ชัยชนะเหนือ คริสตัล พาเลซ ดูเหมือนเป็นชัยชนะที่ง่ายดายสำหรับ ลิเวอร์พูล เมื่อดูจากสกอร์ที่ขาดลอย 3-0 แต่เอาเข้าจริงนี่คือ 3 คะแนนที่ไม่ง่าย

ถึงขั้นที่ เจอร์เกน คลอปป์ ให้สัมภาษณ์หลังเกมว่า “นี่คือชัยชนะ 3-0 ที่ทีมต้องออกแรงเหนื่อยมากที่สุดนัดหนึ่ง”

ทำไม…?

หลังผ่านเกมหนักในถ้วยยุโรปมาเมื่อกลางสัปดาห์ คลอปป์ เลือกที่จะ “โรเตชั่น” ในหลายตำแหน่ง โดยเฉพาะเกมรับ ซึ่งแม้จะมีปัญหากับอาการป่วยของ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ จนต้องใช้ เจมส์ มิลเนอร์ มายืนแบ๊กขวาแทน แต่นอนั้นก็ยังมี อิบราฮิมา โกนาเต ลงแทน โฌแอล มาทิป และ คอสตาส ซิมิคาส แทน แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน

เท่ากับว่า เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ต้องรับบทคุมเกมรับในวันที่คนที่ยืนข้าง ๆ ทั้ง 3 คนไม่ค่อยได้เล่นร่วมกันเท่าไหร่ โดยเฉพาะกับ โกนาเต ที่ดูแล้วแม้จะพอดูได้ แต่ก็เห็นได้ชัดว่ายังมีหลายจังหวะที่ยืนผิดตำแหน่ง เรียกง่าย ๆ ว่ายังต้องปรับกันอีกเยอะ ขณะที่แดนหน้า ดีโอโก โชตา กลับมาทวงตำแหน่งคืนจาก ดิวอค โอริกี เล่นร่วมกับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ ซาดิโอ มาเน

และเอาเข้าจริง “เดอะ ค็อป” ก็อกสั่นขวัญแขวนกันตั้งแต่ต้นเกม เมื่อ พาเลซ พลาดโอกาสจะ ๆ ถึง 2 หน

ทีมของ ปาทริค วิเอรา เริ่มได้รับการตบให้เป็นรูปเป็นร่างอย่างที่ “ปั๊ต” ต้องการ พวกเขาเพรสซิงเร็วแล้วใช้การต่อบอลสู้ ซึ่งเป็นคนละสไตล์กับยุคของ รอย ฮอดจ์สัน ชัดเจน และเกมนี้พวกเขาก็ทำได้ดีเสียด้วย

และกว่าจะเริ่มตั้งลำคุมเกมได้ ก็ล่วงเข้าไปเกือบ ๆ กลางครึ่งแรก และประตูขึ้นนำ 1-0 จาก ซาดิโอ มาเน ซึ่งเป็นประตูที่ 100 ของเจ้าตัวกับ “หงส์แดง” ในทุกรายการ และเป็นการยิงใส่ “ปราสาทเรือนแก้ว” เป็นเกมที่ 9 ติดต่อกัน ซึ่งนี่คือสถิติการยิงใส่คู่แข่งทีมเดียวติดต่อกันมากที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก

แต่สิ่งที่สำคัญ มันคือประตูนำที่มาในเวลาที่เหมาะสม นั่นคือท้ายครึ่งแรก ซึ่งทำให้งานของ “หงส์แดง” ในครึ่งหลังง่ายขึ้นกว่าเดิมเยอะ…

ส่วนเกมในครึ่งหลัง เอาเข้าจริง ๆ ลูกทีมของ วิเอรา ก็ถือว่าสู้ได้ดี มีจังหวะที่มำให้ อลิสซอน เบคเกอร์ ต้องออกแรงโชว์ฝีมือแบบจะ ๆ อยู่เหมือนกัน

กระนั้น ประตู 2-0 ของ ซาลาห์ ในช่วงนาทีที่ 78 ทำให้สถานการณ์คลี่คลาย และใครที่ได้เห็นอารมณ์สะใจสุด ๆ ของดาวเตะทีมชาติอียิปต์หลังยิงได้ ก็คงพอจะเบาใจได้เรื่องอนาคตค้าแข้งของเขาและเรื่องการต่อสัญญา เพราะดูแล้วแพสชั่นของ “โม” ยังมาเต็ม…!!!

ขณะที่ประตูที่ นาบี เกอิตา ที่ลงมาเป็นตัวสำรองแทน ติอาโก อัลคันทารา ที่เจ็บ ยิงตูมเดียวจมตาข่ายในนาทีที่ 89 นั้น ถือเป็นลูกเชอรี่บนยอดขนมเค้กที่ทำให้ชัยชนะหอมหวานขึ้น แม้ก่อนหน้านั้นจะต้องออกแรงกันถึงขั้นลิ้นห้อยสักหน่อยก็ตาม

เป็นที่น่าสังเกตุว่า 3 ประตูที่เกิดขึ้นในเกมนี้ มาจากนักเตะแอฟริกาล้วน ๆ ไม่ว่าจะเป็น มาเน จากทีมชาติเซเนกัล ซาลาห์ ของทีมชาติอียิปต์ และ เกอิตา ซึ่ง กินี ส่งเข้าประกวด

และที่ยิ่งไปกว่านั้น 3 ประตูที่เกิดขึ้น มีจุดตั้งต้นมาจากลูกเตะมุมทั้งสิ้น ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องที่ดี และเป็นการแสดงให้เห็นว่าในวันที่เกมไม่ง่าย “หงส์แดง” ยังมีอาวุธหลากหลายพอที่จะเจาะตาข่ายคู๋แข่งได้เช่นกัน…