@@@ พบกับ “เดลินิวส์มอเตอร์สปอร์ต”ทุกวันอังคาร โดย “แชมป์ บางชัน”@@@ ก้าวสู่ศึกมอเตอร์สปอร์ตระดับโลกฤดูกาล 2022 กันแล้ว วันนี้มาย้อนรอยควันหลงจากศึกรถสูตรหนึ่งชิงแชมป์โลก “เอฟวัน 2021”กัน@@@โจลียง พาลเมอร์ผู้บรรยายและคอลัมนิสต์มอเตอร์สปอร์ตชาวอังกฤษ อดีตนักขับเอฟวันของทีมเรโนลต์ สปอร์ต ได้วิเคราะห์ สรุปการแข่งขันรถสูตรหนึ่งชิงแชมป์โลก ฤดูกาล 2021หรือ “เอฟวัน 2021” ไว้ในมุมมองที่ไม่เหมือนใคร ดังนี้ @@@ 1. นับขับยอดเยี่ยม(BEST DRIVER)ยกให้ แม็กซ์ แฟร์สตัปเพนนักขับดัตช์ของเรดบุลล์ เรซซิ่งฮอนด้าซึ่งคว้าแชมป์โลกเอฟวัน2021 ไปครอง ด้วยการขับเคี่ยวกับ ลูอิส แฮมิลตันแชมป์โลก 7 สมัย แย่งแชมป์โลกปีนี้กันอย่างตื่นเต้น จนต้องวัดกันถึงสนามสุดท้ายที่อาบูดาบี และ แมดแม็กซ์แซงรอบสุดท้ายนเข้าวิน โดยมี แฮมิลตันเข้าที่ 2 ทำแต้มสะสมคว้าแชมป์โลกเอฟวันได้สำเร็จเป็นครั้งแรกในชีวิตด้วยสถิติ แชมป์ 10สนาม 10 โพล 18 โพเดี้ยม จากการชิงชัย 22 สนาม ในปีนี้@@@2.ทีมแข่งยอดเยี่ยม (BES TEAM) ได้แก่ทีมเมอร์เซเดส (Mercedes)โดย เมอร์เซเดส คว้าแชมป์โลกทีมผู้สร้างปี 2021มี613.5 คะแนน เหนืออันดับ 2เรดบุลล์ ทีมี 585.4 คะแนน และที่ 3เฟอร์รารี 323.5คะแนน จากการร่วมทีมของ แฮมิลตันและ วัลต์เทลี บอสตาสนักขับฟินแลนด์ ซึ่ง เรดบุลล์ดูจะเน้นการคว้าแชมป์โลกนักขับมากกว่า @@@ 3.โชว์ฟอร์มเยี่ยมที่สุด (Best individual performance) ได้แก่ ลูอิส แฮมิลตัน ในการคว้าชัยสนามที่ 19 รายการ เซา เปาโล กรังด์ปรีซ์ เรียกว่าเป็นการโชว์ฟอร์มคว้าแชมป์ขั้นเทพที่สุดของเอฟวัน2021หลัง แฮมิตันออกสตาร์ทจากที่ 10แต่ยังสามารถไล่แซงคว้าแชมป์ไปสุดมัน ในการซิ่งกัน 71 รอบสนาม ทั้งที่ แฟร์สตัปเพน นำมาตลอด จนมาถึง รอบที่ 59 แฮมิลตันที่ไล่บี้ขึ้นมาจากอันดับที่ 20 ขึ้นมาอันดับ 5 โดยใช้เวลาไล่แค่ 24 รอบสนาม ก็หาช่องแซงนักแข่งรุ่นน้องขึ้นไปนำแทน และรักษาตำแหน่งเอาไว้อย่างเหนียวแน่นจนถึงรอบสุดท้ายคว้าแชมป์สนามนี้ไป@@@
4.ม้ามืด ฟอร์มเยี่ยมที่สุด (Best underdog performance) ยกให้ แลนโด นอร์ริส ในสนามที่ 15 ศึกรัสเซียน กรังด์ปรีซ์ ณ สนามโซชิ ออโตโดรม เมืองโซชิ ประเทศรัสเซียซึ่งแลนโด นอร์ริสนักขับสหราชอาณาจักร ของทีมแม็คลาเรน เร่งสปีดฝ่าสายฝนทำเวลาดีที่สุด คว้าโพล โพซิชั่น เป็นครั้งแรกในชีวิต แม้ในรอบสุดท้าย แฮมิลตันจะเหยียบคันเร่งสู้ฝนที่เทกระหน่ำในรัสเซียคว้าแชมป์สนามที่ 100 ในชีวิตมาได้ขณะที่ แลนโดนอร์ริสนำมาตลอดแต่ดันตกม้าตายลื่นหลุดโค้งในช่วง2 รอบสุดท้าย จบอันดับ 7ไปก็ตาม@@@ 5.ทำเวลายอดเยี่ยมในรอบคัดเลือก (Best qualifying lap) ได้แก่ จอร์จ รัสเซลล์ ดาวรุ่งอังกฤษของทีมวิลเลียมส์ ในศึกเบลเยี่ยม กรังด์ปรีซ์ ซึ่งรายการนี้เป็นสนามที่12ของฤดูกาล แม็กซ์ แฟร์สตัปเพนผงาดคว้าชัย หลังฝนเทลงมาอย่างหนัก วิ่งไปได้แค่ 2 รอบ ก่อนถูกตัดจบ ขณะที่ จอร์จ รัสเซลล์ได้อันดับ 2 ขึ้นโพเดียมครั้งแรกในชีวิต@@@ 6.นักขับที่พัฒนามากที่สุด (Most-improved driver)ได้แก่ คาร์ลอส ซายน์ซนักขับสแปนิช ของเฟอร์รารี ปีนี้เป็นดาวรุ่งที่พัฒนาฝีมือดีมาก โดยเฉพาะการขึ้นโพเดี้ยม คว้าที่ 3 ในสนามสุดท้าน อาบูดาบี กรังด์ปรีซ์ ที่ยูเออี @@@ 7. นับขับหน้าใหม่ยอดเยี่ยม (Best Rookie) ได้แก่ มิค ชูมัคเกอร์ ลูกชายของแชมป์โลก 7สมัย ตำนานเอฟวัน มิชาเอล ชูมัคเกอร์ซึ่ง มิค เปิดตัวเป็นรุกกี้หน้าใหม่ ขับขี่ให้กับทีมฮาสส์ ทีมเล็ก ๆ ที่อยู่ในความดูแลของ เฟอร์รารี แต่ มิคก็ดูมีพัฒนาการที่ดี น่าจับตามองในฤดูกาลหน้า@@@
8.เรซ ยอดเยี่ยม (BEST RACE) ได้แก่ศึกฮังกาเรียน กรังด์ปรีซ์ นับเป็นเรซของ ฟอร์มูล่าวัน ที่มีเหตุพลิกผันตลอดทั้งเรซ ตั้งแต่อุบัติเหตุในรอบแรกจนมีนักขับต้องถอนตัวไปถึง5 คน และอีกดราม่าหลังจบเรซด้วยชัยชนะของ เอสเตบัน โอคอน นักขับฝรั่งเศส ของอัลพีน เอฟวัน ทีมที่สร้างเซอร์ไพรส์คว้าแชมป์เอฟวันสนามแรกมาครองได้ นับตั้งแต่เข้าสู่เอฟวันในปี 2016ตามมาด้วยเซบาสเตียน เวทเทลจาก แอสตัน มาร์ติน และ แฮมิลตันในอันดับ3แต่เวทเทลถูกตรวจพบว่าส่งตัวอย่างน้ำมันให้ฝ่ายตรวจสภาพเพียง300 มิลลิลิตร จากที่กฎระบุไว้ว่าต้องให้มี “น้ำมันตัวอย่าง” อย่างน้อย 1 ลิตรส่งผลให้ เวทเทลถูกลงโทษไม่ให้มีผลการแข่งขัน หรือ “ดิสควอลิฟาย”จากเรซนี้ไป ทำให้ แฮมิลตันขยับขึ้นมารั้งอันดับ 2 ตามด้วย ซายน์ซในอันดับ 3@@@9.ช่วงเวลาแห่งปี (Moment of the year) ได้แก่ การชิงชัยรอบแรก ในสนามที่ 10ศึกบีริติชข กรังด์ปรีซ์ เมื่อ ลูอิส แฮมิลตัน ผงาดคว้าแชมป์เอฟวันรายการ “บริติช กรังด์ปรีซ์”ไปครองแบบสุดดราม่า หลังขับรถไปชนกับ แม็กซ์ แฟร์สตัปเพนคู่ปรับตัวเอ้ ตั้งแต่รอบแรก และทำให้ “แมดแม็กซ์”ต้องออกจากการแข่งขันก่อนจะถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อเช็กร่างกายเพิ่มเติม @@@ 10. ช่วงเวลาที่รู้สึกดีเยี่ยม (Feelgood Moment) ได้แก่ดาเนียล ริคคิอาร์โด นักขับออสซี ของแม็คลาเรน คว้าแชมป์ อิตาเลียน กรังด์ปรีซ์ ซึ่งนอกเหนือจากการขับเคี่ยวแย่งแชมป์ฤดูกาล 2021กันอย่างเข้มข้นระหว่าง แฮมิลตันกับ แฟร์สตัปเพน แล้ว ยังมีช่วงเวลาที่มีความรู้สึกดี ๆ กับ ดาเนียล ริคคิอาร์โดที่มีฤดูกาลที่ยากลำบากในปี 2021 แต่ยังกลับมามีร้อยยิ้มได้ กับความพยายามจนคว้าแชมป์ในสนามที่ 14 รายการ “อิตาเลียน กรังด์ปรีซ์”ที่สนาม ออโตโดรโม นาซิอองนาเล ดิ มอนซา เมืองมอนซา ประเทศอิตาลี โดยสองเต็งแชมป์อย่างแมดแม็กซ์กับ แฮมิลตันชนกันเองจนไม่มีแต้มทั้งคู่นับเป็นแชมป์สนามแรกของ ริคคิอาร์โด กับต้นสังกัด และเป็นแชมป์สนามแรกในรอบ 9 ปีของ แม็คลาเรน หรือนับตั้งแค่ศึกบราซิเลียน กรังด์ปรีซ์ เมื่อปี 2012 เป็นต้นมา พร้อมทั้งยังเป็นแชมป์สนามแรกของ ริคคิอาร์โดนับตั้งแต่ศึกโมนาโก กรังด์ปรีซ์ ปี 2018 นอกจากนั้นอันดับ 2รายการนี้ ก็ยังเป็นของ แลนโด นอร์ริสนักซิ่งชาวเมืองผู้ดีของ แม็คลาเรน ด้วยเช่นกัน ซึ่งนับเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ศึกแคนาเดียน กรังด์ปรีซ์ ปี 2010 ที่นักขับจากแม็คลาเรน กอดคอกันขึ้นยึดโพเดียมทั้งในอันดับ 1 และ 2 ด้วย@@@ส่วนศึกเอฟวัน 2022 จะมีความสนุก ความเร้าใจ หลากรสชาติ เพียงใด….รอชมกัน@@@
“แชมป์ บางชัน”