ข่าวสังคมภูมิภาคใต้ตอนล่าง…จี้รัฐกล้าปรับโครงสร้างน้ำมันต้นตอปัญหา ‘แพงทั้งแผ่นดิน’

@สงครามระหว่าง รัสเซีย-ยูเครน จะว่าไกลจากประเทศไทยก็ไกลเพียงระยะทาง แต่ผลกระทบที่ประเทศไทยและคนไทยได้รับ ใกล้แค่ “ปลายจมูก” น้ำมันแพง, ปุ๋ยแพง ฉุดดึงให้สินค้าทุกชนิด ขยับตัว “พาเหรด” กันขึ้นราคา จาก “แพงทั้งแผ่นดิน” กลายเป็น “ทุกขเวทนา” ทั้งแผ่นดิน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีทุกท่าน รวมถึง “เสนาบดี” ทุกกระทรวง ต้องเข้าใจคำว่า “ทุกขเวทนา” ที่หมายถึงมากกว่า “ทุกข์ยาก” และต้องเร่งมือในการทำ “นโยบาย” เพื่อแก้ปัญหา “เฉพาะหน้า” ในเรื่องของ “น้ำมัน” ที่วันนี้ แม้ว่าจะมีการ “ตรึงราคา” น้ำมัน “ดีเซล” ที่ลิตรละไม่เกิน 30 บาท เพื่อช่วยภาคการ “ขนส่ง” แต่น้ำมัน แก๊สโซฮอลล์ 91 และแก๊สโซฮอลล์ 95 ที่เป็นน้ำมันที่มีความ “จำเป็น” กับคน “ทำงาน” ทุกคน ตั้งแต่ ขับรถเก๋ง จนถึง “มอไซค์” เพื่อไปทำงาน ซึ่งขณะนี้ราคาของน้ำมันทั้ง 2 ชนิด พุ่งไปถึง ลิตรละ 40 บาท (ในต่างจังหวัด) ที่น่า “หัวเราะ” คือ ราคา “ค้าปลีก” ที่ “คลังน้ำมัน” ทุกแห่ง “แก๊สโซฮอลล์ 91” แพงกว่า “แก๊สโซฮอลล์ 95” ตรงนี้คือความ “ผิดพลาด” ของ โครงสร้างราคาน้ำมันของ กระทรวงพลังงาน ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไป สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รมว.พลังงาน น่าจะถือโอกาสนี้ “ยกเลิก” การใช้น้ำมัน “แก๊สโซฮอล์ 91” ให้เหลือเพียง แก๊สโซฮอล์ 95 น่าจะเป็นการดีที่สุด ….

@เดินทางไป “ต่างประเทศ” มาแล้วไม่ต่ำกว่า 30 ประเทศ ก็เพิ่งจะเห็น “ไทยแลนด์แดนกะลา” นี่แหละ ที่ ปั๊มน้ำมัน มี “หัวจ่าย” เกือบ 10 ชนิดของน้ำมัน เพื่อสร้างความ “สับสน” ให้ทั้ง ผู้ใช้ และ เจ้าของสถานีบริการ….และไม่ว่า สงครามระหว่าง “รัสเซีย” กับ “ยูเครน” จะ “สั้น” หรือ “ยาว” แต่ สิ่งที่เป็นจริง คือหลังจากนี้ ราคา “พลังงาน” จะมีราคาแพงไปอีกนาน วิธีการหนึ่งในการ “รับมือ” ของ “รัฐบาล” ถ้ามี “ความกล้า” คือ การปรับโครงสร้างในขบวนการการผลิต การตลาด และการเก็บภาษีน้ำมันในประเทศ ซึ่งถ้า “กล้าทำ” จะทำให้ราคา “น้ำมัน” ลดลงได้ลิตรละ 4-5 บาท…. แต่ปัญหา “เฉพาะหน้า” วันนี้ คือการลดภาษีน้ำมัน “แก๊สโซฮอล์” ที่เป็นน้ำมัน ซึ่งคน “ทำงาน” ทุกคนต้องใช้ เพื่อบรรเทาปัญหาเฉพาะหน้าให้ได้ ก่อนที่ “ประชาชน” ทั้งประเทศจะ “ล้มละลาย” และอาจจะ “ลุกฮือ” ประท้วงรัฐบาล ….และหลังจากวันที่ 1 เมษายน 2565 เมื่อประเทศมาเลเซีย เปิดประเทศ สิ่งที่จะติดตามมาคือ “น้ำมันเถื่อน” จากประเทศมาเลเซีย จะต้อง “ทะลักทะลวง” เข้ามาในภาคใต้ของไทย แน่นอน คน “ส่วนหนึ่ง” ได้ใช้น้ำมันในราคาถูก ข้าราชการที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่า สรรพสามิต ศุลกากร ตำรวจ ปกครอง ได้รับ “ส่วย” แต่รัฐจะสูญเสียเงิน “ภาษี” จำนวนมหาศาล และการปล่อยให้ “น้ำมันเถื่อน”, “ทะลักทะลวง” เข้าประเทศ ก็ไม่ได้ให้ประชาชนทุกคนได้ใช้น้ำมันในราคาถูก แต่ “นายทุน” เจ้าของ “กิจการ” ต่างหาก ที่รับผลประโยชน์ไปเต็มๆ…..

@ที่เห็นชัดเจน “โควิด-19” ทำให้ มีการปิดพรมแดน “ปิดด่าน” ทั้ง 9 ด่าน ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ “น้ำมันเถื่อน” ยังมีการ “ทะลักทะลวง” เข้ามาวางขาย ทั้งแบบ “ถัง” แบบ “แกลลอน” และ “ขวด” และแบบ “เป็นคันรถ” ส่งให้กับ โรงงาน “อุตสาหกรรม” จำพวก “ห้องเย็น” และ “โลจิสติกส์” โดย ขบวนการรถ “หัวลาก” ที่บรรทุกสินค้าระหว่างประเทศ สามารถวิ่ง “เข้า-ออก” ระหว่าง ด่านไทย กับ มาเลเซีย ได้ โดยที่ไม่มีการบรรทุกสินค้า “หัวลาก” แต่ละคัน มีการ “ติดถังน้ำมัน” ตั้งแต่ 2,000-5,000 ลิตร เพื่อนำมา “ส่งขาย” ให้ผู้ต้องการ “น้ำมันเถื่อน” ในประเทศ โดยที่ “นายทวาร” ประตูชายแดนอย่าง “ศุลกากร” ซึ่ง ยุทธนา พูลพิพัฒน์ ผอ.สำนักงานศุลกากรภาคที่ 4 และหน่วยงานอื่นๆ โดยเฉพาะ “ตำรวจ” ที่ถือ “กฎหมาย” ทุกฉบับ ไม่เคยให้ความสำคัญกับการทำผิด “กฎหมาย” ที่ “นายทุน” ที่เป็นคนของพรรคการเมือง “พรรคใหญ่” พรรคหนึ่ง เรื่องอย่างนี้ พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. ที่เป็น “หัวหน้า” ศปนม.ตร. น่าจะ “จัดการ” ทำให้เป็นงาน “ชิ้นโบแดง” ก่อนที่จะเกษียณอายุราชการ…. เมื่อก่อนจะเห็นผลงานของ ตชด.437 ทำหน้าที่ “จับกุม” ขบวนการ “หัวลาก” ที่ค้าน้ำมันเถื่อน “ข้ามชาติ” ให้เป็น ผลงานเป็นระยะๆ แต่วันนี้ ตั้งแต่ พล.ต.ต.อรรถวุฒิ อ่อนทรัพย์ มาเป็น ผบก.ตชด.ภาค 4 และ พ.ต.ต.ยงศักดิ์ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต มาทำหน้าที่ ผบ.ร้อย ตชด.437 ยังไม่เคยเห็นผลงานในการจับกุม น้ำมันเถื่อน แม้แต่ครั้งเดียว…..

@ที่ ปัตตานี วันนี้เรื่อง “บุหรี่เถื่อน” ดังเป็น “ระเบิดเถิดเทิง” กลายเป็น “ศูนย์กลาง” การค้าบุหรี่หนีภาษี ที่เดินไปทางไหนก็พบกับ “ร้านค้า” ที่ทั้ง “ค้าปลีก” และ “ค้าส่ง” จะไปโทษว่า “สิงห์อมควัน” ที่เป็น “ลูกค้า” ขาประจำ ก็ไม่ถูก เพราะ บุหรี่ไทย ราคาซองละ 100 บาท อัพ ในขณะที่ บุหรี่หนีภาษี ซองละ 30 บาท ยิ่งในยุคที่ “จนทั้งแผ่นดิน” ผู้สูบจึงต้องใช้บริการ “บุหรี่เถื่อน” ส่วน “นายทุน” มาเลเซีย และไทย ก็ “จับมือ” กัน “ขยายตลาด” จน “บุหรี่เถื่อน” กลายเป็นสินค้า “ยอดฮิต” ที่มีขาย “แพร่หลาย” ที่สุดในขณะนี้ “ฟันธง” ถ้า กรมสรรพสามิต ยังไม่รู้จัก “ลดภาษี” ของบุหรี่ไทยลงมา นอกจากภาษี “บุหรี่” จะลดน้อยลงทุกปีแล้ว ยังเป็นเพิ่มความ “ร่ำรวย” ให้กับ “นายทุน” และ “เจ้าหน้าที่รัฐ”…ที่ สำคัญ “ปัตตานี” เป็นที่ตั้งสำนักงาน “ดีเอสไอ” ภาคใต้ แต่ เจ้าหน้าที่ “ดีเอสไอ” ไม่เคย “กวาดล้าง” บุหรี่เถื่อน ที่ “ปัตตานี” แต่ยก “โขยง” ไปจับกุมถึง “พังงา, ภูเก็ต” และที่อื่นๆ เรื่องนี้ ทะแม่งๆ อยู่นะ นพ.โตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสืบสวนพิเศษ (ดีเอสไอ)….

