วานนี้ (27 มี.ค. 2566) เจ้าชายแฮร์รีแห่งอังกฤษ ทรงปรากฏตัวที่ศาลสูงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เช่นเดียวกับ เอลตัน จอห์น ตำนานศิลปินชาวอังกฤษ เนื่องจากทรงเป็นโจทก์ร่วมกับ จอห์น และบุคคลอื่นอีก 5 ราย ที่ยื่นฟ้องหนังสือพิมพ์เดลีเมล์ของอังกฤษ โดยกล่าวหาว่า หนังสือพิมพ์ดังกล่าวแอบดักฟังโทรศัพท์และละเมิดความเป็นส่วนตัว

ฝ่ายโจทก์ที่ยื่นฟ้องบริษัท แอสโซซิเอเท็ด นิวส์เปเปอร์ จำกัด (ANL) ได้แก่ เจ้าชายแฮร์รี, เอลตัน จอห์น และ เดวิด เฟอร์นิช สามีของเขา, ดาราสาว เอลิซาเบธ เฮอร์ลีย์ และ ซาดี ฟรอสต์ โดยกลุ่มโจทก์กล่าวอ้างว่า พวกเขาได้กลายเป็นเหยื่อของพฤติกรรมที่ละเมิดความเป็นส่วนตัวอย่างผิดกฎหมายหลายต่อหลายครั้งของนักข่าวและนักสืบเอกชน ที่ทำงานให้บริษัท ANL ซึ่งเป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์หลายฉบับ รวมทั้งเดลีเมล์ด้วย

เดวิด เชอร์บอร์น ทนายตัวแทนของกลุ่มโจทย์ ยกตัวอย่างของพฤติกรรมละเมิดความเป็นตัว ได้แก่ การแฮกโทรศัพท์มือถือของเหยื่อเพื่อลอบดูข้อความ, ดักฟังโทรศัพท์, แอบสอดส่องข้อมูลส่วนบุคคล เช่น แฟ้มผู้ป่วยแและบันทึกการรักษา รวมถึงบุกรุกเข้าไปในสถานที่ส่วนบุคคลของกลุ่มคนในฝ่ายโจทย์ ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้ เริ่มตั้งแต่ปี 2536 จนถึงปี 2554 และบางรายก็ยาวนานจนถึงปี 2561

ฝ่าย ANL ซึ่งตกเป็นจำเลย กล่าวในแถลงการณ์โดยปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาและประกาศว่าจะสู้คดีจนถึงที่สุด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าชายแฮร์รี ผู้ทรงเดินทางจากที่พักส่วนพระองค์ในแคลิฟอร์เนีย กลับมายังอังกฤษ ประทับอยู่ไม่ไกลจากผู้สื่อข่าวในศาล ทรงตั้งพระทัยรับฟังการไต่สวนและจดโน้ต โดยทางโฆษกส่วนพระองค์ชี้ว่า เจ้าชายทรงประสงค์จะเสด็จไปยังศาลเพื่อให้กำลังใจฝ่ายโจทก์

นอกเหนือจากกลุ่มโจทก์ของเจ้าชายและศิลปินดังแล้ว ผู้ที่มาปรากฏตัวที่ศาล ยังมี ดอรีน ลอว์เรนซ์​ แม่ของ สตีเฟน ลอว์เรนซ์ วัยรุ่นผิวดำ ที่เสียชีวิตจากการฆาตกรรมด้วยสาเหตุของการเหยียดผิวในปี 2536 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าชายแฮร์รี ทรงสวมกอด ลอว์เรนซ์ หลังจากการไต่สวนจบลง และทรงพูดคุยกับเธอและ เฟอร์นิช เล็กน้อย จากนั้นก็ทรงยกพระอังคุฐ (นิ้วโป้ง) ให้ประชาชนที่ยืนรออยู่ด้านนอกศาลตอนเสด็จกลับ

อย่างไรก็ตาม เจ้าชายแฮร์รี ไม่ได้ทรงมีกำหนดการที่จะเข้าเฝ้าพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 หรือเจ้าชายวิลเลียม ในระหว่างที่ทรงประทับอยู่ในลอนดอน รวมถึงยังไม่มีการยืนยันอย่างแน่ชัดว่า จะทรงเข้าร่วมพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 หรือไม่

เครดิตภาพ : REUTERS