นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังการประชุมติดตามและเร่งรัดการพัฒนาและการเปิดให้บริการ ระบบ M-Flow ของกรมทางหลวง(ทล.) และการทางพิเศษแห่งประเทศไทย(กทพ.) ผ่านแอพพลิเคชั่น Zoom ว่า  ทล. ได้ดำเนินการพัฒนาระบบจัดเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางอัตโนมัติแบบไม่มีไม้กั้น (M-Flow) บนทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 9 เพื่อแก้ไขปัญหารถติดหน้าด่าน โดยวางระบบให้สามารถบูรณาการกับ กทพ. ในการพัฒนา M-Flow ให้เป็นรูปแบบและมาตรฐานเดียวกัน (Single Platform System) ซึ่งเป็นระบบเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางอัตโนมัติในรูปแบบการอ่านป้ายทะเบียนรถอัตโนมัติ ร่วมกับระบบการตรวจจับยานพาหนะอัตโนมัติ (Automatic Vehicle Identification: AVI)

นายศักดิ์สยาม กล่าวต่อว่า ผู้ใช้รถยนต์สามารถขับขี่ผ่านบริเวณด่านฯ ที่จะติดตั้งโครงเสาแขวนสูงเหนือศีรษะ (Overhead Gantry) พร้อมอุปกรณ์ระบบตรวจจับยานพาหนะอัตโนมัติ (AVI) ระบบอ่านป้ายทะเบียนรถอัตโนมัติ (Automated License Plate Recognition : ALPR) โดยไม่ต้องหยุด หรือชะลอรถ ซึ่งขณะนี้การติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ บน M-Flow Gantry ทั้ง 4 ด่าน (ด่านทับช้าง 1, 2และด่านธัญบุรี 1, 2) การเชื่อมต่อข้อมูลกับทะเบียนรถยนต์ของกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) และทะเบียนราษฎร์ของกรมการปกครองเสร็จแล้ว อยู่ระหว่างปรับปรุงกายภาพบริเวณช่องทาง การเชื่อมต่อระบบ M-Flow Back Office

นายศักดิ์สยาม กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ทล. จะประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างการรับรู้เกี่ยวกับระบบ M-Flow ภายใต้ภารกิจ “สร้างเอกลักษณ์ความเป็น M-Flow” “สร้างประสบการณ์ใหม่แก่ลูกค้าผู้ใช้งาน M-Flow” และ “สร้างความตระหนักรู้และจดจำ M-Flow” โดยจะทดสอบระบบลงทะเบียนการใช้บริการระบบ M-Flow ระหว่างวันที่ 24-30 ก.ค.64 จากนั้นจะเริ่มเปิดให้ผู้ใช้บริการลงทะเบียนในช่วงกลางเดือน  ส.ค.64 ก่อนดำเนินการทดสอบเสมือนจริงในเดือน ก.ย.64 คาดว่าจะเปิดให้บริการในช่วงปลายเดือน ต.ค.64

นายศักดิ์สยาม กล่าวด้วยว่า สำหรับการพัฒนาระบบ M-Flow ของ กทพ. ประกอบด้วย ระยะที่ 1 บริเวณทางพิเศษฉลองรัช 3 ด่าน (จตุโชติ ,สุขาภิบาล 5-1 และสุขาภิบาล 5-2) นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างกระบวนการคัดเลือกผู้รับจ้าง คาดว่าจะเปิดให้บริการภายในต้นปี 65 ส่วนระยะที่ 2 บริเวณทางพิเศษฉลองรัช บูรพาวิถี และกาญจนาภิเษก 60 ด่าน อยู่ระหว่างการจัดทำรายละเอียดขอบเขตงาน (TOR) คาดว่าจะเปิดให้บริการภายในต้นปี 66

นายศักดิ์สยาม กล่าวอีกว่า ได้สั่งการให้ ทล. และ กทพ. ดำเนินการ ดังนี้ 1. ให้ ทล. พิจารณาเพิ่มเติมช่องทางการลงทะเบียนระบบ M-Flow ให้มากขึ้น เช่น Modern trade สถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง และชุมชน เป็นต้น 2. ให้ ทล. วางระบบติดตามและประเมินผลระบบ M-Flow รวมทั้งการบริหารจัดการจราจร เพื่อเป็นฐานข้อมูลในการปรับปรุงระบบให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ ให้สำรวจความคิดเห็นของผู้ใช้บริการด้วย 3. ให้ ทล. เร่งประชาสัมพันธ์การเปิดลงทะเบียน และเปิดใช้ระบบ M-Flow เพื่อสร้างการรับรู้ และความเข้าใจให้กับกลุ่มเป้าหมายผู้ใช้บริการอย่างชัดเจน รวมทั้งจัดทำโฆษณา/สื่อประชาสัมพันธ์ เพื่อให้เกิดความน่าสนใจในการใช้ระบบด้วย

4. ให้ ทล. ร่วมกับ กทพ. ประสานงานและบูรณาการกันอย่างใกล้ชิด เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับกระบวนการดำเนินงานของระบบ M-Flow และประชาสัมพันธ์การใช้งานระบบดังกล่าวร่วมกัน 5. ให้ ทล. และ กทพ. พิจารณาเกี่ยวกับการตีเส้นสี เพื่อแบ่งระหว่างช่อง M-Flow กับ EasyPass/M Pass ให้เป็นไปในลักษณะเดียวกันรวมถึงการติดตั้ง Barrier / Guidepost เพื่อให้ผู้ใช้บริการสามารถเข้าใช้ช่องทาง M-Flow ได้อย่างถูกต้อง และเพื่อไม่ให้เกิดการตัดกระแสการจราจรบริเวณหน้าด่านเก็บค่าผ่านทาง และ 6. ให้ กทพ. พิจารณาเปลี่ยนถ่ายจากระบบ EMV ไปเป็นระบบ M-Flow ไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อนในการดำเนินงานและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด.