เกิดอาการแปลก ๆ…หมอส่งตรวจ ‘MRI’ จึงพบ  

จนเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว “คุณมุกดา” เกิดความรู้สึกผิดปกติบางอย่างที่มือ-ที่ขา…แต่ก็ไม่ได้มีอะไรรุนแรง และในเมื่อได้นัดลงสนามกับเพื่อน ๆ ไว้แล้ว จึงมุ่งไปตามนัด โดยเจ้าตัวเล่าให้ทีมงาน “อุ่นใจ…ใกล้หมอ” ทราบต่อมาว่า…

“…จริง ๆ แล้วมันก็ไม่ถึงขนาดว่าหมดแรงหรืออะไรนะ แค่เหมือนรู้สึกว่ามันผิดปกติ จับตรงไหนก็รู้สึกจี๊ด ๆ ตรงมือ ตรงขา อะไรแบบนั้น รู้สึกผิดปกติก็ตรงมือชานี่แหละ แต่ด้วยความที่เล่นกีฬามานาน ทำให้คิดว่าเราไม่น่าจะเป็นอะไร…จึงไปตีเทนนิส และเพื่อนก็ทักว่าหน้าเราทำไมมันเบี้ยว ๆ อยู่ข้างหนึ่ง…

วันรุ่งขึ้นก็เลยไปตรวจที่ โรงพยาบาลสุขุมวิท หมอก็ให้ไปตรวจ MRI โดยบอกว่ามีก้อนอยู่ในสมอง แล้วก็ตรวจซ้ำด้วยการฉีดสี ซึ่งเห็นชัดขึ้น และคุณหมอได้อธิบายให้ฟัง ก็ Admit วันนั้นเลย รุ่งขึ้นก็เข้ารับการผ่าตัด นอนพักใน ICU อยู่ 1 วัน พักที่ห้องอีก 3 วัน หมอก็ให้กลับบ้าน และแนะนำให้ทำรังสีบำบัด ต่อมาประมาณอาทิตย์หนึ่ง จึงมาให้หมอเช็ก หมอก็บอกว่าดีขึ้น หน้าดีขึ้น อะไรก็ดีขึ้น ตอนนี้คือแขนขาปกติไม่มีชาแล้ว หน้าก็ดูจะเป็นปกติแล้วด้วยค่ะ…”

การตรวจ MRI

“คุณมุกดา” ได้รับการดูแลรักษาในเบื้องต้นโดย “พญ.จักษณี ธัญยนพพร” แพทย์ผู้ชำนาญการด้านสมองและระบบประสาท ประจำ “โรงพยาบาลสุขุมวิท” ซึ่งหลังจากได้ซักประวัติและตรวจร่างกายเบื้องต้นแล้ว คุณหมอเห็นสมควรที่จะส่งคนไข้รายนี้ไปรับการตรวจสแกนสมองด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า หรือ MRI โดยคุณหมอให้ข้อมูลดังนี้…

“…ทีแรกคนไข้บอกว่ามีอาการนิดเดียวเอง ไม่เห็นต้อง MRI เลยค่ะ จึงได้บอกไปว่าจำเป็นต้องทำ เพราะหมอคิดว่ามีอะไรในสมองแน่ ๆ และพอทำแล้วก็พบเนื้องอกอยู่ด้านขวา ซึ่งทำให้เกิดอาการทางข้างซ้าย ตำแหน่งที่พบคืออยู่ชิดกับขอบที่เรียกว่า cortex ของข้างขวา ทำให้บอกได้ว่า ทำไมเขาไม่ได้มีอาการอ่อนแรงแต่เกิดความรู้สึกแปลก ๆ ขึ้นมา ซึ่งแทบจะเรียกว่าไม่ได้ชาด้วยซ้ำ แต่เป็นอาการที่เกิดจากเนื้องอกก้อนนี้นี่เอง และดูเหมือนจะเป็นมะเร็งด้วยซ้ำนะคะ มีภาวะสมองบวมค่อนข้างมาก จำเป็นที่คนไข้ต้อง Admit วันนั้น เพื่อรอเข้ารับการผ่าตัดในวันถัดไปเลย…

