สำหรับ72 กม. ที่ให้บริการเพิ่มประกอบด้วยด้านทิศใต้ของย่านสถานีนครปฐม (ประแจหมายเลข 126) – สถานีบ้านคูบัว ระยะทาง 57 กม. และช่วงสถานีสะพลี-สถานีชุมพร (รวมหน้าย่านสถานีชุมพร ราง 1 และราง 3 ) ระยะทาง 15 กม. จากปัจจุบันเปิดเดินรถไฟทางคู่ช่วงสถานีบ้านคูบัว – สถานีสะพลี ระยะทาง348 กม.แล้ว

การเดินรถไฟทางคู่สายใต้รวมระยะทาง 420 กม. ในขณะนี้ใช้ระบบทางสะดวก(E-token) ไปก่อนเพื่อความปลอดภัยในการเดินรถระหว่างรองานติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณของรถไฟทางคู่สายใต้ ช่วงนครปฐม-ชุมพร (สัญญา 7) ซึ่งคืบหน้า 59.762% คาดว่าจะแล้วเสร็จเดือนพ.ค.2568 จากนั้นจึงจะเปิดรถไฟทางคู่สายใต้แบบเต็มรูปแบบต่อไป

นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง(ขร.)  บอกว่า  ในการประชุมคณะกรรมการติดตามและขับเคลื่อนโครงการรถไฟระหว่างเมืองครั้งที่ 1/67  เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา รับทราบความคืบหน้าโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่เฟสแรก(เฟส1) และการผลักดันโครงการรถไฟทางคู่เฟสที่ 2

 เนื่องจากกระทรวงคมนาคมให้ความสำคัญและเร่งรัดโครงการรถไฟทางคู่เฟส1ที่อยู่ระหว่างก่อสร้างทั้ง 5 เส้นทางเพื่อเปิดเดินรถไฟทางคู่บริการประชาชน  ช่วยลดระยะเวลาการเดินทางไม่ต้องรอสับหลีกราง  และเพิ่มความปลอดภัยในการเดินรถให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รองรับการขนส่งผู้โดยสารและสินค้าเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งช่วยลดต้นทุนโลจิสติกส์และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ

นายพิเชฐ  บอกด้วยว่า   ที่ประชุมยังได้เร่งรัดการเปิดใช้งานรถไฟทางคู่เฟส1สายตะวันออกเฉียงเหนือ(อีสาน) ช่วงมาบกะเบา- คลองขนานจิตร ที่คืบหน้าแล้ว 97% เหลือช่วงที่ต้องรอเงินค่าเวนคืนเพิ่มเติมที่อยู่ระหว่างนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.)  ก่อนก่อสร้างบริเวณทางลงยกระดับมวกเหล็ก และพื้นที่ส่วนที่เหลือ จะใช้เวลาอีกประมาณปีเศษ

คาดว่าจะเปิดใช้งานทางคู่ในระยะแรกช่วงสถานีมาบกะเบา-สถานีมวกเหล็กใหม่ (ใช้ทางใหม่เข้าอุโมงค์ที่ 1 (อุโมงค์ผาเสด็จ) และออกจากอุโมงค์ที่ 2 (อุโมงค์หินลับ) จะเบี่ยงขวาเข้าทางรถไฟเดิมก่อนถึงสถานีมวกเหล็กใหม่) ระยะทาง 13 กม. และช่วงสถานีบันไดม้า – สถานีคลองขนานจิตร ระยะทาง 30 กม. รวมระยะทาง 43 กม. ช่วงเดือน ก.ค.2567 ส่วนการเปิดใช้งานอุโมงค์ที่ 3 (อุโมงค์ลำตะคอง) รฟท. เตรียมก่อสร้างทางรถไฟเพิ่มเติมอีก 237 เมตรไปบรรจบทางรถไฟเดิม คาดว่าจะแล้วเสร็จและเปิดใช้งานปลายปี 2567

รวมทั้งเร่งรัดรฟท. ก่อสร้างรถไฟทางคู่เฟส1สายเหนือช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ  โดยเฉพาะสัญญาที่ 1 ช่วงบ้านกลับ-โคกกระเทียม ซึ่งคืบหน้ากว่า 92% โดยให้กำหนดระยะเวลาแล้วเสร็จให้ชัดเจน  เพื่อแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อมระบบขนส่งสาธารณะขนาดรอง (feeder) มารองรับการเชื่อมต่อให้สอดคล้องกับช่วงที่มีการเปิดใช้งานสถานีลพบุรีแห่งใหม่ประมาณปลายปี 2567

สำหรับโครงการรถไฟทางคู่เฟส2 รฟท.เตรียมประกวดราคา(ประมูลก่อสร้าง) สายแรกช่วงขอนแก่น-หนองคาย ระยะทาง 167 กม.ที่ผ่านความเห็นชอบจากครม.อนุมัติให้ก่อสร้างแล้วเมื่อวันที่ 16 ต.ค. 2566  ภายในเดือนมิ.ย. นี้  เพื่อเชื่อมโครงการรถไฟทางคู่เฟสแรกช่วงชุมทางจิระ-ขอนแก่น  ที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง  สนับสนุนการเชื่อมต่อเส้นทางหนองคาย-นครราชสีมา-สระบุรี-ฉะเชิงเทรา- แหลมฉบัง-มาบตาพุด  ขนส่งสินค้าจากสาธารณรัฐประชาชนจีนตอนใต้ สปป.ลาว และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มายังท่าเรือแหลมฉบังและมาบตาพุด มีแผนเปิดบริการปี 2571  

รถไฟทางคู่เฟส2 อีก 5 เส้นทางรวมระยะทาง 1,123 กม.วงเงินกว่า 2.7 แสนล้านบาท   รฟท.เตรียมเสนอคณะกรรมการ(บอร์ด) พิจารณาอีกครั้งก่อนเสนอกระทรวงคมนาคมและครม.ขออนุมัติก่อสร้างประกอบด้วย  1.ช่วงปากน้ำโพ – เด่นชัย 2.ช่วงชุมทางถนนจิระ -อุบลราชธานี3.ช่วงหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ 4.ช่วงชุมพร-สุราษฎร์ธานี และ 5.ช่วงสุราษฎร์ธานี-หาดใหญ่-สงขลา โดยที่ประชุมมอบหมายให้ รฟท. พิจารณาเสนอขออนุมัติโครงการตามลำดับความสำคัญ

กรมการขนส่งทางราง… หน่วยงานหลักที่ควบคุมดูแลระบบรางของประเทศไทย  แจ้งไทม์ไลน์ล่าสุด(กำหนดเวลา)เปิดบริการรถไฟทางคู่   ตอบคำถามประชาชน…จะสร้างเสร็จเปิดบริการกี่โมง???…..แทนเจ้าของโครงการ”การรถไฟแห่งประเทศไทย” ที่ปรับแผนเปิดบริการไปเรื่อยๆ จากปัญหาอุปสรรคต่างๆในการก่อสร้าง.

—————
นายสปีด

คลิกอ่านบทความทั้งหมดที่นี่

***ห้ามคัดลอกเนื้อหาในบทความและนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต