หลังจากที่ภาพยนตร์เรื่อง The Nun (เดอะนัน) ลงฉายในโรงภาพยนตร์ครั้งแรกในปี 2018 ต่างได้รับเสี่ยงวิพากษ์วิจารณ์อย่างล้นหลามถึงความน่ากลัวของตัวหนัง เพราะเป็นการขยายความที่มาที่ไปของ “ผีแม่ชี” หรือ ปีศาจ Valvak ที่เคยโผล่ใน “เดอะ คอนเจอริ่ง” (คนเรียกผี) โดย The Nun ภาคแรกเล่าถึง “อารามนักบุญคาร์ทา” ที่เดิมเป็นปราสาทของ “ดยุก” ที่บ้าไสยศาสตร์ เขาพยายามอัญเชิญ “Valvak” ขึ้นมาบนโลกแต่ศาสนจักรนำกำลังบุกเข้าจับดยุกไปประหาร ก่อนเอาเครื่องรางที่มีพระโลหิตพระคริสต์มาปิดผนึกรอยแตกบนพื้นสุสาน สามารถขังปิศาจไว้ในห้องนั้นได้สำเร็จ จากนั้นก็แปรปราสาทเป็นอารามแม่ชี มอบหน้าที่ให้สวดขังปิศาจไว้ตลอดมา

จนกระทั่งสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 มีระเบิดตกลงมาจนผนึกแตกออก ปิศาจเล็ดรอดออกมาได้ มันแปลงกายตัวเองเป็น “แม่ชี” ก่อนไล่ล่าสังหารผู้คน จนสุดท้ายเหลือเพียง “ซิสเตอร์ วิกทอเรีย” แน่นอนว่าปีศาจมันพยายามสิงสู่ร่างของเธอ แต่เธอตัดสินใจแขวนคอตายเพื่อไม่ให้มันออกไปจากอารามนี้ได้ ต่อมาศาสนจักรส่ง “บาทหลวงเบิร์ค” (รับบทโดย เดเมียน บิชีร์) และ ซิสเตอร์ไอรีน แม่ชีฝึกหัด (รับบทโดย เทส์ซ่า ฟาร์มิก้า) มาสืบหาว่าอะไรเป็นสาเหตุให้แม่ชีแขวนคอตาย โดยเขาทั้งสองได้รับความช่วยเหลือจากชาวบ้านคนส่งเสบียงที่ชื่อ “เฟรนชี” (รับบทโดย โจนาส โบลเกต์) ท้ายที่สุดทั้งสามต่างร่วมแรงร่วมใจกันกำหราบปีศาจลงได้สำเร็จ

เรื่องย่อ The Nun II หลังจาก 3 ผู้กล้า จัดการปีศาจร้ายได้สำเร็จ ต่างก็ได้แยกย้ายกันไปใช้ชีวิต เวลาผ่านไปหลายปี วันหนึ่งศาสนจักรได้เรียก “ซิสเตอร์ไอรีน” ไปพบก่อนใช้ให้ไปสอบสวนเรื่องราวลึกลับบางอย่าง ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับการกลับมาของ “Valvak” โดยต้นเรื่่องมาจาก “โรมาเนีย” ไล่ไปเรื่อย ๆ จนถึง “ฝรั่งเศส” มีบาทหลวงและแม่ชีถูกสังหารอย่างสยดสยองหลายศพ เรื่องราวของการปราบปีศาจจะเป็นอย่างไรต่อไป สามารถติดตามกันได้ในโรงภาพยนตร์เท่านั้น

จุดแข็งของ The Nun II หนังยังคงเล่นกับความมืดและความเงียบได้ดี “ผีตุ้งแช่” คืองานขายของเรื่องนี้แน่นอน แนะนำให้ หนุ่ม-สาวควงคู่กันไปดูได้เลย ในส่วนของบทบาทตัวละคร ถือว่าจัดวางน้ำหนักได้ดี “ซิสเตอร์ไอรีน” ไม่ได้แบกทั้งเรื่องอย่างที่เหล่านักวิจารณ์คาดการณ์กันไว้ บทเด่นที่ดูแล้วแจ่มจริง ๆ น่าจะเป็นคู่แม่ลูก “เคท-โซฟี” (รับบทโดย “แอนนา ป็อปเปิลเวลล์” และ “แคทลิน โรส ดาวนีย์” มีฉากดราม่าและชวนผวาหลายช็อต การเล่าเรื่องจะแบ่งเป็นพาร์ทของ “เคท-โซฟี” ที่จะเกี่ยวข้องกับ “เฟรนชี” และพาร์ทของตัวหลักคือ “ซิสเตอร์ไอรีน” ทำให้ดูไม่น่าเบื่อ

จุดอ่อนของ The Nun II หนังพยายามขายความน่ากลัว แต่กลับไร้ภาพจำแบบ “หลอนติดตา” ที่น่าเสียดายสุดคงไม่พ้นช่วงท้ายเรื่อง บทจะทำให้มันง่าย ก็ง่ายซะจนต้องอ้าปากค้าง เชื่อว่าหลายคนที่ดูหนังเรื่องนี้จบแล้ว คงอยากถามทางผู้กำกับ “ไมเคิล ชาเวส” ว่า “…แบบนี้ก็ได้หรือ?…”

3/5 เป็นหนังที่จัดวางโครงเรื่องไว้หลวม ๆ ก่อนจะเชื่อมโยงกันให้คลายปมต่าง ๆ ถือเป็น “หนังผี” อีกเรื่อง ที่เหล่า “นักสืบโคนัน” ไม่ควรพลาด ดูไปวิเคราะห์กันไป

———————————————–

คอลัมน์ : ดูหนังกับหมี
โดย : แพนด้าอ้วน
ขอบคุณข้อมูล ภาพ จากเว็บไซต์ Youtube และ Warner Bros. Thailand