เมื่อวันที่ 11 มี.ค. นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ได้ประชุมคณะทำงานศึกษาข้อเท็จจริง และข้อกฎหมาย เพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหา และความเสียหายของรัฐ ที่มีอยู่ในปัจจุบัน และที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ในโครงการระบบการขนส่งทางรถไฟยกระดับในกรุงเทพฯ (คดีโฮปเวลล์) โดยมีนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ปลัดกระทรวงคมนาคม ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.), ผู้แทนจากสำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานปลัดกระทรวงคมนาคม รฟท. กรมบัญชีกลาง สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ และผู้ทรงคุณวุฒิในด้านต่าง ๆ เข้าร่วมประชุม
นายศักดิ์สยาม กล่าวต่อว่า ที่ประชุมได้พิจารณาแนวทางการดำเนินงานภายหลังศาลปกครองสูงสุด มีคำสั่งที่ 81-83/2565 ฉบับลงวันที่ 24 ก.พ. 65 กลับคำสั่งของศาลปกครองชั้นต้น เป็นให้รับคำขอให้ศาลพิจารณาพิพากษาคดีใหม่ของกระทรวงคมนาคม และ รฟท. ไว้พิจารณา และให้ศาลปกครองชั้นต้นพิจารณางดการบังคับคดีที่บังคับให้กระทรวงคมนาคม และ รฟท. ชำระเงิน 2 หมื่นกว่าล้านบาทให้แก่ บริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นสัญญาณในทางที่ดีต่อภาครัฐในการขอพิจารณาคดีใหม่
นายศักดิ์สยาม กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ยังได้หารือถึงแผนปฏิบัติการ (Action Plan) ที่กระทรวงคมนาคม และ รฟท. ต้องดำเนินการภายในกรอบระยะเวลาของกฎหมายที่กำหนดไว้ในการฟ้องคดีต่อศาล สำหรับความสำเร็จของการยื่นขอพิจารณาคดีใหม่ในครั้งนี้ มีนายพีระพันธุ์ เป็นหัวหน้าทีมในการสืบค้นพยานหลักฐานต่าง ๆ และข้อพิรุธ อย่างไรก็ตาม การประชุมครั้งนี้เป็นนิมิตหมายอันดีที่กระทรวงคมนาคม และ รฟท. ได้มีโอกาสต่อสู้โดยคดีจากพยานหลักฐาน และข้อพิรุธต่าง ๆ โดยได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานอัยการสูงสุดเป็นอย่างดีในการต่อสู้คดีไปด้วยกัน
นายศักดิ์สยาม กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ ที่ประชุมพิจารณาแล้วได้ข้อยุติว่า กระทรวงคมนาคม และ รฟท. จะทำหนังสือถึงอัยการสูงสุด เพื่อขอความอนุเคราะห์แต่งตั้งพนักงานอัยการพิจารณาดำเนินการในคดีแทนกระทรวงคมนาคม และ รฟท. โดยมีผู้แทนกระทรวงคมนาคม และ รฟท. รวมทั้งมีมติให้ นายพีระพันธุ์ เป็นผู้ประสานงานคดีนี้ โดยคณะจะดำเนินการเรื่องดังกล่าวให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 18 มี.ค. 65 ซึ่งพนักงานอัยการก็ได้รับทราบ และยินดีรับข้อเสนอของกระทรวงคมนาคม และ รฟท.