ปี 2021 ที่กำลังจะผ่านพ้นไปคงเป็นปีที่หนักหนาสาหัสสำหรับทุคนบนโลกอย่างไม่ต้องสงสัย เมื่อวิกฤติโควิด-19 ยังไม่ลดราวาศอก วงการกีฬาโลกก็ไม่แตกต่างกัน…
แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะมีเรื่องราวร้าย ๆ หรือมีแต่ผลกระทบในด้านลบจากสถานการณ์โรคระบาดที่ว่านั้นอย่างเดียว
เรื่องราวในแง่ดี ๆ เรื่องราวที่น่าประทับใจ ก็มีให้ได้ชื่นชมกันไม่น้อยเช่นกัน
- “โตเกียวเกมส์” ยืนหยัดสู้โควิด…
พูดถึงมหกรรมกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในขวบปีที่ผ่านย่อมหนีไม่พ้นโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น รับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพ ซึ่งเจอโควิดเล่นงานจนต้องขยับมาแข่งกันในปี 2021
ก่อนไฟในกระถางคบเพลิงจะถูกจุดขึ้นนั้น “โตเกียวเกมส์” เจอนาวาโควิดเล่นงานจนโอนไปเอนมา เกือบพังครืนไม่ได้แข่ง เนื่องจากสถานการณ์แพร่ระบาดในแดนปลาดิบก็หนักหน่วง แถมยังมีผู้ประท้วงการแข่งขันไม่เว้นแต่ละวัน
แต่สุดท้าย คณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) และคณะกรรมการจัดการแข่งขัน ก็กลั้นใจเข็นโอลิมปิกเกมส์ครั้งนี้สู่สายตาชาวโลกจนได้ ภายใต้วัตถุประสงค์หลักนั่นคือการใช้กีฬานำทางในการทำให้มวลมนุษยชนทั้งโลกรู้สึกเหมือนกลับไปสู่วิถีชีวิตปกติให้ได้มากที่สุด…
ซึ่งผลลัพธ์ที่ออกมาถือว่าประสบความสำเร็จ เมื่อเจ้าภาพอย่าง ญี่ปุ่น แสดงให้โลกเห็นอีกครั้งว่าพวกเขาคือชนชาติที่มีคุณภาพ เป็นตัวอย่างของการจัดการด้วยความมีวินัยและความยืดหยุ่นไปพร้อม ๆ กัน และเป็นชนชาติที่เชี่ยวชาญการทำงานที่ต้องแบกรับความกดดันที่ถาโถมเข้าใส่ได้เป็นอย่างดี
ขณะที่ตัวของการแข่งขันเองก็สร้างภาพประทับใจให้เกิดขึ้นต่อสายตาแฟนกีฬาทั่วโลกได้มากมาย ซึ่งเหตุการณ์ที่ถูกพูดถึงมากที่สุดคงหนีไม่พ้นการที่ มูตาซ เอสซา บาร์ชิม หนุ่มนักกระโดดสูงทีมชาติกาตาร์ กับ จานมาร์โก ทัมเบรี คู่แข่งจากทีมชาติอิตาลี ร้องขอผู้ตัดสินเพื่อครองเหรียญทองร่วมกัน หลังทั้งคู่สู้กันอย่างดุเดือดและไม่สามารถหาผู้แพ้ชนะได้
ซึ่งหลังได้ไฟเขียวจากผู้ตัดสินให้ครองเหรียญทองร่วมกัน ทั้งคู่ต่างกระโดดกอดกันด้วยความปลาบปลื้ม เป็นหนึ่งในภาพประทับใจที่สุดในศึก “โตเกียวเกมส์” เลยก็ว่าได้
อย่างที่ “ไอโอซี” ป่าวประกาศเสมอก่อนการแข่งขันว่า “โอลิมปิกเกมส์ครั้งนี้จะเป็นความหวังของมวลมนุษยชาติในช่วงเวลาที่ยากลำบากเช่นนี้”
นั่นคือนิยามที่ถูกต้องที่สุดสำหรับ “โตเกียวเกมส์”
- สภาพจิตใจสำคัญ
ในช่วงปีที่ผ่านมา เรื่องสภาพจิตใจของนักกีฬา กลายเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงมากขึ้นเยอะในช่วงขวบปีที่ผ่านมา
แรงกดดันจากการแข่งขันในระดับสูง ทำให้นักกีฬาหลายคนมีปัญหาเรื่องสภาพจิตใจ และนี่เป็นช่วงเวลาแรก ๆ ก็ว่าได้ที่นักกีฬาหลายคนเลือกที่จะเปิดเผยเรื่องพวกนี้กับชาวโลก
