สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงลอนดอน ประเทศสหราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 20 ก.ค.ว่ากระทรวงสาธารณสุขของสหราชอาณาจักรรายงานสถิติผู้ป่วยโรคโควิด-19 สะสมในประเทศอย่างน้อย 5,473,477 คน เพิ่มขึ้น 39,950 คน ลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับหลายวันที่ผ่านมา หายป่วยเพิ่มขึ้น 7,515 คน ยังคงเหลือผู้ป่วยต้องรักษาตัวอยู่ในระบบอย่างน้อย 940,285 คน และเสียชีวิตสะสมอย่างน้อย 128,727 ราย เพิ่มขึ้น 19 ราย
สถิติดังกล่าวได้รับการเผยแพร่ในวันเดียวกับที่นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ประกาศเป็น "วันอิสรภาพ" จากโรคโควิด-19 เฉพาะในอังกฤษ สิ้นสุดมาตรการล็อกดาวน์ระยะสุดท้าย ซึ่งบังคับใช้ตั้งแต่ปีที่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการรักษาระยะห่าง การทำงานที่บ้านให้มากที่สุด และการสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า เมื่ออยู่ในสถานที่สาธารณะ
ทั้งนี้ทั้งนั้น ภาครัฐยังคงมีข้อกำหนดสำหรับประชาชน ซึ่งต้องการใช้บริการไนต์คลับ และร่วมงานขนาดใหญ่ซึ่งมีผู้คนจำนวนมาก ต้องแสดงเอกสารยืนยันว่า "ฉีดวัคซีนครบแล้ว" ก่อนเข้าสู่พื้นที่ เริ่มตั้งแต่สิ้นเดือนก.ย.นี้ หมายความว่า ผู้ที่ฉีดวัคซีนยังไม่ครบ จะไม่สามารถเข้าใช้บริการได้ แต่มาตรการนี้ไม่ครอบคลุมการเข้าใช้บริการในผับ
อย่างไรก็ตาม นพ.แพทริก วัลลานซ์ หัวหน้าที่ปรึกษาด้านนโยบายวิทยาศาสตร์ของรัฐบาลสหราชอาณาจักร กล่าวว่า นับจากนี้มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดการติดเชื้อแบบคลัสเตอร์ตามไนต์คลับ และสถานที่ซึ่งมีคนรวมตัวเป็นจำนวนมาก แม้รับบริการเฉพาะผู้ที่ฉีดวัคซีนครบแล้วก็ตาม

ขณะที่นายซาดิก ข่าน นายกเทศมนตรีกรุงลอนดอน ยืนยันว่า ประชาชนซึ่งต้องการใช้บริการขนส่งสาธารณะในพื้นที่ ไม่ว่าเป็นรถประจำทาง รถไฟ และรถไฟใต้ดิน ต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า ตลอดเวลาที่อยู่ในระบบ.

เครดิตภาพ : AP