“ช้างศึก” ทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ทีมอันดับ 111 ของโลก จะลงสนามอุ่นเครื่องพบ บาห์เรน ทีมอันดับ 89 ของโลก วันอังคารที่ 31 พ.ค. ที่ บีจี สเตเดี้ยม ถ่ายทอดสด AIS Play และ ไทยรัฐทีวี
คู่นี้เพิ่งอุ่นเครื่องไม่เป็นทางการ เมื่อวันที่ 24 พ.ค. ไทย ชนะ 3-1 ได้จาก อดิศักดิ์ ไกรษร 2 ประตู กับ เชาว์วัตน์ วีระชาติ อีก 1 ลูก จากนั้นไทยมาอุ่นเครื่องชนะ เติร์กเมนิสถาน 1-0 จาก อดิศักดิ์ โดยเมื่อวันที่ 30 พ.ค. ทั้ง 2 ทีม ลงซ้อมอย่างเป็นทางการ ที่บีจี สเตเดี้ยม
สำหรับเกมนี้ ทีมชาติไทย ยังไม่มีนักเตะจาก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่เพิ่งลงสนามนัดชิงรีโว่ ลีกคัพ ที่ชนะ พีที ประจวบ 4-0 มาโน โพลกิง จะลองนักเตะเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนตัดตัว อดิศักดิ์ น่าจะได้โอกาสลงตัวจริง แนวรุก บดินทร์ ผาลา, ปกรณ์ เปรมภักดิ์ ส่วนกองกลาง พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล ที่เพิ่งเข้ามาเมื่อวันอาทิตย์ จะได้ลงสนาม
มาโน โพลกิง กุนซือช้างศึก กล่าวในการแถลงข่าวว่า ทุกคนพร้อม ซ้อมกันได้ดี เพื่อแย่งตำแหน่ง เกมนี้สำคัญมาก เพราะอุ่นเครื่องนัดสุดท้ายก่อนเดินทาง คงไม่ทดสอบอะไรมาก เพราะมีแนวทางชัดเจน อาจเปลี่ยนผู้เล่นบ้างเพื่อให้ทุกคนพิสูจน์ แต่จะพยายามทำให้ดีก่อนเดินทาง ไม่มีตำแหน่งไหนต้องกังวล ทุกคนที่มีก็ทดแทนได้ การขาดตัวหลักอย่าง ชนาธิป สรงกระสินธ์ (เจ็บ), กฤษดา กาแมน, เอกนิษฐ์ ปัญญา (ไปชุด 23 ปี) ยากที่จะหาคนทดแทน แต่คนที่อยู่ตอนนี้ก็มีคุณภาพ จึงไม่ห่วงเป็นพิเศษ นักเตะมี 21 คน จะมีบุรีรัมย์อีก ถือว่าสมดุล พร้อมพูดถึง ชญาวัต ศรีนาวงษ์ จาก สมุทรปราการ ซิตี้ กับ อดิศักดิ์ ไกรษร จากการท่าเรือ อาจไม่โดดเด่น แต่เล่นในทีมชาติก็ทำได้ โดยหลังเกมนี้จะตัดเหลือ 23 คน
ขณะที่ สารัช อยู่เย็น กองกลาง กล่าวว่า หลายคนเล่นกันมานาน เป็นจุดแข็ง เป็นความสัมพันธ์ที่ดีภายในทีม ทุกคนทำได้ดีตามแนวทางของมาโน