เมื่อวันที่ 20 ก.ค. ที่รัฐสภา นายสาคร เกี่ยวข้อง ส.ส.กระบี่ พรรคประชาธิปัตย์ โฆษกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 ร่วมแถลงข่าวผลการประชุมคณะกรรมาธิการ ครั้งที่ 28/2564 โดยระบุว่าการพิจารณางบประมาณที่ผ่านมา กมธ.ใช้เวลาไปแล้ว 26 วัน รวม 230 ชั่วโมง รวมหน่วยงานที่ผ่านการพิจารณาแล้ว 18 กระทรวง 18 กองทุน คิดเป็น ร้อยละ 79.3 ของวงเงินงบประมาณทั้งหมด สำหรับการประชุมเมื่อวันที่ 19 ก.ค. ที่ประชุมได้พิจารณางบประมาณในภาพรวมของกระทรวงกลาโหม และหน่วยงานในสังกัดกระทรวงกลาโหม ทั้งหมด 6 หน่วยงาน งบประมาณทั้งสิ้น 203,281,969,300 บาท และพิจารณางบประมาณหน่วยงานในสังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี ที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงอีก 2 หน่วยงาน โดยผ่านระบบการประชุมออนไลน์คือ กระทรวงกลาโหม และสำนักนายกรัฐมนตรี
นายสาคร กล่าวว่า ทั้งนี้ในการพิจารณาภาพรวมงบประมาณของกระทรวงกลาโหม ที่ประชุมได้มีการหารือถึงสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศที่มีความรุนแรงมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีกรรมาธิการให้ข้อเสนอแนะว่า หน่วยงานควรให้บุคลากรทางการแพทย์ของหน่วยงาน ช่วยเหลือประชาชนและสนับสนุนรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาการระบาดของโรค และปัญหาด้านสาธารณสุขอื่น ๆ ด้านกองทัพบก ได้ชี้แจงว่า หน่วยงานได้ทุ่มทรัพยากรทุกอย่างที่มี เพื่อดำเนินการช่วยเหลือประชาชน มาตั้งแต่เริ่มมีการระบาด เมื่อปี พ.ศ. 2563 ได้ดำเนินการช่วยเหลือประชาชน อาทิ การดูแลและสกัดกั้น การลักลอบเข้าเมืองที่ผิดกฎหมายของแรงงานต่างด้าว และสามารถจับกุมผู้ลักลอบเข้าเมืองมากกว่า 30,000 คน
นอกจากนี้ยังได้สนับสนุนการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามและสถานกักกันของรัฐให้กับหน่วยงานอื่น ๆ ที่ไม่มีความพร้อมและไม่สามารถจัดหาสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ พร้อมกับได้จัดตั้งโรงพยาบาลสนามในโรงพยาบาลของหน่วยงานจำนวน 37 แห่งทั่วประเทศ เพื่อช่วยเหลือประชาชน และการคัดกรองผู้ป่วยหรือการรักษาผู้ป่วยโรคโควิด-19
ด้านนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ โฆษก กมธ. กล่าวเสริมว่า ภาพรวมของการพิจารณางบประมาณกระทรวงกลาโหมนั้นผ่านไปด้วยความเรียบร้อยบนความไม่เรียบร้อย ซึ่งมีความเข้าใจคลาดเคลื่อนเกี่ยวกับงบเรือดำน้ำในส่วนลำที่ 1 ได้มีการจ่ายไปแล้ว ประมาณ 8,000 กว่าล้านบาท เงินที่ใช้ไปแล้วในเรือดำน้ำลำที่ 1 จะถอนงบตรงนั้นมาเพื่อซื้อวัคซีนเป็นเรื่องที่ทำไม่ได้ ซึ่งตนต้องออกมาชี้แจง เพราะเห็นว่า มี ส.ส.รุ่นใหม่ดีกรีเรียนถึงเมืองนอกแต่ไม่รู้ข้อมูล นำไปแชร์ต่อในเฟซบุ๊ก ถือเป็นเรื่องที่ตกประเด็น ส.ส.บางท่านเอางบเรือดำน้ำที่จ่ายไปแล้วมาคิดเป็นงบที่จะจัดซื้อวัคซีน ถือเป็นเรื่องไม่จริง
นายเรืองไกร กล่าวต่อว่า ความเป็นจริงมีดังนี้ งบประมาณที่ทางกองทัพเรือยอมถอนออกไปเป็นงบประมาณปี 2565 เป็นงบจัดซื้อเฉพาะเรือดำน้ำ 2 ลำ หลังที่จะมีการจัดซื้อ ทำให้เห็นว่า ข้อมูลที่สื่อมวลชนได้รับอาจมีการคลาดเคลื่อน เพราะงบประมาณที่จะนำมาจัดซื้อวัคซีนไม่ได้มาจากงบประมาณของเรือดำน้ำ งบประมาณที่จะนำไปซื้อวัคซีนป้องกันโควิด-19 นั้นคือ งบประมาณที่อยู่ในพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) เงินกู้ฯ 5 หมื่นล้านบาท
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในส่วนของงบกระทรวงกลาโหม นอกจากการปรับลดในส่วนของเรือดำน้ำ จะมีการเสนอปรับลดรายการอื่นอีกหรือไม่ นายเรืองไกร กล่าวว่า มีแน่นอน มีการเสนอปรับรายการอื่นๆ ซึ่ง กมธ.ของพรรคต่างๆ มีการเสนอเข้ามาเช่น สิ่งก่อสร้างต่างๆ ของกระทรวงกลาโหม แต่ทุกอย่างต้องใช้เหตุผล ไม่ใช่ถึงเวลาจะเสนอตัดอย่างเดียวคงไม่ได้ พูดมันดูง่าย แต่ต้องดูว่า มีความชอบด้วยเหตุผลหรือไม่