นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ เปิดเผยถึงการควบคุมราคาขายยาฟ้าทะลายโจรว่า กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงสาธารณสุข ร่วมมือกันติดตามอย่างใกล้ชิด แต่ยังไม่มีนโยบายควบคุมราคา เพราะต้องการส่งเสริมให้มีการผลิตจำนวนมากในประเทศ และให้เพียงพอต่อความต้องการใช้ก่อน เพราะถ้าเริ่มต้นด้วยการคุมราคาขายแล้ว อาจเป็นดาบสองคมแทนที่ ทำให้เกษตรกรไม่อยากปลูกเพราะมองไม่คุ้มค่า และผู้ผลิตหยุดผลิตยา สุดท้ายประชาชนจะไม่มียาใช้ จึงต้องพิจารณาให้รอบคอบและสมดุล
“กระทรวงพาณิชย์ และสาธารณสุขติดตามสถานการณ์กันใกล้ชิด โดยผู้ที่เอาไปขาย ต้องขึ้นทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ก่อน ส่วนการขายราคาสูงเกินควร หรือทำให้เกิดความปั่นป่วนทางราคา ได้สั่งการให้กรมการค้าภายในไปดู เช่น ถ้าพ่อค้าคนกลางโก่งราคาจะมีความผิดตามมาตรา 29 พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”
สำหรับสถานการณ์ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคอื่นๆ นั้น ก่อนหน้านี้ ได้สั่งการกรมการค้าภายในดูแลสถานการณ์แล้ว ซึ่งพบว่า ปริมาณสินค้าไม่ขาดแคลน และได้ประสานกับกลุ่มผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคอย่างต่อเนื่องซึ่งยังมีปริมาณเพียงพอ ส่วนภาคการผลิตให้เดินหน้าต่อ โดยถ้าพื้นที่ใดของโรงงานใดติดโควิด ก็ขอให้ปิดเฉพาะเป็นพื้นที่ ไม่ใช่ปิดทั้งโรงงาน ไม่เช่นนั้นจะทำให้ของขาด กระทบต่อการบริโภคในประเทศ และกระทบการส่งออกไปด้วย ซึ่งกระทรวงพาณิชย์เป็นห่วงตัวเลขการส่งออกเดือน ก.ค.นี้มาก เพราะมีโรงงานที่ผลิตสินค้าส่งออกปิดไปจำนวนหนึ่ง