เคสที่เป็นตัวอย่างชัดเจนในรอบปีที่ผ่านมา คือกรณีของ นาโอมิ โอซากะ ยอดนักเทนนิสหญิงชาวญี่ปุ่น ซึ่งถอนตัวดื้อ ๆ จากศึกเฟรนช์ โอเพ่น ทั้งที่ผ่านเข้ารอบ 2 ได้แล้ว โดยให้เหตุผลว่าเธอมีปัญหาในการรับมือกับการตอบคำถามสื่อในห้องแถลงข่าว และเธอยังคงยืนยันที่จะไม่ให้สัมภาษณ์สื่อหลังจบการแข่งขัน ซึ่งขัดกับกฎของทัวร์นาเมนต์ทั่วไป เป็นเหตุให้เธอเลือกถอนตัวจากวิมเบิลดันไปอีกรายการ
เช่นเดียวกับ ซิโมน ไบล์ส ราชินียิมนาสติกสาวทีมชาติสหรัฐ ตัดสินใจถอนตัวกลางคันจากการแข่งขันประเภททีมหญิง ก่อนจะตามด้วยการถอนตัวจากการแข่งขันประเภทเดี่ยวอีก 4 อุปกรณ์ โดยให้เหตุผลว่าเธอไม่สามารถแบกรับความกดดันมหาศาลที่อยู่บนบ่าของเธอได้อีกต่อไปแล้ว ก่อนจะปิดฉากโอลิมปิกด้วยการลงแข่งประเภทคานทรงตัว และคว้าเหรียญทองแดงไปครอง
- ยอดฝีมือผู้ไปไม่ถึงดวงดาว
ในแวดวงเทนนิสโลกช่วงขวบปีที่ผ่านมานั้น มีหลายเรื่องที่น่าพูดถึงเช่นกัน อันดับแรกคือความพยายามของ โนวัค ยอโควิช นักหวดชาวเซอร์เบีย ในการเป็นนักเทนนิสคนแรกที่ทำ “โกลเดน สแลม” นั่นคือการคว้าแชมป์แกรนด์สแลมทั้ง 4 รายการ บวกกับเหรียญทองโอลิมปิกในปีเดียว หลังจากก่อนหน้านี้ สเตฟฟี่ กราฟ ราชินีลูกสักหลาดชาวเยอรมัน เป็นคนแรกและคนเดียวที่เคยทำได้เมื่อปี 1988
แต่สุดท้าย “โนเล” ที่กวาดแชมป์ 3 สแลมแรกของปีทั้ง ออสเตรเลียน โอเพ่น, เฟรนช์ โอเพ่น และวิมเบิลดัน นั้น กลับไปไม่ถึงดวงดาว เขาแพ้ ดานีล เมดเวเดฟ ในรอบชิงชนะเลิศ ยูเอส โอเพ่น แถมยังตกรอบตัดเชือก “โตเกียวเกมส์” ด้วยการพลิกล็อกแพ้ ปาโบล การ์เรโน บุสตา จากสเปน อีกต่าหาก เรียกว่ามาพังตอนท้ายจริง ๆ
- ดาวดวงใหม่จุติ…
ในขณะที่ ยอโควิช ไปไม่ถึงดวงดาว แต่ในอีกฟากหนึ่ง วงการเทนนิสโลกยังได้ต้อนรับซูเปอร์สตาร์ดวงใหม่อย่าง เอ็มมา ราดูคานู สาวน้อยวัย 18 ปีจากอังกฤษ ที่คว้าแชมป์หญิงเดี่ยวยูเอส โอเพ่น ไปครองแบบไม่เสียแม้แต่เซตเดียว ชนิดแฟนเทนนิสร้องว้าวกันทั้งโลก
นั่นคือแชมป์แรกของเธอในฐานะนักเทนนิสอาชีพ และเป็นแชมป์ใหญ่อย่างแกรนด์สแลม ทำให้เธอกลายเป็นนักเทนนิสคนแรกของโลกในยุคโอเพ่น ที่คว้าแชมป์แกรนด์สแลมมาครอง โดยที่ต้องเล่นตั้งแต่รอบคัดเลือกอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม หลังความสำเร็จที่ฟลัชชิง เมโดว์ ดูเหมือนผลงานของ ราดูคานู จะดิ่งลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจเป็นเรื่องปกติสำหรับนักเทนนิสที่อายุน้อย ๆ อย่างเธอ แม้จะมีหลายคนที่อดเป็นห่วงไม่ได้ว่าความดังชั่วข้ามคืน จะทำให้เธอมีสมาธิกับเรื่องในสนามน้อยลง จนอาจทำให้หลุดวงโคจรจากการเป็นนักเทนนิสแนวหน้าไปไวกว่าที่ควรจะเป็นก็ตาม
- ปริศนาของ เผิง ฉ่วย..
