เมื่อวันที่ 30 ส.ค.64 ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก พนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง ขอฝากขัง นายถิรนัย (สงวนนามสกุล) อายุ 20 ปี กับนายชัยพร (สงวนนามสกุล) อายุ 21 ปี ผ่านระบบจอทางไกล โดยผู้ต้องหาครอบครองระเบิดปิงปอง เนื่องจากจะต้องสอบพยานจำนวน 6 ปาก รอผลการตรวจพิสูจน์ของกลาง รอผลการตรวจลายพิมพ์นิ้วมือและประวัติการต้องโทษของผู้ต้องหาทั้งสอง จากกองทะเบียนประวัติอาชญากร จึงขออนุญาตศาลฝากขังผู้ต้องหาทั้งสองไว้ในระหว่างการสอบสวนมีกำหนด 12 วันนับแต่วันที่ 30 ส.ค.-10 ก.ย. 64
พฤติการณ์สรุปคือ เมื่อวันที่ 29 ส.ค. 64 เวลาประมาณ 12.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งจุดตรวจด่านความมั่นคงที่บริเวณหน้าธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ถนนนครสวรรค์แขวงสี่แยกมหานาค เขตดุสิต ต่อมาเวลาประมาณ 14.30 น. พบนายชัยพร ผู้ต้องหาที่ 2 ขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า NMAX สีดำไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนโดยมีนายถิรนัย ผู้ต้องหาที่ 1 นั่งซ้อนท้ายมา มีลักษณะท่าทางพิรุธต้องสงสัย จึงได้เรียกให้หยุดรถเพื่อขอทำการตรวจค้น ผลการตรวจค้นพบ ระเบิดปิงปองบรรจุขวดพันด้วยผ้าเทปสีดำจำนวน 2 ลูก ระเบิดปิงปองลูกบอลกลมจำนวน 8 ลูก กระเป๋าสะพายหลังสีดำจำนวน 1ใบ ขวดบรรจุน้ำมันเชื้อเพลิงจำนวน 4 ขวด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ตรวจยึดไว้เป็นของกลางจากนั้นจึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องทั้ง 2 ราย พร้อมของกลางมาที่ สน.นางเลิ้ง
โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันมีวัตถุระเบิดที่เจ้าพนักงานไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนวัตถุระเบิดดอกไม้เพลิงและสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 มาตรา 4(3), 35, 55, 78 ประกอบประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83” เหตุเกิดที่บริเวณหน้าธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ถนนนครสวรรค์ แขวงสี่แยกมหานาค เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร ชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนผู้ต้องหาทั้งสองให้การปฏิเสธ
ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวน ขอคัดค้านการปล่อยตัวชั่วคราวของผู้ต้องหาทั้งสองเนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูงประกอบกับพฤติการณ์ในการกระทำความผิดของผู้ต้องหาทั้งสองเป็นการกระทำโดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายบ้านเมือง นอกจากนี้กรณีการมาร่วมกิจกรรมการชุมนุมทางการเมืองโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยของสังคมโดยรวม อาจทำให้เกิดการระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในวงกว้าง ซึ่งทำให้เกิดความเสียหายหลายอย่างหากผู้ต้องหาทั้งสองได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวไปเกรงว่าอาจจะไปก่อเหตุอันตรายประการอื่นอีกตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 108/1(3)