@เรื่องของ “โพงพาง” ในทะเลสาบสงขลา ที่ “รุกล้ำ” ร่องน้ำการเดินเรือ จนถูกขนานนามว่าเป็น “โพงพางดักเรือ” เพื่อเรียกค่าเสียหาย ที่ไม่ใช่ “โพงพางดักปลา” เหมือนกับบ้านอื่น เมืองอื่น ล่าสุด วรณัฎฐ์ หนูรอต รอง ผวจ.สงขลา นำเจ้าหน้าที่ลงทะเลสาบ เพื่อสำรวจ พบว่า แค่ 2 ปีที่ผ่านมา จำนวน “โพงพาง” เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งเท่าตัว สิ่งที่ “เจ้าท่า” สงขลาทำได้คือ การใช้ “สี” ไปทาไว้ที่ “โพงพาง” เพื่อเป็นเครื่องหมายว่า “รุกล้ำ” ร่องน้ำเดินเรือ เพื่อ “สืบค้น” ว่าเป็น “โพงพาง” ของใคร และจะเรียก เจ้าของ “โพงพาง” มา “เจรจา” เพื่อให้ “รื้อถอน” ….เชื่อเถอะ วิธีการอย่างนี้ ไม่เคยทำสำเร็จ เพราะ ผู้อยู่เบื้องหลังผลประโยชน์ ของ “โพงพาง” เป็น “นักการเมือง” เป็น “หัวคะแนน” ของพรรคการเมือง ถ้าต้องการรื้อ “โพงพาง” ซึ่งเป็นเครื่องมือการทำประมงที่ผิด “กฎหมาย” ในทะเลสาบสงขลา ต้องใช้ “ไม้แข็ง” คือใช้ “กฎหมาย” เท่านั้น และสิ่งที่ เจษฎา จิตรัตน์ ต้อง “ทันเกม” คือ หลังจากใช้ “สี” ทา “โพงพาง” ที่สร้าง “รุกล้ำร่องน้ำ” เพื่อการ “ดักเรือ” แล้ว ระวังจะมีการ “เรียกทรัพย์” จากเจ้าของ “โพงพาง” โดย “เจ้าหน้าที่” ส่วนจะเป็น “หน่วยไหน” สืบค้นเอาเอง เพราะโดยข้อเท็จจริง เรื่องที่ “นายทุน” รุกพื้นที่ทะเลสาบสงขลา เพื่อสร้าง “โพงพาง”, “ดักเรือ” และ “เรียกเงิน” มี “เจ้าหน้าที่รัฐ” ได้รับผลประโยชน์อยู่เบื้องหลัง….

@อีกเรื่อง ที่คนขับรถผ่าน สะพานติณสูลานนท์ ต.เกาะยอ อ.เมือง สงขลา เห็นแล้ว “ข้องใจ” ใครกันที่ อนุญาตให้เอา “ซากเรือประมง” ไปจอดทิ้งริมทะเลเกาะยอ จาก 1 ลำ เป็น 3-4 ลำ จนทำให้สถานที่เที่ยวเที่ยวตรงนั้น กลายเป็น “ทัศนอุจาด” ไชยพร นิยมแก้ว นายอำเภอเมืองสงขลา ผู้รับผิดชอบ “สุสานเรือประมง” “ย่อง” ไปดูหน่อย หรือประสานงานกับ นายก อบต.เกาะยอ “จัดการ” ให้เรียบร้อย เพื่อความสวยงามของแหล่งท่องเที่ยว….จ.สงขลา วันนี้มีเรื่อง “ฉาวโฉ่” อยู่ 2  เรื่อง เรื่องแรกคือการที่ “หน่วยงานของรัฐ” ปล่อยให้ “นายทุน” ทำการ “บุกรุก” ทำลาย “โบราณสถานทางประวัติศาสตร์” ที่ เขาน้อย, เขาแดง อ.สิงหนคร จ.สงขลา ซึ่ง ล่าสุด เจษฎา จิตรัตน์ “พ่อเมือง” สงขลา ต้อง “เกี่ยวก้อย” พล.ต.ต.อาชาน จันทร์ศิริ ผบก.ภ.จว.สงขลา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่าง สำนักงานศิลปากรที่ 11 สำนักงานที่ดินจังหวัด เปิดแถลงข่าว เพื่อเป็นการยืนยันว่า เรื่องการดำเนินคดีกับผู้บุกรุก จะไม่เป็นเรื่อง “มวยล้มต้มคนดู” แต่จะมีการ “เดินหน้า” หา “หลักฐาน” ในการ “เอาผิด” กับทุกผู้ ทุกคนที่เกี่ยวข้อง….เรื่องของ “คดีความ” ก็ว่ากันไปตามขบวนทาง “กฎหมาย” แต่เรื่องของการ “บูรณะซ่อมแซม” โบราณสถาน ที่ถูก “บุกรุก” เข้า “ขุดดิน” จนอาจจะทำให้ “โบราณสถาน” ที่มี “ค่าควรเมือง” ต้องทรุดตัว หรือ ถล่มลงมา จังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องรีบ “จัดการ” ไม่ว่าจะด้วยการ “ถมดิน” กลับไป หรือด้วยวิธีไหนก็ตาม โดยเฉพาะ กระทรวงที่ดูแล “กรมศิลปากร” ต้อง “กระตือรือร้น” ในการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นโดยเร็ว….

@และอีกเรื่องคือเรื่อง “รถยนต์ จักรยานยนต์” ที่เป็น “ของกลาง” ในคดีขนพืช “กระท่อม” จำนวน 30-40 คัน ที่หายไปจากที่เก็บของกลาง สภ.สะท้อน อ.นาทวี จ.สงขลา ซึ่งวันนี้กลายเป็นเรื่อง “ฉาวโฉ่” เพราะการออกมา “เปิดโปง” ของ พ.ต.อ.นิพนธ์ คงขวัญ ผกก.สภ.ทุ่งตำเสา จ.สงขลา อดีต ผกก.สภ.สะท้อน อ.นาทวี จ.สงขลา มี “สื่อ” จำนวนมากนำเสนอข่าว และมีการส่งเอกสาร “ราชการ” ผ่านทาง “ไลน์” จำนวนมาก มีการ “พาดพิง” ไปยัง อดีต ผกก.สภ.สะท้อน อีกหลายคน ว่าเกี่ยวข้องกับการ “ขายของกลาง” จนกลายเป็น “มหากาพย์” ที่ พล.ต.ต.อาชาน จันทร์ศิริ ผบก.ภ.จว.สงขลา และ พ.ต.อ.เอนก ศรีคำอ้าย รอง ผบก.จว.สงขลา ประธานสอบสวนข้อเท็จจริง ต้องเร่งด่วน “สรุป” ใครผิด ใครถูก และ ใครที่ทำเรื่อง “ผิดวินัย” ก็ว่ากันไปให้ถูกต้อง เพราะขืน “ลากยาว” จนกลายเป็นเรื่อง “ลากไส้” ของตำรวจออกมาให้เห็นถึงความ “ฟอนเฟะ” ไม่เป็นผลดีกับตำรวจทั้งประเทศ หรือถ้าอย่างไร พล.ต.ท. นันทเดช ย้อยนวล ผบช.ภ.9 ต้องดำเนินการด้วยตนเองเพื่อให้สังคมเห็นว่า “เอาจริง” กับเรื่องที่เกิดขึ้น….

@เรื่องของ “แรงงานเถื่อน” กำลังกลายเป็นเรื่อง “ประจำถิ่น” การลักลอบขนแรงงานเถื่อน กลายเป็น “อาชีพหนึ่ง” ที่มีคนเข้าไปทำอาชีพ ขนแรงงานเถื่อนกันมากมาย ภาคใต้ตั้งแต่ จ.ชุมพร จนถึง จ.สงขลา คือเส้นทางลำเลียงแรงงานเถื่อน ที่ จับกันทุกวัน และมีมาให้จับได้ทุกวัน ปลายทางของ “แรงงานเถื่อน” ชาว “เมียนมา” คือ “ประเทศมาเลเซีย” ที่ เจ้าหน้าที่จับได้ไล่ทัน ก็ถูกส่งตัวกลับ ส่วนที่ “หลุดรอด” ก็ไปเป็น “แรงงานเถื่อน” ที่ประเทศมาเลเซีย การแก้ปัญหา “แรงงานเถื่อน” แบบ “แมวจับหนู” อย่างนี้ เป็นการแก้ที่ “ปลายน้ำ” เหมือนการแก้ปัญหายาเสพติดที่นำ “ผู้เสพ” ไปทำการ “บำบัด” วันนี้ พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภาค 8 พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผบช.ภ.9  พล.ต.ต.ประพันธ์ศักดิ์ ประสานสุข ผบก.ตม.6 และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง ต้องมีการ “บูรณาการ” ร่วมกันเพื่อแก้ปัญหา อย่าให้เรื่องการ “ค้ามนุษย์” การนำคน “หลบหนีเข้าเมือง” เป็นปัญหา “ประจำถิ่น” เพราะอาจจะกลายเป็นปัญหา “ประจำชาติ” ที่สร้างความ“เสียหายอย่างใหญ่หลวงในอนาคต”….

@เรื่องสนามบินเบตง จ.ยะลา เป็นเรื่อง “ฮอต ฮิต” เพราะมีการเชิญ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการ “คมนาคม” มาเปิดสนามบินได้เพียงวันเดียว พร้อม “ยาหอม” กับชาวเบตงถึงความ “รุ่งเรืองของเศรษฐกิจการค้าการท่องเที่ยว” แต่วันรุ่งขึ้น สายการบิน “นกแอร์” ก็แถลงข่าว ไม่พร้อมที่จะทำ “การบิน” เพราะ “ไม่คุ้มทุน” เรื่องการ “ไม่บิน” เพราะไม่ “คุ้มทุน” เป็นเรื่องจริงที่ยากจะ “ปฏิเสธ” และชาว “เบตง” ก็ต้องยอมรับความจริงว่า “เมืองในหุบเขา” และเมืองที่ยังไม่มี “นักลงทุน” จากภายนอกเข้ามาลงทุน ยังไม่มี “ศักยภาพ” ที่จะให้สายการบินเปิดอย่างถาวร สายการบินเป็นของ “เอกชน” เมื่อไม่คุ้มทุนก็ไม่บิน ก็ “ไม่ผิด” และการที่จะให้ หน่วยงานของรัฐ “อุดหนุน” การ “ขาดทุน” ก็เป็นไปไม่ได้ เพราะถ้าอุ้ม “นกแอร์” รัฐบาลก็ต้อง “อุ้ม” สายการบินอื่นๆ ที่ “ขาดทุน” ด้วย ผิดทั้ง “กฎหมาย” และหลักการทำ “ธุรกิจ” และที่ ประชาชนต้องเข้าใจ เรื่องนี้ไม่ใช่ “หน้าที่” โดยตรงของ “ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้” (ศอ.บต.) ที่จะต้องรับผิดชอบ เพื่อให้มี “สายการบิน” มาให้บริการประชาชนที่สนามบินเบตง ศอ.บต. ทำหน้าที่ “บูรณาการ” กับ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อ “ขับเคลื่อน” ให้ปัญหาที่เกิดขึ้น “คลี่คลาย” และมี “ทางออก” ศอ.บต. ทำหน้าที่ “อำนวยการ” และ “บูรณาการ” แต่ไม่ใช่โรงงาน “พิมพ์ธนบัตร” ที่จะมี “งบประมาณ” เพื่อ “อุ้ม” ธุรกิจของ “เอกชน” ซึ่งที่ผ่านมา พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. ได้ทำหน้าที่ของ “ผู้นำหน่วย” อย่างเต็มที่แล้ว….

