แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังคงตายยากเหมือนเดิม หลังบุกไปควักแต้มกลับมาจากแบร์กาโมได้อย่างเหลือเชื่อด้วยการไล่ตามตีเจ๊า อตาลันตา แบบหืดขึ้นคอในช่วงทดเจ็บ 2-2 จาก 2 ประตูของ เดอะ แบกคนเดิมอย่าง คริสเตียโน โรนัลโด ในเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา

            ผลเสมอนัดนี้ทำให้ “ผีแดง” ยังคงนำเป็นจ่าฝูงกลุ่ม F  โดยมี 7 คะแนนเท่ากับ บียาร์เรอัล แต่เหนือกว่าด้วยผลเฮดทูเฮดจากการเปิดรังเชือด “เรือดำน้ำเหลือง” 2-1 ในการพบกันยกแรก

            เกมนี้ โอเล กุนนาร์ โซลชา ยังคงจัดทีมลงสนามในระบบ 3-4-1-2 เหมือนเกมบุกต้อน สเปอร์ส 3-0 เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยส่ง เอริก ไบยี ลงมายืนเป็นเซนเตอร์ฮาล์ฟร่วมกับ ราฟาแอล วาราน และแฮร์รี แม็กไกวร์ แทน วิคตอร์ ลินเดเลิฟ ที่บาดเจ็บ

            ส่วนแดนกลางมี ปอล ป็อกบา คุมเกมคู่ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ ขณะที่ อารอน วาน-บิสซากา และลุค ชอว์ สวมบทวิงแบ๊ก โดยใช้ บรูโน แฟร์นันด์ส เล่นในตำแหน่งหมายเลข 10 คอยปั้นเกมอยู่หลังคู่หัวหอกอย่าง มาร์คัส แรชฟอร์ด และคริสเตียโน โรนัลโด

            อย่างไรก็ตาม ผลงานของ “ผีแดง” ไม่ได้ดีเหมือนเกมบุกถอนขน “ไก่เดือยทอง” หลังโดนนักเตะเจ้าถิ่นที่มีความมุ่งมั่น และตั้งใจเล่นมากกว่าชัดเจน ขยับขึ้นมาไล่กดดันถึงหน้ากรอบเขตโทษจนแทบขึ้นบอลกันไม่ได้ กระทั่งต้องสังเวยประตูแรกไปตั้งแต่นาทีที่ 12 จากจังหวะที่ ดูวาน ซาปาตา ปาดบอลเข้ากลางให้ โยซิป อิลิซิช ซัดทะลุมือ ดาบิด เด เคอา เข้าไปตุงตาข่ายแบบดื้อ ๆ

            จากนั้นนาทีที่ 38 สถานการณ์ของ แมนฯ ยูไนเต็ด ดูจะย่ำแย่ลงไปอีก เมื่อ ราฟาแอล วาราน ได้รับบาดเจ็บจนเล่นต่อไม่ไหว โซลชา จึงต้องตัดสินใจปรับหมากกลับไปเล่น 4-2-3-1 โดยถอด วาราน ออก และส่ง เมสัน กรีนวูด ลงมาเล่นเป็นตัวริมเส้นฝั่งขวา และใช้ ไบยี ยืนเป็นเซนเตอร์ฮาล์ฟคู่กับ แม็กไกวร์

            พอมีตัวรุกอยู่ในสนามมากขึ้น เรด เดวิลส์ ก็เริ่มขยับเกมไปข้างหน้าได้บ้าง และมาได้ประตูตีเสมอ 1-1 จากการประสานงานกันอย่างลงตัวของ กรีนวูด กับ แฟร์นันด์ส ที่ดีดลูกส้นคืนให้ โรนัลโด กดเข้าไปไม่เหลือซากในช่วงทดเจ็บนาทีที่ 45+1

            ครึ่งหลังอาการของ แมนฯ ยูไนเต็ด ยังไม่กระเตื้อง โดยเฉพาะมิดฟิลด์คู่กลางอย่าง แม็คทอม และป็อกบา ที่ขยันออกบอลพลาดบริเวณกลางสนามจนเกือบทำให้ทีมเสียประตูหลายต่อหลายครั้ง

            ขณะที่แนวรับพอไม่มี วาราน ก็ระส่ำระสายไปหมด และมาโดน อตาลันตา เจาะประตูที่ 2 จนได้จากจังหวะที่ แม็กไกวร์ เช็กล้ำหน้าพลาดจนเปิดโอกาสให้ ซาปาตา ได้หลุดเดี่ยวเข้าไปยกบอลข้ามตัว เด เคอา เข้าไปอย่างเหนือชั้นในนาทีที่ 56

