นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า กรมฯ ได้ร่วมมือกับสถาบันอนุญาโตตุลาการ หาวิธีช่วยลดปัญหาข้อพิพาทของผู้ประกอบการ โดยไม่ต้องถึงศาล ผ่านกระบวนการอนุญาโตตุลาการ ซึ่งเป็นกระบวนการการระงับข้อพิพาททางเลือกนอกศาล หรือ การระงับข้อพิพาทโดยไม่ได้ให้ศาลเป็นผู้ตัดสิน แต่ให้บุคคลที่สาม ที่มีความเป็นกลางและเป็นอิสระ ซึ่งเรียกว่าอนุญาโตตุลาการ ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญในเรื่องที่พิพาทเข้ามาเป็นผู้ทำการวินิจฉัยชี้ขาดข้อพิพาทดังกล่าวและกำหนดให้คู่กรณีต้องปฏิบัติตามคำชี้ขาด คล้ายกับการระงับ ข้อพิพาทโดยศาล เพียงแต่ไม่ได้วินิจฉัยชี้ขาดโดยศาล ซึ่ง “อนุญาโตตุลาการ” หรือ บุคคลที่สาม อาจเป็นบุคคลเดียวหรือ หลายบุคคลก็ได้

“การประกอบธุรกิจย่อมหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะเจอปัญหาความเห็นที่แตกต่างกัน ความไม่เข้าใจกัน จนกลายเป็นข้อพิพาทระหว่างผู้ที่มีส่วนได้เสียในการดำเนินธุรกิจ เช่น กรรมการ ผู้ถือหุ้น ลูกหนี้ เจ้าหนี้ รวมถึงผู้ให้หลักประกัน เมื่อคุยกันไม่ลงตัว เกิดการฟ้องร้องกันอยู่เป็นประจำ สุดท้ายต้องไปพึ่งศาลให้เป็นผู้ตัดสิน ซึ่งกว่าจะถึงบทสรุปได้ต้องใช้เวลายาวนาน และส่งผลเสียต่อชื่อเสียงของบริษัท คู่กรณี ทำให้ขาดความน่าเชื่อถือ และเป็นการทำลายสัมพันธภาพระหว่างหุ้นส่วน ผู้เกี่ยวข้อง ซึ่งอาจส่งผลให้ธุรกิจหยุดชะงักดำเนินการต่อไม่ได้”

นายพสิษฐ์  อัศววัฒนาพร  ผู้อำนวยการสถาบันอนุญาโตตุลาการ กล่าวว่า การประนอมข้อพิพาท คือ กระบวนการระงับข้อพิพาทด้วยความตกลงยินยอมของคู่พิพาทก่อนเริ่มกระบวนการอนุญาโตตุลาการ โดยจะมีบุคคลที่สามมาเป็นคนกลางเรียกว่าผู้ประนอมข้อพิพาท ทำหน้าที่ช่วยเหลือหาทางออกร่วมกันของผู้พิพาททั้งสองฝ่าย เพื่อนำมาสู่ข้อตกลงในการระงับข้อพิพาทร่วมกันอย่างเป็นมิตร ซึ่งเป็นหนึ่งในวิธีการ ของการระงับข้อพิพาททางเลือก เพียงแต่การประนอมนั้นจะไม่มีการตัดสินออกมาเป็นคำชี้ขาด และไม่ได้กำหนดแน่ชัดว่าใครเป็นคนถูก คนผิดที่ชัดเจนเหมือนกับกระบวนการอนุญาโตตุลาการ

สำหรับข้อดีของการประนอมข้อพิพาทด้วยกระบวนการอนุญาโตตุลาการ คือ สะดวก ขั้นตอนไม่ยุ่งยากและช่วยรักษาความสัมพันธ์ระหว่างคู่พิพาท รวดเร็ว มีประสิทธิผล ใช้เวลาไม่นาน เพราะคู่พิพาทสามารถเลือกบุคคลที่จะทำหน้าที่อนุญาโตตุลาการ หรือผู้ประนีประนอมข้อพิพาท จากผู้ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญในเรื่องที่ตนพิพาทได้ ทำให้การรับฟังพยานหลักฐานและตัดสินชี้ขาดข้อพิพาทสามารถทำได้รวดเร็ว ประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากกว่ากระบวนการทางยุติธรรม และรักษาความสัมพันธ์ของคู่กรณี หากคู่พิพาทสามารถตกลงระงับข้อพิพาทกันได้จะทำให้ลดข้อขัดแย้ง ข้อโต้เถียงระหว่างกัน ช่วยรักษาชื่อเสียงและความลับทางธุรกิจของคู่พิพาท ตลอดจนลดปริมาณข้อร้องเรียน และข้อพิพาทได้ด้วย