@วันนี้ ศอ.บต. ได้รองเลขาธิการ ที่มาจากกรมการปกครอง คือ ศรัทธา คชพลายุกต์ รองผู้ว่าฯ จ.ขอนแก่น และ บุญพาส รักนุ้ย รองผู้ว่าฯ จ.นราธิวาส มาทำหน้าที่ “รองเลขาธิการ ศอ.บต.” เชื่อว่า นับแต่นี้ไปการ “ประสานงาน” ระหว่าง ศอ.บต.กับ ฝ่าย “ปกครอง” จะ “ไหลรื่น” ยิ่งขึ้น เพราะมี “วัฒนธรรม” แบบเดียวกัน และจะช่วย “ยกปัญหา” ที่ “หนักอึ้ง” ที่แบกอยู่บน “บ่าไหล่” ของ พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. ลงได้บ้างไม่มากก็น้อย ….คำสั่งย้าย นางดวงพร สุวรรณมณี ผอ.ท่าอากาศยาน (สนามบิน) จ.นราธิวาส ไปปฏิบัติราชการที่กองควบคุมมาตรฐานสนามบิน มีการ “ซุบซิบ” ว่า มีเรื่อง “การเมือง” เข้ามา “เอี่ยว” เพราะเป็นผู้ที่ “อนุญาต” ให้ พรรคประชาชาติ ที่มี วันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรค และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรค และ ส.ส.บัญชีรายชื่อนำ คีรี กาญจนพาส “เจ้าสัวใหญ่” เข้าไปชม สนามบินเบตง โดยไม่ขออนุญาต ถ้าเป็นเรื่องจริง นั่นคือความ “ใจแคบ” และการ “แบ่งมิตร แบ่งศัตรู” ของ พรรคการเมืองในประเทศไทย ที่ไม่ “เป็นคุณ” กับประเทศชาติ ….

@กำลังของ ตำรวจกองปราบฯ “กอง 6” และกำลังของตำรวจ ภ.จว.พัทลุง และ ตำรวจ สภ.รัตภูมิ จ.สงขลา ใช้วิธีการ “กดดัน” จนทำให้ “สมุน” ของ “ฉุย เขาจันทร์” มือปืน นักค้ายา ผู้ต้องหาที่ยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบฯ เสียชีวิตในพื้นที่ จ.พัทลุง ออกมา “มอบตัว” แล้ว 1 คน ถ้า “ตำรวจเอาจริง” เชื่อว่าอีกไม่นาน “ฉุย เขาจันทร์” ก็ต้อง “จนมุม” หรือไม่ก็ “มอบตัว” ยกเว้น ตำรวจ ไม่เอาจริง เพราะมี “เอี่ยว” กับ “ลูกพี่” ของ คนร้าย และนายตำรวจที่ “คุ้นเคย” และ รู้พื้นที่ ของ “รัตภูมิ” ถิ่นที่ “กบดาน” ของโจรกลุ่มนี้ ไม่มีใคร “รู้ดี” กว่า พ.ต.อ.เอนก ศรีคำอ้าย รอง ผกก.ภ.จว.สงขลา…..

@หลายคนในวงการ “น้ำมันเขียว” สงสัย ทำไม “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย บก.ตร. ที่รับผิดชอบการ “ทุจริต” ในโครงการ “น้ำมันเขียว” หรือ น้ำมันดีเซล ที่รัฐ “อุดหนุนผู้ประกอบการประมง” ที่มีราคาถูกกว่าน้ำมัน “บนบก” ลิตรละ 6 บาท จึง ไม่ “ลุยต่อ” หลังจากที่ นำกำลังเข้า “จับกุม” เรือประมงที่ “สวมสิทธิ” และเรือ “แท็งก์เกอร์” ที่ “ลอยลำ” ขายน้ำมันอยู่กลางทะเล ทั้งที่การดำเนินคดีกับผู้ทำการ “ทุจริต” ยังไม่ “สะเด็ดน้ำ” การปล่อยให้ผู้คนเข้าใจว่า “บิ๊กโจ๊ก” เจอเข้ากับ “ตอ” ใต้น้ำ ย่อมดีกว่าถูกตั้งข้อสงสัยว่า “กฎหมาย” สุดท้ายยังไงก็ “พ่ายแพ้อำนาจเงิน”…..

@เสาร์ที่ 2  เมษายน 2565 จะเข้าสู่เทศกาลถือศีลอด หรือเดือน “รอมฎอน” ของผู้นับถือศาสนาอิสลาม ซึ่งใน 3 จังหวัด และ 4 อำเภอของ จ.สงขลา 18 ปีที่ผ่านมา ทุกปีของเดือน “รอมฎอน” จะมีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นจนถึงการ “ขนามนาม” ว่า “รอมฎอนเลือด” เพราะ กองกำลังติดอาวุธ และ “แนวร่วม” ขบวนการแบ่งแยกดินแดน “บีอาร์เอ็น” ถูก “บ่มเพาะ” จาก “ผู้นำศาสนา” ของ ขบวนการว่า “การฆ่าศัตรู” ในเดือนรอมฎอนจะได้บุญ 10 เท่า และปีนี้ก็คงจะเป็นเช่นเดียวกับทุกปีของ “รอมฎอน” เว้นแต่ พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 จะมีแผนในการ “แก้เกม” ของ “แนวร่วม” สมาชิกของ “บีอาร์เอ็น” ได้ผล ซึ่งก็หวังให้เป็นเช่นนั้น เพราะเดือน “รอมฎอน” เป็นเดือนอัน “ประเสริฐ” ของศาสนาอิสลาม ที่ไม่ควร “แปดเปื้อน” กลิ่นความเลือดและความตาย….