            เกมนี้ แม็กไกวร์ ยังคงทำตัวเป็นบ่อน้ำมันเช่นเคย โดยนอกจากจะยืนตำแหน่งไม่ดีแล้ว ยังออกบอลช้า และดูเหม่อลอยชอบกล โชคยังดีที่ ไบยี เล่นได้อย่างท็อปฟอร์มจนสามารถช่วยทีมให้รอดพ้นจากการเสียประตูได้หลายต่อหลายครั้งขนาด ซาปาตา ยิงต้องยอมซูฮก และเดินเข้ามาขอแลกเสื้อด้วยหลังจบเกมเลยทีเดียว

            ส่วน แม็กไกวร์ หาก วาราน และลินเดเลิฟ ฟิตกลับมาทันเกมดาร์บีแมตช์กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ ก็อยากแนะนำ โซลชา ว่า ควรจะลองดร็อป กัปตันหัวแตงโม ดูบ้างเผื่อหมอจะมีไฟ และกลับมาทำผลงานได้ดีเหมือนสมัยยังอยู่กับ เลสเตอร์ ซิตี อีกครั้ง

            อีกจุดหนึ่งที่น่าสังเกตจากเกมที่ จิวิสส์ สเตเดี้ยม ก็คือ โซลชา ยังคงคิดช้าทำช้า และทำอะไรขัดหูขัดตาอยู่เหมือนเดิม เมื่อตัดสินใจปล่อยให้ แม็คโทมิเนย์ ที่มีใบเหลืองติดตัว และจวนเจียนจะโดนใบแดงอยู่รอมร่ออยู่ในสนามจนถึงนาทีที่ 87!!! จึงจะยอมถอดออกไปพัก

            นอกจากนี้ทั้งที่อยู่ในสถานการณ์ที่ต้องการประตูตีเสมอ แต่กว่า กุนซือนอร์เวย์ จะส่งตัวรุกอย่าง ดอนนี ฟาน เดอ เบ็ค และเจดอน ซานโช ลงสนามมาได้ก็เหลือเวลาในสนามเพียงไม่ถึง 3 นาที ทั้งที่สั่งให้ทั้งคู่ออกไปวอร์มตั้งแต่นาทีที่ 76 นั่นแล้ว

            กระนั้น แมนฯ ยูไนเต็ด และน้าโอเล ยังโชคดี ที่มี โรนัลโด เพราะหากไม่ใช่ “ซีอาร์ 7” แล้ว ก็คิดไม่ออกเลยจริง ๆ ว่า จะมีนักเตะปิศาจแดงชุดปัจจุบันคนไหนที่จะยิงประตูได้อย่างมหัศจรรย์เหมือนกับประตูตีเสมอ 2-2 ในช่วงทดเจ็บนาทีที่ 90+1 ที่ หัวหอกกัปตันทีมชาติโปรตุเกส วอลเลย์บอลที่ กรีนวูด กระดกมาให้เข้าไปเสียบมุมได้อย่างหมดจดงดงามอย่างนั้น  

            คิด ๆ แล้ว มันก็น่าเสียดายหาก โรนัลโด จะต้องมาหมดเปลืองเวลาในช่วงเวลา 2-3 ปีสุดท้ายในอาชีพค้าแข้งอันรุ่งโรจน์ของเขาไปกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ภายใต้การคุมทัพของกุนซือฝึกงานอย่าง โซลชา และทีมงานลูกนกหัดบินของเขาต่อไปอย่างนี้จริง ๆ

เชื่อเหลือเกินว่า หากขุนพลผีแดงชุดนี้เปลี่ยนไปอยู่ในมือของผู้จัดการทีมที่มีกึ๋นมากกว่า โซลชา แล้วล่ะก็ พวกเขาน่าจะก้าวขึ้นมาเป็นทีมระดับลุ้นแชมป์ได้อย่างเต็มตัวแน่นอน ไม่ใช่เป็นทีมผีเข้าผีออกโชว์ฟอร์ม 3 วันดี 4 วันแย่แบบวนลูปจนยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่า จะมีปัญญากลับไปคว้าอันดับท็อป 4 มาครองได้หรือไม่ หรือ จะต้องระเห็จลงไปเล่นใน ยูโรปา ลีก ให้บรรดาผู้มีจิตศรัทธาต้องมานั่งถ่างตาดูบอลในช่วงกลางดึกคืนวันพฤหัสบดีอีกหรือเปล่าอย่างนี้…

แท ยอน