สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 27 ก.ค.ว่าสืบเนื่องจากการที่สหพันธ์นักวิทยาศาสตร์อเมริกัน ( เอเอสเอฟ ) เผยแพร่รายงานออกมาเมื่อไม่นานนี้ ว่าจีนซุ่มสร้างไซโลเก็บขีปนาวุธ 110 แห่ง กระจายอยู่ในเมืองฮามี่ ซึ่งอยู่ทางตะวันออกของเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ โดยการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวเกิดขึ้นไม่นาน หลังเมื่อต้นเดือนนี้สื่อท้องถิ่นหลายแห่งของสหรัฐรายงานว่า ที่ทะเลทรายแห่งหนึ่ง ในเมืองอี้เหมิน ของมณฑลกานซู ที่อยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือเช่นเดียวกับซินเจียง มี "ทุ่งไซโล" 119 แห่ง
ศูนย์บัญชาการด้านยุทธศาสตร์ของกองทัพสหรัฐ ให้ความเห็นต่อเรื่องดังกล่าวว่า เป็นครั้งที่สองภายในระยะเวลา 2 เดือนเท่านั้น ซึ่ง "ภัยคุกคามที่ชัดเจนมากขึ้น" ซึ่งซุกซ่อนอยู่ในจีน ได้ปรากฏต่อสาธารณชน
ย้อนกลับไปเมื่อต้นเดือนนี้ นายเน็ด ไพรซ์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ กล่าวเกี่ยวกับการที่เดอะ วอชิงตัน โพสต์ เสนอรายงานว่า จีนเริ่มสร้างฐานยิงขีปนาวุธลักษณะนี้ "มากกว่า 100 แห่ง" ในเขตทะเลทรายทางตะวันตกของประเทศ "เป็นเรื่องที่น่าวิตกกังวล" และทำให้รัฐบาลวอชิงตันต้องตั้งคำถามเกี่ยวกับ "เจตนาที่แท้จริง" ของรัฐบาลปักกิ่งในเรื่องนี้
ขณะเดียวกัน ไพรซ์สันนิษฐานว่า อาจมีความเป็นไปได้เช่นกัน ที่จีนมีขีปนาวุธข้ามทวีปและอาวุธนิวเคลียร์ อยู่ในครอบครองมากกว่าที่มีการเปิดเผยอย่างเป็นทางการ โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา กระทรวงกลาโหมในกรุงวอชิงตัน ประเมินจำนวนหัวรบนิวเคลียร์ของจีนไว้ที่ "ขั้นต่ำประมาณ 200 หัว"
แม้ยังน้อยกว่าสถิติของสหรัฐและรัสเซียหลายเท่าตัว อย่างไรก็ตาม ข้อมูลทั้งหมดบ่งชี้ว่า รัฐบาลปักกิ่งกำลังเบนเข็มนโยบายยุทธศาสตร์นิวเคลียร์ของตัวเอง ออกจากแนวทางการใช้ "อำนาจป้องปราม" ที่ในระดับต่ำสุด คือเป็นการการันตีให้กับตัวเองว่า อย่างน้อยการมีอาวุธนิวเคลียร์ในครอบครอง จะทำให้ศัตรูหรือฝ่ายตรงข้าม "เกิดความหวั่นเกรง" และไม่กระทำการคุกคาม.
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES