เมื่อวันที่ 18 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายมะนิช หนุ่มใหญ่วัย 49 ปี พร้อมญาติ และลูก 3 คนได้เข้าแจ้งความกับตำรวจ เพื่อขออายัดบัญชีธนาคาร ของภรรยาวัย 45 ปี ที่จดทะเบียนกันและอยู่กันมา 26 ปี เนื่องจากได้หายตัวไปกับผู้ชายคนหนึ่ง พร้อมกับสมุดบัญชีธนาคาร ที่เก็บเงินจากการถูกรางวัลที่ 1 เอาไว้

โดย นายมะนิช เล่าว่า ตนถูกสลากกินแบ่งรัฐบาลรางวัลที่ 1 จำนวน 1 ใบ ตอนนั้นมารับเงินพร้อมกับภรรยาและลูก 3 คน ได้เงินหลังหักภาษี 5,970,000 บาท ซึ่งเงินนี้โอนเข้าบัญชีภรรยา จากนั้นก็กลับบ้าน ขอให้ภรรยาโอนเงินเข้าบัญชีตน 1 ล้านบาท จะเอาไปทำบุญ เมื่อถึงวันที่ทำบุญบ้านก็มีชายคนหนึ่งปรากฏตัวในงาน ภรรยาบอกว่าเป็นญาติที่เดินทางมาร่วมทำบุญด้วย ตนไม่ได้เอะใจ กระทั่งทำบุญเสร็จ ชายคนนี้ยังอยู่ในบ้านต่อ กระทั่ง 3 วันก่อน ภรรยาก็ออกจากบ้านไปกับชายคนนี้แบบไม่บอกกล่าว พอโทรศัพท์หาบอกแค่ว่าจะไปทำธุระที่ จ.หนองคาย อีกไม่นานก็กลับ

กระทั่งต่อมาลูกชายมาบอกตนว่า เพื่อนบ้านที่เป็นญาติกันบอกว่า พฤติกรรมของทั้ง 2 คนน่าสงสัย ไม่น่าใช่ญาติแต่น่าจะเป็นชู้ ลูกชายยังโทรศัพท์ไปต่อว่าแม่ว่าทำไม่ถูกต้อง ทำให้อีกฝ่ายไม่พอใจปิดโทรศัพท์หนี พอมาตรวจสอบเงินในธนาคารพบว่า เงินถูกถอนออกไป 2 ล้านบาท จึงรีบมาแจ้งความเพื่ออายัด อย่างไรก็ตาม ทางตำรวจบอกว่าไม่สามารถอายัดได้ เพราะบัญชีเป็นชื่อภรรยา แม้จะจดทะเบียนสมรสก็ตาม ส่วนลูกก็วิงวอนเตือนแม่ผ่านสื่อว่า ให้ระวังอย่าถูกผู้ชายหลอกเอาเงินไปหมด

ขอบคุณข้อมูลจาก ช่องวัน