การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดล่าสุดที่ทำเนียบรัฐบาล ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน มีความเคลื่อนไหวน่าสนใจ
ในวงประชุม ครม.ได้กางปฏิทินภารกิจรัฐบาลเริ่มตั้งแต่เปิดประชุมสภาสมัยสามัญปีที่ 4 ครั้งที่ 1 ตั้งแต่วันที่ 22 พ.ค.-18 ก.ย.2565 ต่อเนื่องถึงการเปิดประชุมสภาสมัยสามัญปีที่ 4 ครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 1 พ.ย.2565-28 ก.พ.2566
โดยรัฐบาลมีกำหนดอยู่ครบเทอมวันที่ 23 มี.ค.2566
“ขอให้ทุกคนอยู่รอดปลอดภัย ทำงานไปด้วยกันจนจบ และขอให้ทุกกระทรวง อย่ามีเรื่องทุจริตคอร์รัปชั่นในโครงการต่างๆ ของรัฐบาล” พล.อ.ประยุทธ์ กำชับทิ้งท้าย
ถอดรหัสสัญญาณความถี่สูงนาทีนี้ ท่านผู้นำมีความมั่นใจเต็มร้อย มีความพร้อมเต็มที่ในการนำพารัฐนาวา บริหารราชการแผ่นดินครบเทอม 4 ปี
ตามรอยรัฐบาลจอมพล ป. พิบูลสงคราม ช่วงปี 2490-2495 และ ตามรอยรัฐบาลทักษิณ ชินวิตร ปี 2544-2548
ประเด็นที่น่าสนใจคือ หากต่อจิ๊กซอว์การเมือง จะพบสัญญาณ พล.อ.ประยุทธ์ กำลังวางหมากเพื่อถากถางเส้นทางอนาคต รองรับศึกเลือกตั้งครั้งหน้า
(1) จิ๊กซอว์ตัวแรก พล.อ.ประยุทธ์ ยืนยันเดือน พ.ค.รัฐบาล เตรียมเปิดเวทีสาธารณะถ่ายทอดสด ใช้รูปแบบให้รัฐมนตรี และกระทรวงเกี่ยวข้อง ตอบทุกข้อสงสัยสังคม โดยนายกฯ จะไปเป็นประธานเปิดงานด้วยตัวเอง
จับอาการรู้เลย สาเหตุที่ พล.อ.ประยุทธ์ สั่งเปิดเวทีสาธารณะ เพื่อต้องการโชว์ผลงานและเปิดเกมเร็วชิงตัดหน้า ก่อนฝ่ายค้านญัตติอภิปรายไม่ไว้วางรัฐบาล
สอดคล้องกับก่อนหน้านี้ ที่ ‘แรมโบ้อีสาน-เสกสกล อัตถาวงศ์’ ลาออกจากตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรี เพื่อลดแรงกดดันให้นายกรัฐมนตรี และป้องกันเรื่องคลิปหวยถูกโยงไปที่พรรครวมไทยสร้างชาติ ที่ตั้งขึ้นมาเพื่อทำภารกิจสนับสนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์ นั่งเก้าอี้นายกฯ สมัยหน้า
(2) จิ๊กซอว์ตัวที่สอง หลังประชุม ครม. พล.อ.ประยุทธ์ ส่งสัญญาณอยู่ระหว่างหารือฝ่ายเกี่ยวข้องถึงความจำเป็นในการกู้เงินเพิ่ม เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ พร้อมมอบหน่วยงานเกี่ยวข้องไปศึกษาเรื่องเดินหน้าโครงการคนละครึ่งเฟส 5
สอดคล้องกับจังหวะ พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ฉบับวงเงิน 1.5 ล้านล้านบาท ที่รัฐบาลใชเงินเยียวยาผลกระทบโควิดไปเกือบหมดแล้ว
อย่าลืมว่าก่อนหน้านี้ปลายปี 2564 พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะประธานกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐ อนุมัติให้กระทรวงการคลัง ขยับเพดานหนี้สาธารณะจากห้ามเกิน 60% เป็นไม่เกิน 70% ต่อจีดีพี เพื่อรองรับการกู้ในอนาคต
จากการตรวจสอบสถานะการคลังประเทศ หนี้สาธารณะ เดือน ก.พ. 2565 มีทั้งหมด 9.8 ล้านล้านบาท คิดเป็น 60.17% ต่อจีดีพี
เท่ากับรัฐบาลมีโควตากู้เงินเพิ่มได้ 1.6 ล้านล้านบาท จะชนเพดาน 70% ต่อจีดีพี
เอาเป็นว่ามองข้ามชอตไปเลยสำหรับภาพเหตุการณ์อนาคตหรือ “ซีเนริโอ” (Scenario) ที่คนไทยทั้งประเทศจะได้เห็นเต็มสองตาช่วงปลายปี
สารพัดมาตรการ ลด-แลก-แจก-แถม ภายใต้ชื่อโครงการประชารัฐ จะถูกอนมัติออกมา โดยมีผลทางอ้อมคือสร้างคะแนนนิยมให้รัฐบาลก่อนเปิดคูหาเลือกตั้งต้นปี 2566
ทั้งหมดข้างต้นคือหมากการเมืองเพื่อสร้างความได้เปรียบ ตีตั๋วลากยาวรองรับศึกเลือกตั้งใหญ่ต้นปี 2566.
ขุนไพร พิเคราะห์การเมือง