กรณียาดองเหล้ามรณะ เพราะเหล้าที่ใช้ดองสมุนไพรเป็นเหล้าปลอม เป็นภัยที่เกิดขึ้นอื้ออึงในประเทศ ไทย ในขณะที่ “บุหรี่ผิดกฎหมาย“ หรือ“บุหรี่ปลอมบุหรี่เถื่อน“กรณีนี้ “ก็เป็นภัย!!“ เช่นกัน หากแต่ในไทยมักจะ “ชาชิน??”… ทั้งนี้ ภัยบุหรี่ผิดกฎหมายนั้น ส่งผลเสียทั้งต่อสุขภาพผู้สูบและสุขภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ!!ซึ่งเมื่อตอนที่ เศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี ก็มีรายงานข่าวว่าได้กำชับกำชาหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องให้เข้มงวดในการป้องกันและปราบปราม…

“ปราบบุหรี่เถื่อน“ รัฐบาลเศรษฐาเข้ม
“รัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร“ ต้องรอดู
กรณีนี้ก็ วัดความใส่ใจของรัฐบาล??“

ทั้งนี้ ว่ากันถึง “บุหรี่ผิดกฎหมาย” ก็จะมีทั้ง “บุหรี่ปลอม” โดยปลอมเครื่องหมายการค้า หรือปิดแสตมป์สรรพสามิตปลอม อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่ของบุหรี่ผิดกฎหมาย หรือประมาณร้อยละ 95 จะเป็น “บุหรี่หนีภาษี” เป็น “บุหรี่เถื่อน”

ย้อนดูข้อมูลการสำรวจ สถานการณ์บุหรี่ผิดกฎหมาย โดยการสำรวจซองบุหรี่เปล่า ในพื้นที่ 36 จังหวัด ที่ทาง “ทีมสกู๊ปเดลินิวส์” ได้เคยหยิบยกหลักใหญ่ใจความบางส่วนมาสะท้อนไว้เมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว มีการวิเคราะห์และสรุปผลการสำรวจไว้ว่า… บุหรี่ผิดกฎหมายมีสัดส่วนเติบโตขึ้นสูงมากโดยจากร้อยละ 15.5 ของการบริโภคบุหรี่ทั้งหมดในไตรมาส 4 ปี 2565 เติบโตเป็นร้อยละ 22.3 ในไตรมาส 2 ปี 2566 หรือเติบโตกว่าร้อยละ 44 และหากเปรียบเทียบกับช่วงก่อนมีการปรับอัตราภาษียาสูบในเดือนตุลาคมปี 2564 ก็พบว่า สัดส่วนบุหรี่ผิดกฎหมายเติบโตเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 260 จากปี 2563

แน่นอนว่า… บุหรี่ผิดกฎหมายนั้น เรื่องการควบคุมในมุมการส่งผลเสียต่อสุขภาพผู้สูบย่อมไม่อาจจะคาดหวัง!! ขณะที่ ในมุมการส่งผลเสียต่อสุขภาพทางเศรษฐกิจของประเทศก็มหาศาลเอาเรื่อง!! โดยมีข้อมูลจากบางแหล่งระบุคาดการณ์ไว้ว่า… ในปี 2566 บุหรี่เถื่อนทำให้เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจในภาพรวมประมาณ 25,000 ล้านบาท!!ซึ่งโฟกัสเฉพาะเรื่องภาษี ก็ สูญเสียภาษีที่จะเข้าภาครัฐในส่วนต่าง ๆ รวมประมาณ 20,000 ล้านบาท

นี่เป็น “ความเสียหายจากบุหรี่เถื่อน”
ที่ “รัฐบาลเศรษฐาขยับแก้ปัญหาเข้ม”

และหากลองย้อนดูรายงานข่าวเกี่ยวกับการเข้มงวด “ปราบบุหรี่ผิดกฎหมาย“ ในช่วงที่ผ่าน ๆ มา ก็อย่างเช่น… วันที่ 27 ตุลาคม 2566 ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปคบ. ร่วมกับเจ้าหน้าที่สรรพสามิต เข้าตรวจจับบุหรี่เถื่อน และเหล้าเถื่อน ที่มีการซุกซ่อนภายในบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.บางกล่ำ จ.สงขลา ตรวจยึดของกลางคิดเป็นมูลค่ากว่า 7 ล้านบาท ซึ่งในส่วนของบุหรี่เถื่อนนั้น ตรวจยึดบุหรี่ต่างประเทศหนีภาษีหลายยี่ห้อ จำนวน 7,340 ซอง คิดเป็นจำนวนมวนก็ 146,800 มวน

