เป็นการหวนกลับมาคู่กันอีกครั้งของคู่จิ้นสุดฮอต แจม-รชตะ หัมพานนท์  และ ฟิล์ม-ธนภัทร กาวิละ จากซีรีส์ “Law of attraction กฎแห่งรักดึงดูด”  ทางช่องวัน 31 “คอลัมน์ดาวต่างมุม” ไม่พลาดชวนทั้งคู่มานั่งพูดคุยแบบเอ็กซ์คลูซีฟถึงบทบาทสุดท้าทาย และรีวิวชีวิตในวงการบันเทิงที่มาไกลเกินฝัน

พูดถึงบทบาทของแต่ละคน?

ฟิล์ม : “ผมรับบทเป็นฌานครับ เป็นทนาย พูดได้เลยว่าสนุกมาก ๆ กับบทบาทนี้ที่ได้เล่น ด้วยคาแรกเตอร์ของตัวละครที่เป็นคนเทา ๆ ซึ่งที่ผ่านมาเราไม่ได้มีโอกาสได้เล่นบทที่เป็นดาร์กไซด์ของตัวเองออกมาได้เยอะขนาดนี้ และมีช่วงอารมณ์ค่อนข้างกว้างกว่าบทที่เราเคยได้เล่นมา เราเลยใส่ลูกเล่นต่าง ๆ เข้าไปได้เยอะมาก เลยทำให้เราสนุกและเอนจอยกับการแสดงมาก ๆ ด้วยซีรีส์อาจจะไม่ได้มีสถานการณ์ที่ต้องขึ้นศาล หรือต้องใช้ประมวลกฎหมายเยอะ แต่ในบทสนทนาก็จะมีอยู่บ้าง ตรงนี้เลยต้องใช้ความจำ เพราะประมวลกฎหมายเราไม่สามารถพูดผิดได้ เพราะความหมายมันจะเปลี่ยน เราเลยต้องทำการบ้านในส่วนนี้ให้เยอะขึ้น อ่านให้มากขึ้น ท่องให้เยอะขึ้น เหมือนเด็กนักเรียนอ่านหนังสือสอบครับ”

แจม : “ผมรับบทเป็นติณห์นะครับ เป็นครูสอนพละ สอนเทควันโด เป็นผู้ชายซื่อ ๆ ตรง ๆ ไม่ได้มีเหลี่ยมคมอะไรกับใครทั้งสิ้น และก็รักในความถูกต้อง เราเชื่อว่าไม่มีอะไรเหนือกว่าความถูกต้องไม่ว่าจะเป็นเงิน หรืออำนาจอะไรก็ช่าง จริง ๆ ผมจบด้านครุศาสตร์ แต่เป็นครูดนตรี ไม่ใช่ครูพละ แต่ผมเป็นคนชอบออกกำลังกายคนเลยเข้าใจผิด แต่ด้วยความที่เราเคยสอนเด็กมาแล้ว ก็เลยไม่ได้ทำการบ้านเยอะ แต่ตามบทแล้วเราต้องเป็นครูใจดี เลยต้องยิ้มให้เยอะขึ้น จากชีวิตจริงที่ยิ้มไม่ค่อยเป็น”

กลับมาเจอกันอีกครั้งเป็นยังไงบ้าง?

ฟิล์ม : “อย่าเรียกว่ากลับเลยครับ เพราะไม่ได้ไปไหน ยังเจอกันตลอด (หัวเราะ)”

แจม : “เรียกว่าเปลี่ยนบทบาททางการแสดง (ยิ้ม) ก็สนุก บรรยากาศเหมือนครอบครัวครับ เพราะทีมงานก็เป็นทีมงานเดียวกับละครเรื่องคุณชายเลย ทุกคนก็ยังรู้ใจ รู้มุมกัน อย่างกับฟิล์มเราก็อยู่ด้วยกันมาเป็นปีแล้ว”

ยังตีกันเหมือนเดิมไหม?

ฟิล์ม : “เหมือนเดิมครับ ทุกวันนี้เขาก็ยังบังกล้องผมเหมือนเดิม (ยิ้ม) เราก็ดึงเหมือนเดิม”

ถ้าให้พูดถึงความประทับใจที่มีต่อกันและกัน?

ฟิล์ม : “ผมว่าเรื่องนี้เขาก็ทำงานละเอียดมากขึ้น จากเรื่องที่แล้ว ด้วยประสบการณ์ต่าง ๆ ที่ค่อย ๆ สอนตัวแจมเอง”

แจม : “จริง ๆ ก็ได้อาจารย์ฟิล์มสอนด้วย แล้วอย่างในเรื่องนี้เราก็ได้เห็นฝีมือการแสดงของเขาที่มีหลายมุมมาก ๆ เดาทางไม่ออกจริง ๆ ว่าเขาจะมาแนวไหน ก็เป็นคาแรกเตอร์ใหม่ ๆ ที่เราเคยเห็นตั้งแต่พี่เขาทำงานมา ก็พยายามเก็บข้อมูล เพื่อจะได้เอาอะไรไปใช้ในอนาคตกับการทำงานของเราบ้าง”

มีมุมสวีทจิกหมอนไหม?

ฟิล์ม : “จริง ๆ ผมบอกตั้งแต่ซีรีส์จะออนแล้วว่าซีรีส์เรื่องนี้เราไม่ได้ทำมาเพื่อขายความจิ้น ความฟิน ขนาดนั้น แต่พวกเราทีมนักแสดง ทีมเขียนบท ทีมผู้กำกับ พยายามถ่ายทอดชีวิตมนุษย์สองคนออกไปเท่านั้นเอง พอเขาเกิดความรักต่อกันก็จะมีความโรแมนติกเกิดขึ้นอยู่แล้ว แต่ผมไม่แน่ใจว่าจะฟินจะจิ้นแบบที่แฟน ๆ เขาคาดหวังหรือเปล่า บางคนอาจจะถูกใจ บางคนอาจจะผิดหวังว่าทำไมแค่นี้”

แจม : “ผมว่าจริง ๆ ซีรีส์เรื่องนี้มีความเป็นมนุษย์เยอะมาก ๆ เลยนะ ทั้งบทต่าง ๆ และในมุมมองของความรัก ผมว่าก็จะค่อย ๆ ไต่ขึ้นไปแต่ละสเต็ป ไม่ใช่จับมือกันแล้วจะจิ้นกันทุกฉากขนาดนั้น มันก็เป็นไปไม่ได้ในชีวิตมนุษย์ปกติ”

มาถึงวันนี้แต่ละคนมาไกลมาก รีวิวชีวิตกว่าจะมาถึงจุดนี้หน่อย?

แจม : “จริง ๆ ผมไม่ได้มีเป้าหมายที่จะเป็นนักแสดงครับ แต่มีเป้าหมายที่จะหาตังค์เพื่อไปสอบข้าราชการครู แล้วก่อนหน้านี้ผมเคยถ่ายแบบมาก่อน เลยคิดว่าเส้นทางนี้น่าจะเป็นอีกเส้นทางที่ดี และวันหนึ่งถ้ามีโอกาสเราก็คงจะได้ไปอยู่ข้างหน้าแล้วคนเห็นเราเยอะกว่านี้ มาถึงตรงนี้ก็ไกลกว่าที่เราคิดมาก ๆ แล้ว มันเลยจุดที่เราคิดแล้ว เพราะเราแค่ตั้งเป้าว่าอยากให้ชีวิตครอบครัวเราดีขึ้น แต่พอมาถึงวันนี้เป้าหมายเราเปลี่ยนไป เราอยากเล่นให้เก่งขึ้น เราอยากไปเจอประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่ท้าทายมากขึ้น เราก็อยากพัฒนาตัวเองไปเรื่อย ๆ ทุกวันนี้ก็มีอะไรให้เราเรียนรู้อีกเยอะ”

ฟิล์ม : “8 ปีแล้วนะครับ กับชีวิตในวงการบันเทิงของฟิล์ม ทุกอย่างเริ่มจากศูนย์เหมือนกัน จากคนที่ไม่มีคนรู้จัก ไม่ได้หล่อ ไม่มีอะไรดี ล้มลุกคลุกคลานมาเหมือนกัน ผ่านการเสียน้ำตา การผิดหวัง ผ่านอุปสรรคมาเยอะแยะมากมาย และก็เติบโตมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่ก็ดีใจนะ ที่ได้ผ่านอุปสรรคต่าง ๆ มา เพราะในวันนั้นที่เราคิดว่ายากมากเลย เราจะผ่านมาได้ยังไง แต่พอวันนี้มองกลับไปทุกอย่างมันเล็กมากนิดเดียว และสิ่งหนึ่งที่เราเข้าใจเลยก็คือ ไม่มีอะไรคงอยู่ตลอดไป ไม่ว่าจะเป็นความรัก ชื่อเสียง เงินทอง แฟนคลับ ทุกอย่างมาแล้วก็ไป ทำให้เราเข้าใจชีวิตตัวเองมากขึ้น ซึ่งเราชอบตัวเอง และมีความสุขกับตัวเองในตอนนี้แล้วครับ”.

นฤมล แซ่แต้ : เรื่อง / จุมพล นพทิพย์ : ภาพ