@สุดท้าย บรรทัดนี้ ขอแสดงความยินดีกับ พล.ต.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองทัพภาคที่ 4 ที่ได้ “เลื่อนขั้น” ไปทำหน้าที่ “รองแม่ทัพน้อย ที่ 4” ขยับครั้งหน้า ตำแหน่ง “แม่ทัพ” อยู่ไม่ไกล เห็น อาหมัด รามันศิริวงศ์ และ สุไลมาน แวมามะ “สื่อใหญ่” ยะลา และ ปัตตานี ดีใจจน “ออกนอกหน้า”…..แล้วพบกันใหม่วันศุกร์หน้าครับ

————————————————————

ไชยยงค์ มณีพิลึก 

บ้านปันสุข…   พล.ต.อุทิศ อนันตนานนท์ รองแม่ทัพภาค 4 หัวหน้าจิตอาสา 904 เป็นประธานในการมอบบ้านพักตามโครงการ “บ้านปันสุข” ให้กับผู้ยากไร้จำนวน 2 หลัง พร้อมพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ถุงยังชีพพระราชทาน ที่ ต.ตะโละกาโปร์ อ.ยะหริ่ง และที่ ต.ท่าข้าม  อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี 

บันทึกข้อตกลง…   พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) และ รักษ์พงษ์ เซ่งเจริญ ประธานมูลนิธิรวมพัฒน์ ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลง ในการนำเทคโนโลยีบล็อกเชน เป็นต้นแบบการพัฒนาและฟื้นฟูเศรษฐกิจชายแดนภาคใต้ ณ ห้องประชุม ศอ.บต. อ.เมือง จ.ยะลา 

เอ็มโอยู…  ผศ.ดร.สมบัติ โยธาทิพย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา ลงนามบันทึกข้อตกลงกับ พล.อ.มณี จันทร์ทิพย์ ผู้แทนพิเศษรัฐบาลและผู้แทน กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า และ วิรัต แซ่ตัน นายก อบต.ตาเนาะแมเราะ เพื่อร่วมมือด้านการวิจัยและบริการวิชาการเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น ณ ห้องประชุม มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา 

เยียวยา…  ศรัทธา คชพลายุกต์ รองเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) และเจ้าหน้าที่กลุ่มงานเยียวยา ติดตามเยี่ยมเยือน เจ้าหน้าที่ ตำรวจ ทหาร ที่ได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีของแนวร่วมขบวนการแบ่งแยกดินแดน ใน อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี ซึ่งพักฟื้นรักษาอาการบาดเจ็บ ณ ภูมิลำเนา ใน จ.พัทลุง 

แสดงความยินดี…   พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ ผบก.ภ.จว.ยะลา เข้าร่วมแสดงความยินดี กับ คุณอัยมานน์ อับดุลลาเต๊ะ เจ้าของบริษัท มายด์ฟู้ด คอร์ปอเรชั่น จำกัด เปิดสำนักงานใหม่ และขึ้นบ้านใหม่ ณ บ้านเลขที่ 99/9 ต.หน้าถ้ำ อ. เมือง จ.ยะลา 

เพื่อสันติสุข…    พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 /ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 เป็นประธานในการเปิดกิจกรรม รวมพลชาวมะรือโบตก ร่วมละหมาดฮาญัต สร้างสันติสุข ประกาศพลังปฏิเสธและต่อต้านความรุนแรง และแสวงหาสันติสุขร่วมกัน ณ สนามหน้าเทศบาลมะรือโบตก อ.ระแงะ จ.นราธิวาส 

แก้ปัญหาที่ทำกิน…    พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ นำ ส.ส.ในพื้นที่ จังหวัดชายแดนภาคใต้ รับฟังปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนเกี่ยวกับพื้นที่ทำกินกว่า 500 คน ณ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต.ศรีบรรพต อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส 

หนังสือเคลื่อนที่…   จาตุรนต์ ไชยะคำ รองอธิบดีกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ จัดหน่วยหนังสือเดินทางเคลื่อนที่ ให้บริการทำหนังสือเดินทางให้ประชาชน ณ ห้องโถงหอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ ศาลากลาง จ.นราธิวาส โดยมี สนั่น พงษ์อักษร ผวจ.นราธิวาส ร่วมพบปะประชาชนที่มารับบริการ 