ช่วงเดือนเมษายน 2567 ก็มีรายงานข่าว “ปราบบุหรี่ผิดกฎหมาย“ ในพื้นที่ จ.ภูเก็ต จากการสั่งการจัดระเบียบสังคม โดย อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ยุครัฐบาลเศรษฐา ซึ่งวันที่ 24 เมษายน ทางจังหวัด กรมการปกครอง สรรพสามิต ศุลกากร ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงข่าว จับกุมร้านขายบุหรี่เถื่อน บุหรี่ไฟฟ้า เหล้าเถื่อน ครั้งนี้ก็ตรวจยึดของกลางมูลค่าไม่ใช่น้อย ๆ โดย รณรงค์ ทิพย์ศิริ ผอ.ศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครอง ก็เผยไว้ว่า…ไทยเสียหายอย่างมากจากปัญหาการลักลอบนำสินค้าหนีภาษีเข้ามาขายในประเทศปีละไม่ต่ำกว่า 7,000 ล้านบาท

พอถึงเดือนกรกฎาคม 2567 ก็มีรายงานข่าวเกี่ยวกับการเข้มงวด “ปราบบุหรี่ผิดกฎหมาย“ และสินค้าหนีภาษีผิดกฎหมายอื่น ๆ อีกครั้งใหญ่ ครั้งนี้เป็นในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งฝ่ายต่าง ๆ นำโดยรองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ยุครัฐบาลเศรษฐา ร่วมกันแถลงเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม ครั้งนี้ตรวจยึดของกลางคิดเป็นมูลค่ากว่า 300 ล้านบาท โดย ตรวจยึดบุหรี่เถื่อนกว่า 230,000 ซอง หรือคิดเป็นมวนก็กว่า 4.6 ล้านมวน …และจากตัวเลขนี้ก็บ่งชี้สถานการณ์ปัญหากรณีนี้

กรณีปัญหา บุหรี่เถื่อนทะลักสู่ไทย“
“ต้องปราบเข้ม“ หยุดผลเสียที่เกิดขึ้น

ในไทยนั้น “บุหรี่ผิดกฎหมาย” โดยเฉพาะ “บุหรี่เถื่อน” นับว่าเป็น “ภัยสุขภาพผู้คน+ภัยสุขภาพทางเศรษฐกิจประเทศ” ที่มีมาเนิ่นนาน ซึ่งหลัง ๆ นอกจากเป็น “ภัยเรื้อรัง“ แล้วยังเป็น “ภัยที่รุนแรงขึ้น“ อีกด้วย!! ดังนั้น จึง “ต้องไม่ชาชิน“กับภัยนี้ ซึ่งการที่หน่วยงานต่าง ๆ ร่วมกันปราบปราม ถือเป็นเรื่องดี และยิ่งระดับ รัฐบาล โดย นายกรัฐมนตรี และ กระทรวง โดย รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ให้ความสนใจปัญหานี้ แล้วสั่งการ พร้อมอำนวยการและสนับสนุนด้านต่าง ๆ ให้มีการ “บูรณาการ“ทุก ๆหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อย่างเช่น สรรพสามิต ศุลกากร ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง เพื่อ “ร่วมกันปราบเข้ม“ ก็จะยิ่งดี

ทั้งนี้ ประเทศไทยอยู่ระหว่างรอการมีรัฐบาลใหม่ คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ โดยการนำของนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร เข้าทำหน้าที่อย่างเป็นทางการในการบริหารประเทศ แก้ปัญหาของประเทศและประชาชน ซึ่งหนึ่งในปัญหาที่คนไทยก็ต้อง “รอดูการแก้ไข“หรือ “รอวัดใจรอดูการใส่ใจ“ก็รวมถึงกรณี “แก้ปัญหาบุหรี่ผิดกฎหมายอย่างเข้มข้น“ โดยที่…

“ปราบเข้มบุหรี่เถื่อน“ ย่อมจะ ดีแน่“
ดีทั้งในแง่ ลดปัญหาด้านสุขภาพ“…
และ เพิ่มภาษีเพิ่มรายได้เข้ารัฐ“.