งานกินเลี้ยงสังสรรค์ในบ้าน “กำนันนก” ผู้กว้างขวางแห่งเมืองนครปฐม ที่มีพื้นฐานทางการเงินอย่างแข็งแกร่งในระดับพันล้านบาทจากธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง-รถบรรทุก ทำให้มีนักเลง มือปืน ไม่เว้นแม้กระทั่งตำรวจจำนวนมากต้องมาพึ่งใบบุญอยู่เป็นประจำ จนกระทั่งเกิดเหตุสะเทือนขวัญ มีการกระหน่ำยิงนายตำรวจเสียชีวิตและบาดเจ็บ ขณะไปร่วมดื่ม-กินที่บ้านกำนันคนดังที่กำลังถูกหลายฝ่ายเปิดโปงถึงที่มาของอิทธิพล-บารมี เครือข่ายธุรกิจรับเหมา อาจมีการใช้อิทธิพลฮั้วประมูลงาน-กีดกันคู่แข่งขันหรือไม่? รวมไปถึงผู้มีอิทธิพลในจังหวัดอื่นๆ ที่มีพฤติการณ์คล้ายกับเมืองนครปฐม

วันนี้ทีมข่าว Special Report สนทนากับ พล.ต.อ.วินัย ทองสอง ในฐานะ ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ ที่เคยผ่านตำแหน่งสำคัญๆมามากมาย ตั้งแต่ผู้บังคับการกองปราบปราม,ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1,ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2,ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล จนกระทั่งเกษียณราชการในตำแหน่ง รอง ผบ.ตร.

อิทธิพลท้องถิ่นมีทุกจังหวัดหนักบ้าง-แรงบ้าง!

พล.ต.อ.วินัยกล่าวว่า ผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่นแบบจ.นครปฐม มีเหมือนกันทุกภาค ทุกหวัดทั่วประเทศไทย บางจังหวัดก็รุนแรง บางจังหวัดไม่รุนแรง เพราะอะไร? เพราะมีคนที่พยายามแสวงหารายได้จากงบประมาณของภาครัฐ จากการจัดซื้อจัดจ้าง การประมูลงานก่อสร้างต่างๆ ก็ต้องไต่เต้ามาเป็นนักการเมืองท้องถิ่น เพื่อให้มีอำนาจ มีบารมี เป็นที่รู้จักของชาวบ้าน และเจ้าหน้าที่รัฐบางส่วน

เริ่มต้นจากการเป็นผู้ใหญ่บ้าน-กำนัน-สจ.-นายกอบต.-นายกเทศมนตรี-นายกอบจ.-สส. โดยส่วนใหญ่ต้องไปเป็นลูกน้อง เป็นมือไม้และหัวคะแนนของ “บ้านใหญ่” หรือ “นายหัว” เสียก่อน

เมื่อมีอิทธิพลบารมี และฐานะทางการเงินแก่กล้ามากขึ้น ต้องมีลูกน้องเดินนำหน้า 5 คน เดินตามหลัง 10 คน ไปไหนมีรถยนต์ลูกน้องปิดหัว-ปิดท้ายขบวน ถือว่าขยับขึ้นมาเป็นผู้กว้างขวางในระดับแถวหน้าของจังหวัด เรียกว่ามี “บ้านใหม่” ขยับขึ้นมาเทียบรัศมี “บ้านใหญ่” ถ้าจัดสรร-แบ่งปันผลประโยชน์ (งานรับเหมา) กันลงตัวก็ไม่เป็นไร ไม่มีรายการเปิดศึกเลือด!

แต่ถ้า “บ้านใหญ่” กับ “บ้านใหม่” จัดสรร-แบ่งปันผลประโยชน์กันไม่ได้เมื่อไหร่ รับประกันต้องมีรายการห้ำหั่นกันแน่ๆ ยกตัวอย่างจ.ชลบุรี ตอนนี้มีทั้ง “บ้านใหญ่-บ้านใหม่” ต่างรู้ไส้รู้พุงกันมา และจัดสรรผลประโยชน์ทั้งการเมืองท้องถิ่น-ธุรกิจ กันลงตัวจึงยังไม่มีปัญหากระทบกระทั่งกัน

ปราจีนบุรี-เพชรบุรี-ลพบุรี-สงขลา-นครศรีฯก็แรง!

“ผมมองว่าอิทธิพลท้องถิ่น และการแย่งงานรับเหมาก่อสร้างมีทุกจังหวัดตามนโยบายกระจายอำนาจ แต่จะมีมาก หรือมีน้อย นั่นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ถ้าถามว่าแรงๆมีที่ไหนอีกนอกจากนครปฐม โดยส่วนตัวมองไปที่ปราจีนบุรี เพชรบุรี ลพบุรี ถ้าภาคใต้คงเป็นที่สงขลา นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี ส่วนชลบุรีอย่างที่บอกไปว่าบ้านใหญ่กับบ้านใหม่คุยกันรู้เรื่อง จึงยังไม่มีปัญหา”

พล.ต.อ.วินัยกล่าวต่อไปว่า สมัยตนเป็นผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 (8จังหวัดภาคตะวันออก) เมื่อ 10 ปีที่แล้ว เคยลงไปลุยที่ปราจีนบุรี “ปราจีนโมเดล” ปราบปรามผู้มีอิทธิพลรับเหมา ฮั้วประมูลงาน มือปืนรับจ้าง เนื่องจากก่อนหน้านั้น ที่นั่นมีรายการตบผู้รับเหมาต่างถิ่นที่เข้าไปโดยไม่รู้จักเจ้าที่เจ้าทาง บางงานมีการจัดฉากตบลูกน้องของตัวเองโชว์ผู้รับเหมารายอื่นๆ ขณะมาซื้อซองประมูลงาน-ยื่นซองฯ หนักไปถึงขั้นลอบวางเพลิงเผารถแบคโฮ และยิงคู่แข่งขันที่ไม่ร่วมสมยอมกันกลางวันแสกๆ ส่วนตำรวจที่ไปทำคดีก็มองเพียงแค่การลอบวางเพลิงทำให้เสียทรัพย์ แต่ไม่ได้มองในมิติความเหิมเกริมของผู้มีอิทธิพลในจังหวัด แต่เมื่อตนเข้าไปจัดการได้ระยะหนึ่ง ผู้อิทธิพลและเครือข่ายในปราจีนบุรีก็เบาๆลงไป 4-5 ปี แต่ปัจจุบันเห็นว่ากลับมาอีกแล้ว!

ส่วนที่ จ.นครปฐม กรณี “กำนันนก” รับประกันได้เลยว่าถ้าเจ้าหน้าที่รัฐไปตรวจสอบแค่ 10-20 โครงการเท่านั้น ตรวจสอบหนังสือบริคณห์สนธิ (เอกสารก่อตั้งบริษัท) จะรู้เครือข่ายทั้งหมด ว่าเป็นบริษัทซ้ำๆหน้ากันมายื่นประกวดราคา เป็นซุ้มเดียวกันหรือไม่ เสนอราคาไม่แตกต่างกันเท่าไหร่ ถ้างานเล็กๆ มูลค่าไม่มาก รายใหญ่อาจจะหลบให้เครือข่ายได้งานไปทำบ้าง

เตือนตำรวจอย่าเป็นไม้ค้ำ-เสริมบารมีให้เขา!

ปัญหาเหล่านี้ ทั้งเจ้าหน้าที่รัฐที่เป็นเจ้าของโครงการควรตรวจสอบให้ละเอียด แม้จะประมูลกันทางอิเล็กทรอนิกส์ ก็ต้องหาทางป้องกันอย่างเข้มงวด ไม่ใช่ผู้รับเหมาหน้าเดิมได้งานรับเหมาปีละหลายร้อยล้านบาท คู่แข่งกันก็ซุ้มเดียวกัน ส่วนผู้รับเหมาจากต่างถิ่นไม่กล้าเข้าไป เพราะรู้กิตติศัพท์ในเรื่องของอิทธิพล มีการข่มขู่และใช้ความรุนแรงกับผู้เข้าแข่งขัน เรื่องเหล่านี้ตำวจต้องเข้าไปดูแล ไม่ใช่ตำรวจแห่กันไปเป็น “ไม้ค้ำ” ให้ผู้รับเหมาขาใหญ่ ไปช่วย “เสริมบารมี” ให้นักการเมืองท้องถิ่นและผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ ซึ่งตรงนี้ผู้บังคับบัญชาต้องดูแลลูกน้อง บ้านไหนเลี้ยงนักเลง-มือปืนไว้ ตำรวจอย่าไปเข้าๆ ออกๆบ้านเขา เพื่อจะไม่มีปัญหาเหมือนที่นครปฐม

“ถ้าเจ้าหน้าที่ของรัฐ นักการเมืองท้องถิ่น และผู้รับเหมาสมประโยชน์กันได้เมื่อไหร่ เราก็จะได้แต่โครงการมูลค่าแพงๆ แต่ผลงานออกมาห่วย! ทั้งนักการเมืองท้องถิ่นและผู้รับเหมาจะมีเงินเลี้ยงดูปูเสื่อนักเลง-มือปืน-คนของรัฐ กลายเป็นผู้มีอำนาจบารมีมากขึ้น จนถึงวันหนึ่งเขานึกอยากจะทำอะไรก็ทำ โดยไม่เกรงใจเจ้าหน้าที่รัฐ” พล.ต.อ.วินัย กล่าว