อีกเรื่องในแวดวงเทนนิสที่กลายเป็นประเด็นร้อนแรง คือเรื่องราวของ เผิง ฉ่วย นักหวดสาวจีน ที่อยู่ดี ๆ เธอก็ออกมาโพสต์ผ่านสื่อโซเชียลในบ้านเกิด ว่าเธอถูกบุคคลระดับอดีตรองนายกรัฐมนตรีล่วงละเมิดทางเพศ แถมหลังจากนั้น โพสต์ดังกล่าวก็อันตรธานไป เช่นเดียวกับตัวเธอที่ไม่มีใครติดต่อได้ ทำเอาทั้งวงการเป็นห่วงกันยกใหญ่
แต่ในเวลาต่อมา เธอเริ่มปรากฏตัวผ่านสื่อ รวมถึงวิดีโอคอลกับ โธมัส บัค ประธาน ไอโอซี กระนั้น โลกเทนนิสก็ยังคงเป็นห่วงเป็นใยในสวัสดิภาพของเธออยู่ดี และแม้สุดท้าย เผิง ฉ่วย จะบอกว่าเธอไม่เคยกล่าวหาใครว่าล่วงละเมิดเธอ แต่มันก็ยังไม่อาจดับไฟแห่งความสงสัยในปริศนาของเรื่องที่เกิดขึ้นได้อยู่ดี
- ตำนานที่ไม่ยอมตาย…
ในกีฬาหลาย ๆ ประเภท อายุ 43 ปี อาจถูกมองว่าแก่เกินแกง โดยเฉพาะกีฬาที่ต้องใช้ร่างกายในการปะทะ อย่างอเมริกันฟุตบอล
แต่คำพูดนี้ใช้ไม่ได้กับชายทื่อ ทอม เบรดี…
สำหรับ เบรดี อายุ 43 ปี กลายเป็นเพียงแค่ตัวเลขอย่างเหลือเชื่อ เมื่อเขาหักปากกาเซียนด้วยการนำ แทมปา เบย์ บัคคาเนียร์ส ต้นสังกัดใหม่คว้าแชมป์ซูเปอร์โบวล์มาครองได้อย่างเหลือเชื่อ ด้วยการถล่มทีมเต็งอย่าง แคนซัส ซิตี ซีฟส์ 31-9 คะแนน เมื่อเดือนกุมภาพันธ์
หลังใช้เวลาเกือบ 2 ทศวรรษ กวาดความสำเร็จมากมายกับ นิวอิงแลนด์ แพทริออตส์ ในรูปแบบของ 6 แชมป์ซูเปอร์โบวล์ เบรดี ตัดสินใจย้ายไปหาความท้าทายใหม่กับ บัคคาเนียร์ส โดยที่ไม่มีใครเชื่อว่าเขาจะทำได้
แต่เขาก็ทำได้ แถมคว้า เอ็มวีพี ของรอบชิงชนะเลิศอีกต่างหาก และนั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้จอมทัพรายนี้คว้ารางวัลนักกีฬายอดเยี่ยมแห่งปี 2021 ของสปอร์ตส์ อิลลัสเตรต ไปครอง
- การกลับมาของ “พญาเสือ”…
สำหรับวงการกอล์ฟนั้น ต้องเจอช่าวช็อกตั้งแต่ต้นปี เมื่อ ไทเกอร์ วูดส์ เจ้าของแชมป์เมเจอร์ 15 รายการ ประสบอุบัติเหตุรถคว่ำหลายตลบจนกระดูกข้อเท้าขวาแตกละเอียดเมื่อเดือนกุมภาพันธ์
ซึ่งรุนแรงชนิดที่เจ้าตัวให้สัมภาษณ์ในภายหลังว่าโชคดีขนาดไหนแล้วที่เขายังรอดชีวิตมาได้ในสภาพที่ไม่ถูกตัดขา
