เป็น 1 ใน 7 เส้นทางของโครงการรถไฟทางคู่ระยะ (เฟส) ที่ 1 (ระยะเร่งด่วน) ระยะทางรวม 993 กม. วงเงินลงทุน 113,660 ล้านบาท ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) สำหรับ โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน) ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ ระยะทาง 135 กิโลเมตร (กม.) วงเงิน 2.99 หมื่นล้านบาท ตามแผนเดิมจะเปิดบริการตั้งแต่ปี 2565 ตอนนี้เดือนที่ 2 ของปี 2566 แล้ว ก่อสร้างถึงไหนไปอัพเดทกันเล้ย!

โครงการดำเนินงานโดยบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) และกิจการร่วมค้า ไอทีดี-อาร์ที วันนี้การก่อสร้างทั้ง 4 สัญญาได้ผลงานรวมประมาณ 52% โดยสัญญาที่ 1ช่วงมาบกะเบา-คลองขนานจิตร ระยะทาง 58 กม. คืบหน้า 95.72%, สัญญาที่ 2 ช่วงคลองขนานจิตร-ชุมทางถนนจิระ ระยะทาง 69 กม. ยังไม่มีผลงานก่อสร้าง (รอปรับแบบ), สัญญาที่ 3 งานอุโมงค์รถไฟ 3 อุโมงค์ คืบหน้า 94.96% และสัญญาที่ 4 งานระบบอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคม คืบหน้า 17.38%

งานก่อสร้างล่าช้ากว่าแผนงานที่วางไว้ แม้ว่าสัญญาที่ 1 และสัญญา 3 จะก่อสร้างคืบหน้าไปมากประมาณ 95% แต่งานภาพรวมยังคงติดปัญหาอยู่ โดยปัญหาหลักๆ ประกอบด้วย สัญญาที่ 1 และ 3 ผู้รับจ้างยังไม่สามารถรับมอบพื้นที่ได้บางส่วน และสัญญาที่ 2 ผู้รับจ้างยังไม่ได้เริ่มงานเนื่องจากต้องปรับแบบ และยังมีเรื่องร้องเรียนของชาวบ้านต่อเนื่อง

รฟท. พยายามเร่งแก้งานในส่วนต่าง ๆ ที่เป็นปัญหาเพื่อให้งานก่อสร้างช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ แล้วเสร็จได้ภายในปี 2566 และเปิดบริการปี 67 ส่วนช่วงคลองขนานจิตร-ชุมทางถนนจิระ ต้องรอปัญหาต่าง ๆ จบก่อน จึงจะกำหนดแผนที่ชัดเจนได้อีกครั้ง

ขณะนี้ รฟท. ส่งเรื่องขอเพิ่มกรอบวงเงินค่าทดแทนจากการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ ประมาณ 200 ล้านบาทไปยังกระทรวงคมนาคมพิจารณาแล้ว เพื่อใช้เวนคืนที่ดินบริเวณด้านหัวและด้านท้ายของอุโมงค์ที่ 1 และอุโมงค์ที่ 2 รวมถึงทางรถไฟยกระดับเนื่องจากค่าทดแทนเดิมที่ได้รับประมาณ 56 ล้านบาทไม่เพียงพอ คาดว่ากระทรวงคมนาคมจะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาได้ภายในเดือน ก.พ.-มี.ค. 2566

เบื้องต้นคาดว่า รฟท. จะเริ่มส่งมอบพื้นที่เวนคืนให้ผู้รับจ้างเข้าพื้นที่ก่อสร้างได้ประมาณกลางปี 2566 และจะส่งมอบแล้วเสร็จครบทั้งหมดประมาณเดือน ก.ย.-ต.ค. 2566 ระหว่างนี้ ผู้รับจ้างอาจขอสงวนสิทธิ์ชะลอการก่อสร้างในส่วนพื้นที่เวนคืนไปก่อน จนกว่าจะได้รับมอบพื้นที่ตามสัญญา

ส่วนพื้นที่อื่นๆ ที่ได้รับมอบจาก รฟท.ไปแล้ว ยังดำเนินการต่อไป โดยเพิ่งหมดสัญญาก่อสร้างเมื่อเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา ปัจจุบันผู้รับจ้างขอใช้สิทธิคิดค่าปรับในอัตรา 0% ตามที่กรมบัญชีกลางกำหนด เนื่องจากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และอยู่ระหว่างจัดทำเอกสารขอขยายสัญญา

แม้จะเลื่อนออกไป จากแผนเดิมที่จะเปิดบริการเดินรถไฟทางคู่ช่วงแรกบางส่วนช่วงมาบกะเบา-คลองขนานจิตรภายในปี 2565 แต่ก็พอจะมีข่าวดีอยู่บ้าง เมื่อล่าสุด รฟท.ได้เปิดใช้สถานีใหม่เอี่ยมของโครงการทางคู่สายอีสานแล้ว 7 สถานี ประกอบด้วย สถานีมาบกะเบา, ปางอโศก, บันได้ม้า, ปากช่อง, ซับม่วง, จันทึก และคลองขนานจิตร ยกเว้นสถานีมวกเหล็กใหม่ ที่เป็นทางยกระดับ แต่ยังเดินรถไฟทางเดียวตามเส้นทางเดิมไปก่อน

เพราะมีหลายปัจจัยที่ยังไม่พร้อม อาทิ ระบบอาณัติสัญญาณที่ยังไม่แล้วเสร็จ ส่วนกำหนดเปิดบริการเดินรถไฟทางคู่ช่วงแรกที่ชัดเจน รฟท.จะพิจารณาอีกครั้ง ….ประชาชนจึงได้ใช้บริการสถานีใหม่ บนทางรถไฟสายเก่าไปก่อน

…ทีมข่าวนวัตกรรมขนส่งเดลินิวส์…