สวัสดีท่านผู้อ่าน “เดลินิวส์ออนไลน์” มาพบกันทุกวันเสาร์กับคอลัมน์ “รหัสมอร์สส่องกองทัพ” ซึ่งตรงกับวันเสาร์ที่ 18 ก.ค. 63 สถานการณ์การควบคุมโรคโควิด-19 ของรัฐบาลไทยกำลังเป็นไปด้วยดี แต่อยู่ ๆ รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ก็ถูกทหารอียิปต์ ที่ไม่มีระเบียบวินัย หนีเที่ยวห้าง โดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของคนในประเทศนั้นเลย !!!!  

@@@……กรณี เครื่องบิน ซี 130 จำนวน 2 เครื่อง พร้อมลูกเรือ 31 คนของ กองทัพอากาศอียิปต์ได้รับการอนุมัติให้บินผ่านน่านฟ้าไทย และเข้ามาลงพัก รับบริการและเติมเชื้อเพลิง ณ สนามบินทหารของไทยนั้น เป็นพันธะกรณีระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับความร่วมมือทางทหารซึ่งถือเป็นเรื่องปกติที่ดำเนินการอยู่อย่างต่อเนื่อง แต่จะต้องอยู่ภายใต้กรอบมาตรการการควบคุมโรคของไทยอย่างเคร่งครัด อย่างไรก็ตามพบการละเมิดไม่ปฏิบัติตามและทำให้เกิดความเสี่ยงในการระบาดของโควิด -19 จน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ถึงกับเปรยว่า จังหวัดระยองโดนเครื่องบินอิยิปต์ชน 

@@@……การปฏิบัติภารกิจทางทหารของอียิปต์ เดินทางไปปากีสถานและจีน คาดว่าเป็นภารกิจลำเลียงขนส่งชิ้นส่วนอะไหล่ยุทโธปกรณ์ทางทหาร ซึ่งต้องใช้อากาศยานของทหารเท่านั้น การเข้ามาลงจอดในประเทศไทยขาแรกในช่วงกลางดึกและวิ่งขึ้นไปเช้าตรู่ ก็เพื่อการบริการเครื่องกับการเติมเชื้อเพลิง รวมทั้งวางแผนเข้ามาวางตัวจ่อให้เหมาะสมกับระยะทางในการปฏิบัติการของอากาศยานประเภทนั้น ๆ

โดยให้ไปลงจีนให้ได้ก่อนเที่ยง จะได้เร่งทำงานให้เสร็จแล้วกลับมาพักที่ประเทศไทยซึ่งปลอดภัยจากโรคระบาดมากกว่า ทั้งนี้ ขากลับจากจีนออกมา เชื่อว่าเป็นการวางแผนเพื่อให้ลูกเรือได้พักผ่อนหลังภารกิจเรียบร้อยก่อนเดินทางกลับนั้นเอง เพียงแต่ว่าพักค้าง 1 คืน ก่อนเดินทางกลับ ลูกเรือของ ทอ.อียิปต์มิได้ปฏิบัติมาตราการ โดยออกไปเที่ยวนอกที่พัก

ซึ่งส่วนหนึ่งอาจเป็นเรื่องระเบียบวินัยหย่อนยาน หรือ ปัญหาการสื่อสารระหว่างสถานทูตอียิปต์ประจำประเทศไทย กับเจ้าหน้าที่ลูกเรือของอียิปต์เอง ซึ่งประเด็นดังกล่าว ศบค.จะต้องดำเนินการแก้ไขในรายละเอียด เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์นี้ซ้ำเกิดขึ้นอีก

 อย่างไรก็ตาม การละเมิดไม่ปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคของ ทอ.อิยิปต์ ทำให้ไทยระงับเที่ยวบินของอิยิปต์ที่จะผ่านไทยทั้งหมด ทั้งที่อนุญาตไปแล้ว และกำลังอยู่ในกระบวนการขออนุญาต กรณีดังกล่าวถือเป็นเป็นกรณีตัวอย่างที่ ศบค.ชุดเล็กจะต้องทบทวนขั้นตอนการปฏิบัติในกรณีลักษณะนี้โดยละเอียด เพื่อให้ประชาชนเกิดความมั่นใจต่อไป

@@@……คนที่ถูกรุมถล่มคนแรกเห็นจะเป็น “บิ๊กแดง” พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ที่อยู่ ๆ ก็โดนหางเลขไปกับเขาด้วย หลังจากโดนถล่มทางโซเซียลเป็นที่เรียบร้อย ทาง พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ได้ออกมายืนยันว่า กองทัพบก และพล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆทั้งสิ้นกับการเดินทางมาไทยของทหารสัญชาติอียิปต์ที่ติดเชื้อโควิด -19 พร้อมลูกเรือในฐานะที่เป็นหนึ่งใน 11 กลุ่มชาวต่างชาติที่สามารถเข้าประเทศไทยได้ ตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพ.ร.ก.การบริหารราชการในการสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 6)

โดยจัดอยู่ในกลุ่มผู้ควบคุมยานพาหนะ ซึ่งเข้ามาในราชอาณาจักรตามภารกิจ และมีมาตรการรองรับในการกำกับดูแล ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนใช้วิจารณญาณในการรับข้อมูล โดยเฉพาะการติดเทรนด์แฮชแท็กในทวิตเตอร์ และ โซเชียลมีเดียกล่าวหาและเชื่อมโยงให้เกิดความเข้าใจผิดว่ากองทัพบกหรือผบ.ทบ. มีส่วนเกี่ยวข้อง….ถูกด่าฟรีไปครับท่าน
 

@@@……ฝั่งที่ถูกถล่มอีกก็คือ กองทัพอากาศ งานนี้ “บิ๊กนัต” พล.อ.อ.มานัต วงษ์วาทย์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) กล่าวถึงกรณีการเปิดน่านฟ้าให้กองทัพอากาศต่างประเทศเข้ามาแวะพักเครื่องบินในประเทศช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 หลังเกิดกรณีทหารอียิปต์ติดโควิด-19 ว่า การเปิดน่านฟ้า ถือเป็นเรื่องปกติให้กับอากาศยานต่างประเทศที่ต้องการใช้ เพราะเป็นเรื่องกิจการสากลที่ประเทศทั่วโลกต้องเปิดให้สามารถมีการสัญจรไปมาตามปกติ แต่ทั้งหมดต้องอยู่ภายใต้การควบคุมที่รัดกุม

เช่นเดียวกับของไทยหากมีอากาศยานทหารไปปฏิบัติภารกิจต่างประเทศก็ต้องขอให้ประเทศนั้น ๆ ช่วยเปิดน่านฟ้า เพื่อทำการพักเครื่องที่เป็นไปตามกติกาสากลในเรื่องการสัญจรของอากาศยานที่เกี่ยวข้องกับงานด้านความมั่นคง ซึ่งในการเปิดน่านฟ้าของกองทัพอากาศเป็นไปตามกฎกติกาที่กำหนดไว้ เราไม่สามารถที่จะปิดประเทศหรืออยู่โดดเดี่ยวได้

เพราะฉะนั้นการปฏิสัมพันธ์กับ 180 ประเทศทั่วโลกยังมีความจำเป็น ขึ้นอยู่กับว่าจะยืดหยัดได้นานแค่ไหนบนความแข็งแกร่งของเราเอง หากประชาชนช่วยรัฐและร่วมมือกันก็จะช่วยสกรีน และสร้างความแข็งแกร่งและปิดรูรั่วทั้งหมดได้
 

@@@……ส่วนทหารไทยที่กลับจากฮาวาย ประเทศสหรัฐฯนั้น พล.ท.ธัญญา เกียรติสาร แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมดูแลทหารกองร้อยทหารราบของกองทัพบกไทย (ร้อย.ร.ไทย) RTA Combat Team จำนวน 151 นาย สังกัดกองทัพภาคที่ 2  ที่จะเดินทางกลับจากรัฐฮาวาย สหรัฐอเมริกา ภายหลังจากการฝึกร่วม Lightning Forge 2020 หรือ LF20 ในวันที่ 22 ก.ค.นี้ โดยทางกองทัพบกกำลังพิจารณาประสานเรื่องการขออนุญาตใช้สถานที่กักตัว หรือ State Quarantine จากศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือศบค.ว่าจะสามารถใช้สถานที่ใดได้บ้าง

เบื้องต้นกองทัพบกจะเสนอขอใช้สถานที่โรงแรมที่กองทัพบกดูแล แต่ไม่ใช่โรงแรมในพื้นที่ที่ จ.นครราชสีมา แน่นอน เพราะติดขัดเรื่องสถานที่ที่ไม่เพียงพอต่อการรองรับ ซึ่งคาดว่าจะใช้อาคารรับรองสวนสนประดิพัทธ์ เนื่องจากมีพื้นที่จำนวนพื้นที่ และห้องมากกว่า สามารถรองรับทหารทั้งหมดได้…..แล้วใครจะกล้าไปพักละนั้น