ผู้กล้า… พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 /ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 เป็นประธานในพิธีสวดพระอภิธรรมศพ อส.ทพ.จิโรจ จิตวิสุทธ์ กำลังพล ฉก.ทพ.ที่ 42 พร้อมมอบเงินช่วยเหลือให้กับครอบครัว ณ วัดวังเลา ต.นาเหรง อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช 

มอบเงินกองทุน…   ขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผวจ.ตรัง เป็นประธานในพิธีมอบเงินกองทุนช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี กรณีเสียชีวิตจากอุทกภัย ให้กับทายาทผู้เสียชีวิต รายละ 80,000 บาท ณ ศาลากลาง จ.ตรัง 

แถลงผลงาน…    พล.ต.ต.สันทัด วินสน ผบก.ภ.จว.ตรัง พร้อมด้วยฝ่ายปกครอง กอ.รมน.จังหวัด และ ป.ป.ส.ภาค 9 แถลงผลงานการจับกุมผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ โดยชุดสายตรวจ สภ.เมืองตรัง จำนวน 266,000 เม็ด และยึดทรัพย์ 1.5 ล้านบาท ณ ห้องประชุม บก จว.ตรัง 

รับมอบรถกู้ภัย…   กระจายศักดิ์ ศรีสงค์ นายกเทศมนตรีตำบลบ่อตรุ พร้อมด้วย สุภัทร รอดบน ปลัดเทศบาลตำบลบ่อตรุ  สุริยา เชื้อช่วยชู ผู้อำนวยการกองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม และทีมอาสาสมัครกู้ชีพพยาบาลฉุกเฉิน เข้าร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือจัดทำบริการสาธารณะขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กับองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา 

ด้วยความห่วงใย…  ณัฐกิตติ์ ทองเมืองนายก อบต.วัดจันทร์ อำเภอสทิงพระ จ.สงขลา ได้ลงพื้นที่ร่วมบริจาคสิ่งของ ข้าวสารอาหารแห้ง ให้กับพี่น้องชาววัดจันทร์ ที่ติดเชื้อโควิด-19 ในนาม อบต.วัดจันทร์ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้น 

กอล์ฟการกุศล…    โยธิน ทองเนื้อแข็ง ส.อบจ.สงขลา ประธานชมรมกอล์ฟนักเรียนเก่ามหาวชิราวุธ สงขลา จัดแข่งขันกอล์ฟการกุศลเพื่อกองทุนนักเรียนขาดแคลนทุนทรัพย์ ณ สนามกอล์ฟค่ายเสนาณรงค์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ชิงถ้วย พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผบ.สส. 

กิจกรรมวิ่ง…   ธีรึตม์ ศุภวิบูลย์ผล รอง ผวจ.ยะลา เป็นประธานกิจกรรมวิ่ง Sanyala road trails 2022 ณ สวนดอกไม้เมืองหนาว อ.เบตง จ.ยะลา โดยมี พ.ต.อ.เอกชัย พราหมณกุล ผกก.สภ.เบตง ร่วมเป็นเกียรติ 

ไม่ทอดทิ้ง…   อมร ชุมช่วย นายอำเภอยะหา จ.ยะลา ลงพื้นที่นำถุงยังชีพ และรถเข็น 1 คัน เพื่อมอบให้ หะลีเม๊าะ มสลี ผู้พิการ ณ บ้านเลขที่ 4  หมู่ 3 บ้ายลีตอ ต.บาโร๊ะ โดยมี อุดม นาคแก้ว ปลัดอำเภอ ผู้เป็นหัวหน้าประจำตำบล กำนัน ผู้ใหญ่บ้านร่วมด้วย 

จิบกาแฟ แลคดี..  อะหมัด รามันห์สิริวงศ์ กรรมการบริหารสมาคมหนังสือพิมพ์ภาคใต้แห่งประเทศไทย/ผู้สื่อข่าวเดลินิวส์ประจำจังหวัดยะลา พร้อมด้วย อับดุลนาเซ ดอปอ นักวิชาการพัฒนาชุมชน มอบกระเช้าแสดงความยินดีกับ หมัดซอบรี แวหะมะ นิติศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา และ บูคอรี อาแว นิติศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา เนื่องในโอกาสเปิดสำนักงานกฎหมาย “จิบกาแฟ แลคดี” ณ อาคารซี ใต้หอพักนักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา