ไม่นับประเด็นการตัดสินที่ค้านสายตา จนหลายคนบอกว่า ลิเวอร์พูล “โดนโกง”

เกมพรีเมียร์ลีก ระหว่าง สเปอร์ กับ ลิเวอร์พูล มีทุกอย่างที่แฟนบอลต้องการ

และทำให้อัตราความเซ็งที่หลายเกมถูกเลื่อนไปลดลงได้เล็กน้อย

ประเด็นใบแดงหรือไม่แดงของ แฮร์รี เคน ที่เสียบใส่ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ในฐานะแฟนบอลสเปอร์ ผมคิดว่าควรจะเป็นใบแดงสถานเดียว เพราะเปิดปุ่มใส่ชัดเจน ไม่มีข้อโต้แย้ง

ขณะที่จังหวะ โรเบิร์ตสัน ถอนรากถอนโคน เอเมอร์สัน จนโดนใบแดง ก็ต้องแดงสถานเดียวเหมือนกัน

ต่างกันตรง เคน ได้แค่เหลือง แต่ ร็อบโบ โดนแดง ก็เลยกลายเป็น 2 มาตราฐาน กลายเป็นประเด็นขึ้นมา

ซึ่งไม่ผิด และไม่แปลก เพราะ ลิเวอร์พูล ได้แค่เสมอ ทำแต้มหล่น ตามหลัง แมนฯ ซิตี 3 แต้มแล้ว

ความจริง 2 กรณีนี้ ควรแดงแบบไม่ต้องสงสัย แต่ในเมื่อการตัดสินออกมาต่างกัน จึงมีการถกเถียงกันเป็นธรรมดา

แต่เถียงกันไปก็เท่านั้น เพราะกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้ ผลการแข่งขันก็เปลี่ยนไม่ได้

ยิ่งมีกรณีจุดโทษที่ ลิเวอร์พูล ไม่ได้ ในจังหวะที่ ดีโอโก โชตา โดน เอเมอร์สัน ชนในกรอบ ยิ่งมีประเด็นให้แฟนหงส์หัวร้อนกันมากเข้าไปใหญ่

กลับกัน ถามว่า มองอีกด้าน เกมนี้ ลิเวอร์พูล ไม่ได้ผลประโยชน์อะไรจากการตัดสินบ้างเลยหรือ?

ทั้งจังหวะ เทรนท์ ผลัก อัลลี ในกรอบเขตโทษ และบอลโดนมือ ซาลาห์ ก่อนได้ประตูที่ 2

จังหวะเหล่านี้ก็ใช่จะสะอาดบริสุทธิ์ 100% เช่นกัน

ไม่ได้จะพูดให้ดูหล่อ แต่ผมไม่มีปัญหาเลยกับทั้ง 2 จังหวะ เพราะมันเป็นจังหวะในเกมที่เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา กรรมการบางคนอาจจะให้ บางคนอาจจะไม่ให้ แล้วแต่ดุลพินิจ เราทำอะไรไม่ได้

ถ้าไปมีอารมณ์กับการตัดสินทุกจังหวะ คุณจะดูบอลสนุกน้อยลงเยอะเลย เพราะอคติบังตา

แฟนบอลทีมไหน ก็ต้องเข้าข้างทีมนั้น เมื่อวิจารณ์อะไร มันย่อมตั้งอยู่บนพื้นฐานความคิดของฝั่งใดฝั่งหนึ่ง ไม่มีทางเป็นกลางไปได้หรอก อย่าเถียงเลย

ทางที่ดี อยากดูบอลให้สนุก คุณควรอยู่เหนือปัญหาเหล่านี้ซะ แล้วดูบอลแบบเข้าใจ

ขึ้นชื่อว่า “การตัดสิน” ไม่ใช่แค่ฟุตบอล แต่ทุกอย่างในโลก มันก็เป็นแบบนี้ มีคนได้ ก็ต้องมีคนเสีย

คุณไม่มีทาง “ได้” หรือ “เสีย” ทุกครั้ง วันนี้ได้ พรุ่งนี้เสีย วันนี้เสีย พรุ่งนี้ได้ มันเป็นเรื่องธรรมดา

ถ้าเป็นเด็กหงส์ ผมว่าสิ่งที่ผมจะคิด คือทำไมเล่นแบบนี้ ทำไมแค่เสมอ หรือขาดตัวหลักแล้วจะเกิดอะไรขึ้นต่อไปเสียมากกว่า

แต่นั่นก็เป็นเรื่องของแฟนหงส์ ผมแฟนสเปอร์ ขอวิจารณ์แค่ สเปอร์ ในมุมของตัวเองก็แล้วกัน

ซึ่งมันก็คงเหมือนกับแฟนสเปอร์ทุกคนเห็นในเกมนี้นั่นแหละว่าทุกอย่างกำลังดีขึ้นอย่างชัดเจน

ความจริงแล้ว สเปอร์ ขาดตัวหลักไปหลายคน ทั้งเพราะเจ็บ และโควิด ตัวจริงบางคนที่ลงก็ยังเห็นชัดว่าไม่เต็มร้อย

การหยุดมาตั้งแต่ชนะ นอริช เมื่อ 5 ธ.ค. บางคนอาจบอกเป็นเรื่องดี เพราะนักเตะสดกว่า

แต่ถ้าเลือกได้ ขอเตะต่อเนื่องเหมือนทีมอื่นเขาดีกว่า ไม่ต้องเหมือนมาเริ่มต้นกันใหม่แบบนี้ แถมเหลือโปรแกรมเตะอีกหลายนัดด้วย

อย่างไรก็ตาม สเปอร์ เล่นได้ดีเกินคาด พวกสำรองที่ลงมา เล่นกันดีไม่น่าเชื่อ

ไล่ตั้งแต่แดนหลัง ไรอัน แซสเซญอง ที่ปิด โม ซาลาห์ ได้สนิท

หรือแดนกลางที่ทั้ง แฮร์รี วิงค์ส, ตองกีย์ เอ็นดอมเบเล และ เดลี อัลลี โชว์ความขยัน ช่วยกันวิ่งจนสู้กับกลาง ลิเวอร์พูล ได้อย่างไม่เป็นรองมากนัก

ตรงกันข้าม กลับเป็นพวกตัวจริงอย่าง เอเมอร์สัน, เคน หรือ ซน ฮึง มิน ด้วยซ้ำ ที่ดร็อปลงไป

นี่แสดงให้เห็นว่า อันโตนิโอ คอนเต กำลังทำงานของเขาอย่างมีประสิทธิภาพ

ไล่ตั้งแต่แนวทางการเล่น การพัฒนาผู้เล่น การปลุกเร้าทุกคนในสโมสร เห็นได้ชัดว่า นักเตะ สเปอร์ แทบจะเป็นคนละคนกับยุคที่แล้ว

แต่ละคนวิ่ง สู้ ฟัด พร้อมลุย พร้อมบวก สู้ถวายชีวิต ชนิดไม่เคยเห็นมาก่อน

ถ้านักเตะซึมซับแนวทาง และ “แพสชั่น” ของ คอนเต ได้มากขึ้น ขณะที่ คอนเต ก็รู้จักนักเตะ และธรรมชาติของสโมสรดีขึ้นเรื่อยๆ สเปอร์ จะเป็นทีมที่น่าสนใจขึ้นอีกมาก

อีกอย่างที่ไม่ให้เครดิตไม่ได้ก็คือทีมงานหลังบ้าน

เกมนี้ คอนเต และทีมงาน ศึกษาเกมของ ลิเวอร์พูล มาแบบละเอียดยิบ และวางหมากแก้ได้หมด จน เจอร์เกน คลอปป์ ยังบอกว่าแก้เกมไม่ถูก

ถ้าหาก ซน, เคน หรือ อัลลี คมกว่านี้ สเปอร์ อาจจะมี 3 แต้มด้วยซ้ำ

แต่นั่นก็อย่างที่ คอนเต บอก นั่นก็คือ ถึงเล่นดี แต่จบสกอร์ไม่ได้ และไม่ได้ 3 แต้ม มันก็ไม่มีประโยชน์

นี่จึงเป็นเรื่องที่ต้องแก้ไขกันต่อไป และควรทำให้ได้เร็วๆ นี้ด้วย

ถ้าทำได้ โอกาสท็อป 4 ก็ยังไม่ไกลเกินไปนัก?

กัปตันเจมี