@@@……ในปีนี้ ผู้บัญชาการเหล่าทัพ เกษียณอายุราชการยกแผง วันก่อน “บิ๊กนัต” พล.อ.อ.มานัต วงษ์วาทย์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) ได้พูดถึงการจัดทำบัญชีโยกย้ายนายทหารชั้นนายพลประจำปี 2563 ในส่วนกองทัพอากาศ ว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการพิจารณา จากนั้นจะมีสัญญาณจากกระทรวงกลาโหม ซึ่งเป็นไปตามกลไก ผมยึดมั่นในหลัก 6 ประการกับ 10 คิว ที่จะใช้ในการพิจารณาว่าใครสมควรที่เป็นผู้นำกองทัพอากาศต่อไป

ซึ่งต้องมีความฉลาด มีความคิดสร้างสรรค์ มีคุณธรรม จริยธรรม มีวินัย ขยันมั่นเพียร และมีความจงรักภักดี ที่เป็นโลโก้ทหารอากาศ วันนี้แคนดิเดตทุกคนยังเข้าตา เป็นจังหวะเวลาของเขาที่ต้องเป็นผู้นำกองทัพ เรื่องดังกล่าว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ยังไม่ส่งสัญญาณ แต่เมื่อถึงช่วงกลางเดือนก.ค.-ส.ค.เป็นเวลาการจัดทำโผ การทำโผในส่วนของกองทัพอากาศได้ทำในใจเสร็จหมด เหลือเพียงทำเป็นทำลายลักษณ์อักษร ผมไม่มีอะไรต้องหนักใจ เพราะความหนักใจอยู่ที่ผู้ถูกคัดเลือก…….

..การพิจารณาตำแหน่ง ผบ.ทอ.ยังอยู่ในกระบวนการที่มีการคุยกัน เป็นเพียงการเริ่มต้น การพิจารณายังมีเงื่อนไขและเกณฑ์การพิจารณาอีกหลายเกณฑ์ที่จะต้องนำมาพิจารณาประกอบด้วย ฉะนั้นตอนนี้อย่าเพิ่งไปฟันธงว่าใครจะมา เพราะยังไม่แน่….??
 

@@@……ปิดท้ายเรื่องของการตรวจเลือกทหารจาก “พี่นิ่ม” พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก ฝากบอกว่า กองทัพบกขอแจ้งเตือนชายไทยที่จะต้องเข้ารับการตรวจเลือกทหารในปี2563 ให้รีบไปดำเนินการแก้ไขหมายเรียกเข้ารับราชการ ซึ่งกำหนดไว้ในระหว่างวันที่ 26 มิ.ย.ถึงวันที่ 22 ก.ค. ไม่เว้นวันหยุดราชการโดยเหลือเวลาอีกไม่กี่วันในการที่ทหารกองเกินจะไปติดต่อกับเจ้าหน้าที่สัสดีเขต/สัสดีอำเภอ เพื่อขอแก้ไขหมายเรียกเดิม

ทั้งนี้ การไปยื่นแก้ไขหมายเรียกเดิมจะทำให้ผู้ที่ต้องเข้ารับการตรวจเลือกทหารในปีนี้ได้ทราบข้อมูลใหม่ว่าตนเองจะต้องเข้ารับการตรวจเลือกทหารในวันที่และสถานที่ใดรวมทั้งเจ้าตัวจะได้ไปยืนยันสิทธิ เช่น การขอใช้สิทธิผ่อนผันต่อ การแจ้งขอสละสิทธิ์ผ่อนผันที่เคยใช้สิทธิ์ไว้เมื่อปีที่แล้วเพื่อเข้ารับการตรวจเลือกในปีนี้ การขอสมัครเป็นทหาร การแจ้งขอเข้ารับการตรวจเลือกทหารโดยการจับสลากใบดำใบแดง  เป็นต้น และถ้ายื่นสมัครเป็นทหารในช่วงที่มาแก้ไขหมายเรียกจะได้รับคะแนนเพิ่มพิเศษถึง 15 เปอร์เซ็นต์ ในการสอบคัดเลือกเข้าเป็นข้าราชการของกองทัพบกเมื่อปลดประจำการ 

……………………………………….
คอลัมน์ : รหัสมอร์สส่องกองทัพ
โดย “รหัสมอร์ส” 
ขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจาก : Thai C-130 Community , khunnaiver , huahinpocketguide