เมื่อวันที่ 10 ก.ย. นายชาญนะ เอี่ยมแสง ผวจ.ระยอง ได้ประกาศให้พื้นที่ 17 ตำบล ใน 4 อำเภอ ประกอบด้วย อ.เมือง อ.บ้านค่าย อ.วังจันทร์ และ อ.แกลง รวมทั้งหมด 83 หมู่บ้าน เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (อุทกภัย) หลังประสบน้ำท่วมอย่างรุนแรง จนทำให้บ้านเรือนประชาชนนับหมื่นหลัง ได้รับความเสียหาย
โดยสถานการณ์ในพื้นที่ ต.บ้านนา ต.ทุ่งควายกิน และ ต.กระแสบน อ.แกลง จ.ระยอง ถนนสายสุขุมวิท-บ้านนา น้ำยังคงท่วมขัง รถเล็กยังสัญจรไปมาไม่ได้ นอกจากนี้หลายหมู่บ้านใน 3 ตำบล ยังคงมีน้ำขัง เจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายจังหวัดระดมกำลังเข้ามาช่วยเหลือ และมอบถุงยังชีพ ส่วนชาวบ้านต่างก็เริ่มทยอยกันเข้าไปในบ้านของตนเอง ทั้งที่น้ำยังท่วมขังอยู่ และยังมีอีกกว่า100 หลังคาเรือน ที่ยังไม่มีไฟฟ้าใช้ เพราะทางการไฟฟ้าภูมิภาคแกลง ยังไม่จ่ายกระแสไฟเพราะน้ำยังท่วมขังอยู่ หวั่นจะเกิดอันตรายจากไฟช็อต ส่วนถนนสายหลัก น้ำลดลงแล้ว สามารถสัญจรไปมาได้ทั้งหมดแล้ว
ส่วนสถานการณ์ตั้งแต่ช่วงเช้า ในพื้นที่ของ อ.แกลง จ.ระยอง ยังไม่มีฝนตกลงมา แต่สภาพอากาศยังคงมีเมฆปกคลุม ด้านชาวบ้านต่างก็ยังหวั่นวิตก หากฝนจะตกลงมาซ้ำอีก น้ำก็จะกลับมาท่วมอีก ส่วนในพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำประแสร์ ซึ่งน้ำกำลังระบายลงสู่ทะเล ส่งผลให้พื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำ ยังมีน้ำเอ่อเข้าท่วมขัง
ส่วนสถานการณ์ในพื้นที่ อ.เมือง อ.บ้านค่าย และ อ.วังจันทร์ น้ำลดลงจนเกือบหมดแล้วทุกพื้นที่ เริ่มกลับเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว
ด้านชาวบ้านที่ประสบภัย ต่างก็ต้องการให้ทางภาครัฐ ช่วยเหลือเยียวยาความเสียหายของทรัพย์สิน และพืชผลทางการเกษตร ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในครั้งนี้
ส่วนที่แม่น้ำประแสร์ บริเวณสะพาน ท่ากะพัก-ทะเลน้อย ต.ทุ่งควายกิน อ.แกลง จ.ระยอง ได้มีการนำเรือผลักดันน้ำจำนวน 4 เครื่อง ทำการผลักดันน้ำจากแม่น้ำออกสู่ทะเล เพื่อระบายน้ำในพื้นที่ท่วมขัง คาดว่าคงจะทำให้ระดับที่ท่วมอยู่ลดลงไปได้.