แต่พอถึงช่วงปลายปี “พญาเสือ” ขวัญใจของใครหลายคน หวนคืนสนามกอล์ฟอีกครั้งในการจับมือกับ ชาร์ลี ลูกชายลงแข่งขันรายการ พีเอ็นซี แชมเปี้ยนชิพ ซึ่งแม้เจ้าตัวจะยอมรับว่ายังเหลืออีกไกลกว่าร่างกายของเขาจะพร้อมกลับมาแข่งขันในระดับสูงได้ แต่แฟน ๆ ของ ไทเกอร์ ก็ยังยิ้มได้ เพราะอย่างน้อย ขวัญใจของพวกเขาก็นับหนึ่งแล้ว…
- ดราม่ารอบสุดท้าย…
แวดวงมอเตอร์สปอร์ต ในปีที่ผ่านมา เป็นอีกหนึ่งชนิดกีฬาที่สร้างความฮือฮาได้ในช่วงปลายปี โดยเฉพาะในศึกฟอร์มูล่าวัน ที่ตำแหน่งแชมป์โลกฤดูกาลนี้ ต้องตัดสินกันในสนามสุดท้าย และรอบสุดท้าย
ตลอดช่วงฤดูกาล แมกซ์ แฟร์สตัปเพน นักซิ่งชาวเนเธอร์แลนด์จากทีมเรด บุลล์ ครองจ่าฝูงในตารางคะแนนสะสมมาอย่างยาวนาน แต่แล้ว เซอร์ ลูอิส แฮมิลตัน แชมป์โลก 7 สมัยจากอังกฤษ สังกัดทีมเมอร์เซเดส เร่งเครื่องคว้าแชมป์ 3 สนามติด จนคะแนนสะสมขึ้นมาเท่ากันเมื่อการแข่งขันเดินทางมาถึงสนามสุดท้ายในศึกอาบูดาบี กรังด์ปรีซ์ ที่กรุงอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ในสนามสุดท้าย แฮมิลตัน ออกสตาร์ตด้วยการแซงขึ้นนำตั้งแต่รอบแรก
หลังจากนั้นก็เร่งเครื่องยืดระยะห่างจนช่วงหนึ่งเวลานำหน้า แฟร์สตัปเพน ถึง 17 วินาที เรียกว่าต้องมีปาฏิหาริย์เท่านั้นที่จะทำให้นักซิ่งเลือดผู้ดีชวดแชมป์โลกสมัยที่ 8 ซึ่งจะเป็นสถิติมากสุดในโลกแซงหน้า มิชาเอล ชูมัคเกอร์ ไปในทันที
แต่แล้ว ปาฏิหาริย์ที่ว่าก็เกิดขึ้น เมื่อรถของ นิโกลัส ลาติฟี เกิดอุบัติเหตุจนรถเซฟตี คาร์ ต้องออกมา ก่อนที่ทุกคันจะออกสตาร์ตกันใหม่เมื่อเหลือการแข่งขันอีก 1 รอบ และเป็น แฟร์สตัปเพน ที่แซงผ่านธงตาหมากรุกเป็นคันแรก คว้าแชมป์โลกไปครองอย่างสุดดราม่า
จนถึงทุกวันนี้ ยังเถียงกันไม่จบว่าการตัดสินของ ไมเคิล มาซี ผู้อำนวยการการแข่งขันในรอบสุดท้ายนั้นถูกต้องแล้วหรือไม่
แต่ที่แน่ ๆ การขับเคี่ยวแย่งแชมป์โลก เอฟ วัน ฤดูกาล 2021 จะกลายเป็นตำนานที่ถูกพูดถึงไปอีกนานเท่านาน…
- แลไปข้างหน้าในปี 2022…
สำหรับวงการกีฬาโลกในปี 2022 นั้น มีหลากหลายสิ่งที่น่าพูดถึงและเป็นที่รอคอยของแฟนกีฬาโลก อีกทั้งยังมีประเด็นนอกเหนือจากการแข่งขันในสนามอีกมากมายให้จับตา…
ประเดิมต้นปีกันด้วยเทนนิส ออสเตรเลียน โอเพ่น แกรนด์สแลมแรกของปี ซึ่งในเวลานี้มีนักเทนนิสชื่อดังบาดเจ็บขอถอนตัวไปแล้วหลายราย
แต่สิ่งที่น่าจับตาที่สุดในเวลานี้ กลายเป็นเรื่องของ โนวัค ยอโควิช ที่ ณ นาทีนี้ยังไม่แน่ว่าเจ้าตัวจะได้ลงป้องกันแชมป์หรือไม่ เนื่องากทางการแดนจิงโจ้ ยืนยันหนักแน่นว่านักกีฬาทุกคนที่จะเข้าร่วมการแข่งขันต้องผ่านการฉีดวัคซีนโควิด-19 ขณะที่ “โนเล” เองแสดงออกค่อนข้างชัดมาตลอดว่าเขาไม่ต้องการรับวัคซีนเข้าสู่ร่างกาย
ต่อเนื่องกันด้วยอีกหนึ่งมหกรรมกีฬาอย่างโอลิมปิกเกมส์ฤดูหนาว ที่กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน จะเป็นเจ้าภาพ ซึ่งถึงเวลานี้เรื่องในสนามกลายเป็นประเด็นรอง เมื่อทัวร์นาเมนต์นี้กลายเป็นเวทีที่ถูกใช้ในการประลองกำลังกันระหว่างชาติมหาอำนาจ โดยในฝั่งโลกเสรี นำโดยพี่ใหญ่อย่างสหรัฐ ประกาศไม่ส่งบุคคลในรัฐบาลไปร่วมในพิธีเปิดและปิด รวมถึงระหว่างการแข่งขันก่อนที่หลาย ๆ ชาติจะเดินตามรอย
โดยให้เหตุผลว่าต้องการเรียกร้องให้ปัญหาเรื่องสิทธิมนุษยชนในแดนมังกรได้รับการแก้ไข ซึ่งว่ากันว่าเรื่องของ เฝิง ฉ่วย นั่นแหละที่เป็นฟางเส้นสุดท้าย
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจีน มองว่านี่คือการหวังผลประโยชน์ทางการเมืองระดับโลก โดยใช้การกีฬาเป็นเครื่องมือ และถึงเวลานี้ อีกไม่ถึง 2 เดือน การแข่งขันจะเริ่มการงัดข้อยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง และคาดเดาได้ยากว่ามันจะลงเอยแบบไหน…
เรียกว่าวุ่นวายตั้งแต่ยังไม่เริ่ม นี่ยังไม่รวมปัญหาเรื่องโควิด-19 ที่ไม่เพียงไม่ทุเลา แต่ยังทำท่าจะโหมกระพือขึ้นมาอีกครั้ง…
ยิงยาวไปถึงช่วงปลายปี อีกหนึ่งอีเวนต์ใหญ่ที่รออยู่คือฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ รับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพ ซึ่งต้องหลบสภาพอากาศอันโหดร้ายของหน้าร้อนไปแข่งกันในช่วงปลายปี
และก็เช่นกัน เวิลด์คัพที่กาตาร์ กลายเป็นเป้าให้ชาติตะวันตกหลายชาติรุมถล่มโจมตีเรื่องสิทธิมนุษยชนกันเย้ว ๆ มานมนาน และดูเหมือนจะยิ่งซัดกันเข้มข้นขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อทัวร์นาเมนต์ใกล้เข้ามา
บางที ปี 2022 ที่กำลังจะมาถึงนี้ วงการกีฬาโลกอาจกลายเป็นสิ่งที่ถูกลากไปเป็นเวทีเรื่องการเมือง สังคม และประเด็นร้อนต่าง ๆ ยิ่งกว่าเกมการแข่งขันในสนามด้วยซ้ำ…
ซึ่งบางทีคนที่เป็นแฟนกีฬาพันธุ์แท้ คงไม่อยากให้มันเป็นอย่างนั้น…
ทีมข่าวกีฬาเดลินิวส์