เมื่อวันที่ 26 ต.ค. นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะโฆษกพรรคประชาชน (ปชน.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี สส.รัฐบาล รวมถึง สส.พรรคเพื่อไทย ส่วนใหญ่โหวตคว่ำข้อสังเกตรายงานของคณะ กมธ.วิสามัญศึกษาแนวทางการตรา พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ว่า มันทำให้เกิดสภาวะของความไม่แน่นอนสูง ว่า รัฐบาลจะแก้ปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองในอดีตอย่างไร ซึ่งแยกออกได้เป็น 2 ประเด็น คือ 1.ตอนนี้ มีความเป็นไปได้สูง ว่าอาจจะไม่เห็น ครม. เสนอร่างกฎหมายนิรโทษกรรม มีแนวโน้มว่าจะเหลือแค่ร่างของแต่ละพรรค 2.มีความไม่แน่นอนว่า พรรคเพื่อไทยจะเสนอร่างนิรโทษกรรมของตัวเอง เข้าสภาหรือไม่ และหากเสนอจริง จะมีจุดยืนอย่างไร เกี่ยวกับการนิรโทษกรรมเกี่ยวกับฐานความผิดกฎหมาย 112 เพราะตนเห็น ว่า นายนพดล ปัทมะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย หรือ สส.พรรคเพื่อไทย ออกมาพูดในลักษณะว่า พรรคเพื่อไทย จะไม่เสนอกฎหมายที่มีการนิรโทษกรรม 112 

โฆษกพรรคประชาชน กล่าวอีกว่า แต่ถ้าไปดูรายละเอียดสำคัญ จะเห็น กมธ.วิสามัญสัดส่วนพรรคเพื่อไทย 4 คน จาก 8 คน ที่เห็นชอบด้วย กับการนิรโทษกรรมแบบที่มีเงื่อนไข ใน 4 คน คือ นพ.เชิดชัย ตันติศิรินทร์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ขณะที่มีแค่ 2 คน ที่ไม่นิรโทษกรรมคดี 112 หนึ่งในนั้นคือนายนพดล ส่วนอีก 2 คน คือ นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สส.บัญชีรายชื่อพรรค พท. ในฐานะประธานคณะ กมธ.วิสามัญฯ และ น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ไม่แสดงความเห็น สรุปคือ การคว่ำข้อสังเกตรายงานของ กมธ. มันไปตอกย้ำสภาวะความไม่แน่นอน กลับไปกลับมาของรัฐบาล เกี่ยวกับความขัดแย้งทางการเมือง และก็เรื่องของนิรโทษกรรม

นายพริษฐ์ กล่าวอีกว่า เรายังเห็นความไม่เป็นเอกภาพ เรื่องจุดยืน และนโยบายพรรคร่วมรัฐบาล ที่ชัดเจนขึ้นในช่วง 2 สัปดาห์ คือ 1.เรื่องนิรโทษกรรม 2.เรื่องรัฐธรรมนูญ การลงมติในสภาเกี่ยวกับร่าง พ.ร.บ.ประชามติ ที่ สว. แก้ไข และส่งกลับมาสภา รัฐบาลเกือบทุกพรรคลงมติไม่เห็นด้วย เว้นพรรคภูมิใจไทยงดออกเสียง และ 3.พ.ร.บ.ขนส่งทางราง ซึ่งมีการกลับไปกลับมาว่า รัฐบาลจะสนับสนุนร่างใดเป็นร่างหลัก ซึ่งมีอยู่ 3 ร่าง คือ ร่างพรรคประชาชน ร่างพรรคเพื่อไทย และร่างของ ครม. ซึ่งความจริงแล้วเป็นร่างดั้งเดิม ที่ถูกจัดทำสมัยพรรคภูมิใจไทย คุมกระทรวงคมนาคม ต้องจับตาดูพรรคเพื่อไทย จะเสนอร่างใดเป็นร่างหลัก ย้ำเราเล็งเห็นความเห็นแตกต่างเชิงจุดยืนและนโยบายระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งขาดความเป็นเอกภาพ.