สำหรับ 2 โครงการขนาดใหญ่ในพื้นที่ภาคใต้วงเงินรวม 6,500 ล้านบาท สะพานข้ามทะเลสาบสงขลา ต.เกาะใหญ่ อ.กระแสสินธุ์ จ.สงขลา ถึง ต.จองถนน อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง   กับสะพานเชื่อมเกาะลันตา ต.เกาะกลาง-ต.เกาะลันตาน้อย อ.เกาะลันตา จ.กระบี่  ของกรมทางหลวงชนบท(ทช.) โดยมีแผนก่อสร้างปี 2566 เปิดบริการปี 2569  …..ถึงวันนี้ผ่านมาแล้ว 2 ปีหลังวางศิลาฤกษ์  สถานะของทั้ง 2 โครงการยังไม่ได้เริ่มงานก่อสร้าง  เนื่องจากเงินกู้โครงการยังไม่เรียบร้อย

ล่าสุดเมื่อวันที่ 1 ก.ค. ที่ผ่านมา  นายพชร อนันตศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ  (สบน.) กระทรวงการคลัง ได้นัดประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อสรุปเรื่องการใช้เงินนอกงบประมาณ(เงินกู้) จากธนาคารโลก (World Bank) ซึ่งคณะกรรมการบริหาร(บอร์ด) ธนาคารโลกอนุมัติวงเงินกู้2 โครงการในสัดส่วน70% รวม 4,550  ล้านบาท  ให้กระทรวงคมนาคมแล้ว

ที่เหลือวงเงิน 1,950 ล้านบาท (30%) จะของบประมาณรายจ่ายประจำปี  โดยทช.ได้เสนอขอตั้งงบผูกพันปี 2568 2570  ขณะเดียวกัน กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  ได้ขอกู้เงินเพิ่มจากธนาคารโลกอีก  480 ล้านบาท เพื่อดำเนินมาตรการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แก้ปัญหาการใกล้สูญพันธุ์ของโลมาอิรวดีในบริเวณทะเลสาบสงขลา  ตามข้อสังเกตของครม. ที่ได้กำชับว่าการก่อสร้างต้องไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เนื่องจากพื้นที่โครงการอยู่ใกล้เขตพื้นที่ห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลหลวง ซึ่งห่างพื้นที่โครงการประมาณ 6 กม. และเป็นบริเวณที่มีการกำหนดเป็นเขตคุ้มครองโลมาอิรวดีด้วย 

ขั้นตอนต่อไปต้องรอสบน.นำรายละเอียดการกู้เงินทั้งหมดเสนอครม.เห็นชอบเรื่องการใช้เงินกู้เพื่อดำเนินโครงการ หาก ครม. อนุมัติและได้รับความเห็นชอบในการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายปี 2568 ทช. จะประกวดราคา(ประมูล) ทันที โดยแยกเป็น2 โครงการ ใช้เวลาก่อสร้างพร้อมกันประมาณ 3-4 ปี ให้แล้วเสร็จเปิดบริการตามแผนที่ปรับใหม่ภายในปี 2572 

สะพานข้ามทะเลสาบสงขลา วงเงิน 4,700 ล้านบาท  มีสัดส่วนเงินกู้  3,290 ล้านบาท (70%) และเงินงบประมาณ 1,410 ล้านบาท (30%) มีระยะทาง 7 กม. ขนาด 2 ช่องจราจรออกแบบโดยนำจิตรกรรมมโนราห์หรือโนราของท้องถิ่นมาประยุกต์ โครงการมีจุดเริ่มต้นบริเวณทางแยกทางหลวงชนบท พท.4004 (กม.ที่ 3+300) บ้านแหลมจองถนน ต.จองถนน อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง วางแนวข้ามทะเลสาบสงขลา ไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ จุดสิ้นสุดบนถนนรอบเกาะใหญ่  (ถนนของอบจ.สงขลา) บริเวณหมู่ 2 บ้านแหลมยาง ต.เกาะใหญ่ อ.กระแสสินธุ์ จ.สงขลา

จะช่วยลดการเดินทางระหว่างอ.กระแสสินธุ์ จ.สงขลา-อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง จาก 80 กม. เหลือ 7 กม.เดินทาง 2 ชั่วโมง เหลือ 10- 15 นาที  และยังใช้เป็นเส้นทางอพยพประชาชนในพื้นที่ จ.สงขลาไปยัง จ.พัทลุงได้รวดเร็วมากขึ้นหากเกิดภัยพิบัติ

เนื่องจากตลอดแนวทะเลสาบสงขลามีสะพานอยู่เพียง 2 แห่ง ได้แก่ สะพานชะแล้ ตั้งอยู่ด้านล่างของทะเลสาบสงขลาเชื่อมต่อ อ.สิงหนคร จ.สงขลา กับ อ.ปากพะยูน จ.พัทลุง และสะพานเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 (สะพานไสกลิ้ง-หัวป่าหรือสะพานเอกชัย) ตั้งอยู่ด้านบนของทะเลสาบสงขลา เชื่อมต่อ อ.ระโนด จ.สงขลา กับ อ.ควนขนุน จ.พัทลุง สะพานทั้ง 2 แห่ง มีระยะทางห่างกัน 60 กม. ทำให้ประชาชนที่อยู่พื้นที่ตรงกลางของทะเลสาบ ต้องใช้เวลาเดินทางนานถึง 2 ชม.

สำหรับสะพานเชื่อมเกาะลันตา วงเงิน 1,800 ล้านบาท เป็นเงินกู้ 1,260 ล้านบาท (70%) และงบประมาณ 540 ล้านบาท (30%) มีระยะทาง1,825 เมตร   ขนาด 2 ช่องจราจร ถนนต่อเชื่อมทั้งสองฝั่งรวม 415 เมตร โครงการเริ่มต้นจากทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4206 (กม. 26+620) ต.เกาะกลาง ไปบรรจบทางหลวงชนบทสาย กบ.5035 ต.เกาะลันตาน้อย ระยะทางรวม 2,240 เมตร 

สะพานจะช่วยลดระยะเวลาการเดินทางเหลือไม่ถึง5 นาที สะดวก24 ชม.จากเดิมโดยเฉพาะช่วงวันหยุดหรือเทศกาลต้องรอแพขนานยนต์ใช้ระยะเวลาเดินทางนานกว่า 2 ชม.และ มีข้อจำกัดด้านการบรรทุกและช่วงเวลาให้บริการ06.00-22.00 น.เท่านั้น   รวมทั้งใช้อพยพประชาชนได้อย่างรวดเร็วกรณีเกิดภัยพิบัติด้วย

หากเป็นไปตามหมุดหมายที่ปักใหม่ จะได้เริ่มก่อสร้าง2สะพานปีหน้า (2568) เปิดบริการปี 2571 นอกจากอำนวยความสะดวก รวดเร็วและความปลอดภัยในการเดินทางให้กับประชาชนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวแล้ว

…. ยังสร้างแลนด์มาร์คใหม่”สะพานโนรายาวที่สุดของประเทศไทย” จากเดิมสะพานเฉลิมพระเกียรติฯหรือสะพานเอกชัยสร้างสถิติความยาวสะพานไว้ 5.5 กม. ส่วนสะพานเชื่อมเกาะลันตาจะเพิ่มมูลค่าความสวยของเกาะยิ่งขึ้น.

—————
นายสปีด

คลิกอ่านบทความทั้งหมดที่นี่

***ห้ามคัดลอกเนื้อหาในบทความและนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต