สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย เมื่อวันที่ 2 เม.ย.ว่านายฮันส์ กรุนด์เบิร์ก ผู้แทนพิเศษด้านกิจการเยเมนของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) แถลงว่า ซาอุดีอาระเบียและพันธมิตรในนาม กองกำลังผสมอาหรับ และกองกำลังฮูตี ตลอดจนรัฐบาลพลัดถิ่นของเยเมน เห็นชอบการหยุดยิงทั่วเยเมน “เป็นเวลาอย่างน้อย 2 เดือน” เริ่มตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 3 เม.ย. ซึ่งเป็นวันแรกของเดือนรอมฎอน


ความเคลื่อนไหวดังกล่าว นับเป็นก้าวย่างครั้งสำคัญที่สุดของสงครามกลางเมืองในเยเมน ที่ทวีความรุนแรงตั้งแต่เดือน มี.ค.2558 และคู่กรณีทั้งสองฝ่ายมีความร่วมมือลักษณะดังกล่าวครั้งล่าสุด เมื่อปี 2559 และการเจรจาตั้งแต่ปี 2561 แทบไม่มีความคืบหน้า

แผงขายขนมปัง ที่ตลาดแห่งหนึ่ง ในกรุงซานา เมืองหลวงของเยเมน


สำหรับเงื่อนไขสำคัญของการหยุดยิงครั้งนี้ คือ การที่ทุกฝ่ายต้องไม่ปฏิบัติการทางทหาร รวมถึงการโจมตีข้ามพรมแดน การที่เรือลำเลียงเชื้อเพลิงและสิ่งของช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอื่น สามารถจอดเทียบท่า ในเมืองโฮไดดาห์ ริมชายฝั่งทะเลแดง และเที่ยวบินพาณิชย์สามารถให้บริการได้ ที่ท่าอากาศยานนานาชาติซานา ซึ่งตอนนี้อยู่ภายใต้การควบคุมของกองกำลังฮูตี

นอกจากนี้ ซาอุดีอาระเบียกับกลุ่มฮูตียังคงเดินหน้าหารือ เกี่ยวกับการเปิดเส้นทางสัญจร ในอีกหลายภูมิภาคของเยเมนด้วย


ทั้งนี้ สงครามกลางเมืองในเยเมน ซึ่งเป็นที่กันดีว่าคือ “สงครามตัวแทน” ระหว่างซาอุดีอาระเบียกับอิหร่าน ถือเป็นวิกฤติด้านมนุษยธรรมครั้งเลวร้ายที่สุดของโลกในปัจจุบัน ตามการประเมินของยูเอ็น โดยจำนวนผูเสียชีวิตจากการสู้รบครั้งนี้ อยู่ที่มากกว่า 377,000 ราย และประมาณ 45% ของประชากรในเยเมน คิดเป็นประมาณ 16.2 ล้านคน ต้องการความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอย่างเร่งด่วนที่สุด.

เครดิตภาพ : REUTERS