ที่จังหวัดอาเจะห์ ประเทศอินโดนีเซีย หญิงสาว (สงวนนาม) ถูกตัดสินให้โทษเฆี่ยน 17 ไม้พร้อมกับคู่รักของเธอ การลงโทษนี้จะทำโดยเจ้าหน้าที่ที่มีชื่อเรียกเฉพาะว่าอัลโกโจ หรือ “ผู้สำเร็จโทษ” ซึ่งจะสวมเครื่องแบบเป็นชุดสีน้ำตาลคลุมตั้งแต่หัวจดเท้าและปิดบังใบหน้าด้วยผ้าคลุม

หญิงสาวที่ได้รับโทษสวมชุดยาวสีขาวตามธรรมเนียมของชาวมุสลิม เธอทรุดลงกับพื้นด้วยความเจ็บปวดหลังจากโดนเฆี่ยนมาได้ระยะหนึ่ง ในขณะที่การลงโทษดำเนินต่อไป ส่วนคนรักของเธอก็ได้รับโทษโดนเฆี่ยนต่อหน้าสาธารณชนเช่นเดียวกัน

เมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว จังหวัดอาเจะห์ก็มีการเฆี่ยนสุดโหดในที่สาธารณะ ชายหนุ่มวัย 22 ปีต้องรับโทษเฆี่ยน 100 ครั้ง เนื่องจากมีเพศสัมพันธ์ก่อนแต่งงาน เขาร้องขอให้เจ้าหน้าที่หยุดมือ ก่อนที่จะหมดสติระหว่างการลงโทษและต้องให้หน่วยแพทย์ช่วยกู้ชีพเขา

ชายหนุ่มได้รับการเยียวยาจนฟื้นคืนสติเพียงครู่เดียว ก็ต้องรับโทษต่อ และหลังจากนั้นก็ต้องนำตัวเขาส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน

ปัจจุบัน ในทีมของอัลโกโจ มีผู้สำเร็จโทษที่เป็นผู้หญิงด้วย อัลโกโจสตรีทั้ง 8 คนจะได้รับการฝึกฝนเทคนิคการเฆี่ยนอย่างถูกวิธี และเรียนรู้จุดที่ต้องหลีกเลี่ยง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอาการบาดเจ็บอย่างถาวรกับผู้ต้องโทษ พวกเธอยังต้องฝึกฝนให้ร่างกายแข็งแรงพอที่จะทำหน้าที่ได้สมบูรณ์จนจบกระบวนการอีกด้วย

หญิงสาวในจังหวัดอาเจะห์ร่ำไห้ด้วยความเจ็บปวดระหว่างรับโทษเฆี่ยนต่อหน้าสาธารณชน เนื่องจากละเมิดกฎหมายชารีอะห์ (แฟ้มภาพ)

จังหวัดอาเจะห์เป็นเพียงจังหวัดเดียวของประเทศอินโดนิเซียที่ปกครองโดยกฎหมายชารีอะห์ ซึ่งเป็นกฎหมายที่อ้างอิงจากกฎของศาสนามุสลิมในคัมภีร์กุรอาน

ตามรายงานของหนังสือพิมพ์เดลิเมล์ ระหว่างการลงโทษที่สาหัส เช่น การลงโทษคนที่เป็นพวกรักร่วมเพศ, มีชู้หรือมีเพศสัมพันธ์ก่อนการแต่งงาน ซึ่งอาจโดนเฆี่ยนสูงสุดถึง 150 ครั้ง ผู้ที่โดนลงโทษมักจะหมดสติไปหรือต้องนำตัวไปรักษาในโรงพยาบาลหลังจากนั้น

ในปี 2561 ฝ่ายปกครองของอาเจะห์ให้คำมั่นว่าจะยุติการลงโทษต่อหน้าสาธารณชน โดยแถลงว่า การลงโทษที่จะเกิดขึ้นในอนาคตจะทำในเรือนจำแทน แต่ทั้งที่มีการยืนยันเช่นนั้น ตัวเลขบอกจำนวนการลงโทษด้วยการเฆี่ยนต่อหน้าสาธารณชนของอาเจะห์ก็ยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

ที่มา : https://www.dailystar.co.uk/news/world-news/woman-faints-shes-cruelly-lashed-25426832

เครดิตภาพ : Getty Images