เมื่อวันที่ 17 ต.ค. 67 นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยว่า วันนี้ได้ส่งหนังสือทางไปรษณีย์ EMS ขอให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ทำการตรวจสอบ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ว่าได้รับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดอันอาจคํานวณเป็นเงินได้จากซินแสทั้ง 2 คน อันอาจเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 128 หรือไม่ โดยมาตรา 128 ระบุว่า “ห้ามมิให้เจ้าพนักงานของรัฐผู้ใดรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดอันอาจคํานวณเป็นเงินได้จากผู้ใด นอกเหนือจากทรัพย์สินหรือประโยชน์อันควรได้ตามกฎหมาย กฎ หรือข้อบังคับ ที่ออกโดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย เว้นแต่การรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด โดยธรรมจรรยาตามหลักเกณฑ์และจำนวนที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. กำหนด”
นายเรืองไกร ระบุว่า เมื่อวันที่ 15 ก.ย. 67 เว็บไซต์ไทยรัฐ ระบุ “ทักษิณ” แนะนำซินแสดูห้องทำงานในทำเนียบรัฐบาล ปรับให้เหมาะกับ “นายกฯ อิ๊งค์” ลงข่าวไว้บางส่วนดังนี้ “วันที่ 15 ก.ย. 67 ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า ก่อนที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะเข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาลในช่วงเช้าของวันที่ 12 และ 13 ก.ย. 67 ที่ผ่านมา น.ส.แพทองธาร ได้ปรึกษา นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้เป็นบิดา โดยนายทักษิณ ได้แนะนำซินแส 2 คน ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทชาวต่างชาติให้เข้ามาดูสถานที่ทำเนียบรัฐบาล และห้องทำงานนายกรัฐมนตรีบนตึกไทยคู่ฟ้า ทำให้มีการปรับเปลี่ยนจากเดิมในยุคของ นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้ทำงาน กรณีซินแส 2 คนนั้น น่าจะมีเงินได้พึงประเมินตามความในประมวลรัษฎากร มาตรา 40 และถือเป็นเงินได้เนื่องจากหน้าที่งานหรือกิจการที่ทำในประเทศ ตามความในมาตรา 41 แต่หากไม่มีการจ่ายเงินได้ ผู้รับบริการคือนายกรัฐมนตรี ก็อาจมีการรับประโยชน์อันอาจเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย ป.ป.ช. ตามมาได้
นายเรืองไกร กล่าวต่อว่า จากข้อเท็จจริงดังกล่าว จึงมีเหตุอันควรตรวจสอบตามลำดับ ดังนี้ ตรวจสอบตามประมวลรัษฎากรก่อนว่า ซินแส 2 คนนั้น มีเงินได้พึงประเมินตามความในประมวลรัษฎากร มาตรา 40 เป็นจำนวนเงินเท่าใด และถือเป็นเงินได้เนื่องจากหน้าที่งานหรือกิจการที่ทำในประเทศ ตามความในมาตรา 41 หรือไม่ ตรวจสอบว่า น.ส.แพทองธาร เป็นผู้จ่ายเงินได้พึงประเมินให้ซินแสทั้ง 2 คน หรือไม่ จ่ายโดยวิธีใด ตรวจสอบว่า หาก น.ส.แพทองธาร ไม่ได้จ่ายเงินได้ให้ซินแสทั้ง 2 คน จะถือว่าได้รับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดอันอาจคํานวณเป็นเงินได้จากซินแสทั้ง 2 คน อันเป็นการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 128 ในส่วนที่บัญญัติว่า ห้ามมิให้เจ้าพนักงานของรัฐผู้ใดรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดอันอาจคํานวณ เป็นเงินได้จากผู้ใดหรือไม่.