ก่อนเริ่มเกมไม่กี่ชั่วโมง คริสตัล พาเลซ ทำเรื่องไปถึงพรีเมียร์ลีก เพื่อขอเลื่อนเกมกับ สเปอร์ส ในวันบ็อกซิ่งเดย์ (อาทิตย์ที่ 26 ธ.ค. 64) แต่ถูกพรีเมียร์ลีกปฏิเสธ ทำให้ต้องเตะกันตามโปรแกรม

พาเลซ ให้เหตุผลว่า มีปัญหานักเตะติดโควิดหลายคน ขณะที่ตัวกุนซืออย่าง ปาทริค วิเอรา ก็ติดเช่นกัน จึงไม่สามารถลงคุมทีมเช่นกัน

แต่พอเห็น 11 คนแรกของ พาเลซ ทำเอาหลายคนถึงกับอึ้ง เพราะเปลี่ยนจากชุดก่อนหน้านี้ที่พวกเขาเตะกับ เซาแธมป์ตัน แค่ตำแหน่งเดียว นั่นคือ มาร์ค เกฮี ที่ก็ไม่ได้หายไปจากทีม แค่โดนดร็อปเป็นตัวสำรอง

อ้าว แล้วไหนบอกว่า ติดโควิดเยอะจนเล่นไม่ได้ ?

หยิบเรื่องนี้มาคุยก่อนวิเคราะห์ สเปอร์ส เพราะช่วงหลัง เห็นหลายทีมบ่นเรื่องโปรแกรม ทำไมทีมโน่นเลื่อน ทีมนี้เตะ เอามาตราฐานอะไรมาวัด

โธมัส ทูเคิล ของ เชลซี บอกว่า ลูกทีมเจ็บล้นทีม ติดโควิด ก็หลายคน ทำไมถึงให้เตะอยู่ได้ รู้สึกว่าไม่ยุติธรรมกับ เชลซี เอาเสียเลย

เรื่องนี้ มองมุมใดมุมหนึ่งไม่ได้ เพราะใครก็ต้องเข้าข้างตัวเอง ต้องยึดสิ่งที่เคยตกลงกันไว้เป็นบรรทัดฐาน

ก็ในเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว 20 ทีม ประชุมกับ พรีเมียร์ลีก ตั้ง 2 ครั้ง ผลออกมาคือเตะต่อ คู่ไหนจะเลื่อน ส่งเรื่องเข้ามา แล้วว่ากันเป็นคู่ๆ

แล้วคุณจะมาบ่นอะไร ในเมื่อก็เลือกกันเอง ตกลงกันเอง

อย่างไรก็ตาม มีประเด็นน่าพูดถึงก็คือมาตราฐานในการเลื่อนหรือเตะ ซึ่งไม่รู้ว่าพรีเมียร์ลีกเอาอะไรมาวัด

ทำให้ทางที่ดี พวกเขาควรจะให้เหตุผลชัดๆไปเลยว่า ทำไมคู่นี้เตะได้ ทำไมคู่นี้เลื่อน

คู่ที่เลื่อน ในทีมติดโควิดกี่คน ใครบ้าง ทำไมจำเป็นต้องเลื่อน จะได้กระจ่างชัดไปเลย ไม่ต้องคาใจ ไม่ต้องมาให้งงกันว่า ผมติดตั้งเยอะ ทำไมต้องเตะ ทีมอื่น ติดไม่กี่คน ทำไมได้เลื่อน

ไม่งั้นก็เถียงกันไม่จบ (ทั้งที่ตกลงกันเองแล้ว) อ้างกันได้ว่าทีมผมไม่ได้รับความยุติธรรม

ตัดกลับมาเกม สเปอร์ส ซึ่งชัยชนะเหนือ พาเลซ 3-0 สำหรับผมถือว่าไม่น่าแปลกใจ

ไม่ใช่เพราะ สเปอร์ส เก่ง เลิศเลอมาจากไหน แต่โมเมนตั้มทีมกำลังมา ทุกอย่างกำลังลงตัว แถมได้เล่นในบ้าน แม้นัดแรกจะเคยแพ้ พาเลซ 0-3 แต่เกมนี้ ผมเชื่อตั้งแต่ก่อนเกมว่าน่าจะเช็กบิลไม่ยาก

เสียดายอย่างเดียวที่ วิเอรา กุนซือปากดีของ พาเลซ ไม่ได้ลงคุมทีม หลังนัดแรกชนะ มาบอกหลังเกมว่า รู้อยู่แล้วว่าต้องชนะ เพราะชีวิตนี้ไม่เคยแพ้ สเปอร์ส ไม่รู้ว่าการแพ้ สเปอร์ส ความรู้สึกเป็นยังไง

ว่าถึงรูปเกม ไม่มีอะไรให้พูดถึงเป็นพิเศษ ทรงบอล สเปอร์ส ในยุค อันโตนิโอ คอนเต น่าจะมาแนวทางนี้ชัดเจนแล้ว อย่างน้อยก็จนกว่าจะได้นักเตะใหม่มาเสริมทัพ

นั่นคือ ใช้ความเร็วเข้าทำ เน้นพละกำลังวิ่งเข้าบด บีบให้คู่แข่งเสียบอล แล้ววางบอลให้ตัวเร็วๆ โฉบไปเล่น

เราจึงได้เห็นนักเตะอย่าง ลูคัส มูรา หรือ ซน ฮึง มิน รวมถึงวิงแบ๊กอย่าง เซร์คิโอ เรกีลอน และ เอเมอร์สัน โรยัล มีบทบาทกับเกมมาก โดยมี แฮร์รี เคน เป็นจุดศูนย์กลางของทีม และตัวจบสกอร์

เรื่องน่าห่วงคือโปรแกรมต่อจากนี้มากกว่า เพราะพักแค่วันเดียว วันอังคารนี้ (28 ธ.ค. 64) ก็ต้องเตะต่อกับ เซาแธมป์ตัน หลังจากนั้น มีเตะวันเสาร์พบ วัตฟอร์ด ซึ่งเป็นเกมเยือนทั้ง 2 นัด

หลังจากนั้น ยังมีคิวบอลถ้วย รอบตัดเชือก คาราบาว คัพ และ เอฟเอ คัพ อีกด้วย

คอนเต จึงต้องหมุนเวียนทีมให้ดี ตัดสินใจพลาดนิดเดียว อาจมีผลต่อผลการแข่งขัน หรือทำให้ตัวหลักเจ็บได้ ถึงตอนนั้นโมเมนตั้มทีมที่กำลังมาดีๆ อาจจะเสียไปได้

แต่ คอนเต ก็มีประสบการณ์ในอังกฤษพอตัว และในทีมตอนนี้ถือว่ามีผู้เล่นให้เขาเลือกใช้พอสมควร เพราะตัวเจ็บมีไม่เยอะเท่าไหร่ และแต่ละคนกำลังอยู่ในช่วงอยากเรียกฟอร์มเก่ง เพื่อซื้อใจโค้ชใหม่

ดังนั้น เชื่อมือ คอนเต และเดินหน้าต่อไปครับ.

กัปตันเจมี