกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และนายกสมาคมสปาไทย ในฐานะประธานภาคเอกชนของโครงการหัวหิน รีชาร์จ กล่าวว่า ขณะนี้ภาครัฐและเอกชนในโครงการหัวหิน รีชาร์จ เปิดเผยว่า ในวันที่ 5 ก.ย.นี้ คณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการหัวหิน รีชาร์จ จะหารือร่วมกับ รมว.การท่องเที่ยวฯ ผู้ว่าการ ททท. สาธารณสุขจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในจังหวัดทั้งรัฐและเอกชน ถึงแนวทางการเตรียมความพร้อมการเปิดพื้นที่หัวหิน รับนักท่องเที่ยวแบบไม่กักตัว ซึ่งคาดว่าจะเริ่มต้นได้ในวันที่ 1 ต.ค.นี้

สำหรับการหารือครั้งนี้มีเรื่องสำคัญ คือ แนวทางการจัดหาวัคซีนเข้ามาฉีดให้กับคนในพื้นที่นำร่องของเทศบาลเมืองหัวหิน จำนวน 2 ตำบล คือ ตำบลหัวหิน และหนองแก พื้นที่ 86.36 ตารางกิโลเมตร ซึ่งมีความต้องการวัคซีนครอบคลุมประชากรในพื้นที่ทั้งสิ้น 90,564 คน ล่าสุดการฉีดวัคซีนให้กับคนในพื้นที่มีความคืบหน้าไปแล้ว 55% โดยเป็นการฉีดตั้งแต่เข็มที่ 1-3 รวม 75,740 โด๊ส หากในการหารือครั้งนี้ได้เห็นขอบแนวทางการขับเคลื่อนและเร่งจัดหาวัคซีนมาฉีดให้กับประชากรในพื้นที่ได้ไม่ต่ำกว่า 70% ในเดือน ก.ย.นี้ ก็เชื่อว่าการเปิดพื้นที่หัวหินรับนักท่องเที่ยวต่างชาติจะดำเนินการได้ตามแผน