คุณมุกดา สุนันต๊ะพันธ์

คืออาการทางสมองจะมีได้หลายรูปแบบ นอกจากจะมีปวดหัว เวียนหัว ชา อ่อนแรง แล้วยังมีอาการทางตา มีหลายรูปแบบจริง ๆ ซึ่งบางครั้งการที่เรารู้สึกแปล๊บ ๆ ไม่เป็นอะไร นึกว่าเป็นเส้นประสาทด้วยซ้ำ แต่ทางที่ดีอย่ามัวเสียเวลาไปค้นหาข้อมูลเอง…มาหาหมอดีกว่าค่ะ…”

วางแผน ‘ผ่าตัด’ รอบคอบ…ป้องกันสมองเสียหาย  

มาดูกันต่อไปว่า…คุณหมอผ่าตัดในรายของ “คุณมุกดา” ได้เตรียมแนวคิดและแนวทางอย่างรอบคอบรอบรู้อย่างไรบ้าง สำหรับการ “ผ่าตัดสมอง” ให้กับผู้ป่วยหญิงที่ได้เข้ารับการรักษาที่ “โรงพยาบาลสุขุมวิท” รายนี้… โดยติดตามจากการอธิบายของ “นพ.จักรี ธัญยนพพร” ศัลยแพทย์ผู้ชำนาญการด้านศัลยกรรมสมอง ได้เลยครับ…

พญ.จักษณี ธัญยนพพร

“…โดยมาตรฐานการรักษาเนื้อสมอง ซึ่งไม่ว่าจะเป็นเนื้อดีหรือเนื้อไม่ดีก็ตาม ถ้าอยู่ในตำแหน่งที่เข้าถึงได้ง่าย ผ่าตัดได้ดี ก็จะส่งผลให้การรักษาออกมาดี… ซึ่งเนื้องอกในรายนี้อยู่ที่สมองส่วนด้านขวา เป็นตำแหน่งที่ค่อนข้างสำคัญที่ควบคุมแขนและขาซีกซ้าย และควบคุมอาการชักของคนไข้ด้วย… การเตรียมตัวผู้ป่วยและการวางแผนรักษานั้น ค่อนข้างสำคัญมาก ซึ่งนอกจากเตรียมให้ยากันชักเพื่อจะป้องกันภาวะแทรกซ้อนแล้ว ยังจะให้ยาสเตียรอยด์เพื่อลดภาวะสมองบวมให้ผู้ป่วยไว้ด้วย…

และเพื่อให้สามารถนำเนื้องอกออกให้ได้มากที่สุด หรือออกได้หมด… ก็ได้ทำ MRI สแกนหาตำแหน่งที่เป็นรอยโรคให้ถูกต้องที่สุด โดยได้ทำแผนที่สมองเพื่อให้รู้ว่าเนื้อสมองที่ควบคุมการทำงานต่าง ๆ อยู่ตรงไหน จะได้ตัดเอาเนื้องอกออกอย่างเดียวโดยไม่ให้เกิดความเสียหายกับเนื้อสมอง จึงต้องวางแผนในเรื่องของตำแหน่ง ขนาด รูปร่าง และส่วนสำคัญโดยรอบ คือหาตำแหน่งที่ถูกต้องที่สุด แผลผ่าตัดเล็กสุดนะครับ…”

นพ.จักรี ธัญยนพพร

พร้อมกันนี้ คุณหมอยังได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการผ่าตัดด้วยว่า… “…มีผลสำเร็จค่อนข้างดี คือเอาออกได้หมดโดยไม่ได้ทิ้งภาวะแทรกซ้อนอะไรให้คนไข้… ผ่าตัดเสร็จแล้ว คนไข้อยู่ในโรงพยาบาลประมาณไม่เกิน 5-7 วัน ก็สามารถกลับบ้านได้ โดยที่อาการอ่อนแรง หน้าเบี้ยว หรือชา จากการที่เนื้อสมองส่วนสำคัญโดนกดจากเนื้องอก เมื่อเราเอาเนื้องอกสมองออกแล้ว…การทำงานของสมองก็ควรจะกลับคืนมาครับ…”.

หมอจอแก้ว