ปฏิบัติการกวาดล้างบัญชีม้า ห่วงโซ่สำคัญของวงจรมิจฉาชีพออนไลน์ ภายใต้ชื่อ Black Horse Down – ล้มบัญชีม้าดำ 1,000 บัญชี เงินหมุนเวียน 1,200 ล้านบาท เมื่อเร็วๆ นี้ โดย กองกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) สะท้อน “การเติบโต” ที่น่าตกใจของห่วงโซ่วงจรนี้

โดยเฉพาะขนาดของเครือข่าย และเส้นทางส่งต่อ เชื่อมโยงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติหลายประเภท อย่างไม่เกรงกลัวการปราบปรามและกฎหมาย

ย้อนปฏิบัติการล้มบัญชีม้าเครือข่ายใหญ่ครั้งนี้ เริ่มแกะรอยจากสารตั้งต้น คดีพิเศษที่ 95/2566 ที่มีผู้เสียหายหลายรายถูกมิจฉาชีพแก๊งโรแมนซ์สแกม หลอกให้รักแล้วชวนลงทุน สูญเงินรวมกว่า 50 ล้านบาท การสืบค้นพบบัญชีรับโอนเงินล้วนเกี่ยวข้องกับเครือข่ายสามีชาวไนจีเรีย และภรรยาชาวไทยคู่หนึ่ง คือ นายอิเกดิ และ น.ส.อรอนงค์ “เอเย่นต์” ใหญ่จัดหาบัญชีม้าและซิมโทรศัพท์มือถือ ที่สั่งการเครือข่ายอยู่ในพื้นที่ต่างจังหวัด

ลักษณะพฤติกรรมคือ เป็นนายหน้าติดต่อว่าจ้างหาคนมาเปิดบัญชีม้า และซิมการ์ดโทรศัพท์ ส่งต่อองค์กรอาชญากรรมชาวไนจีเรีย และเครือข่ายอื่นๆ เพื่อนำไปเส้นทางผ่านเงินที่หลอกลวงจากผู้เสียหาย

“ทีมข่าวอาชญากรรม” สอบถาม ร.ต.อ.ทินวุฒิ สีละพัฒน์ ผอ.กองกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ ดีเอสไอ ถึงเบื้องหลังเส้นทางทั้งหมดของเครือข่ายคู่รักนี้ โดยเผยว่า ทั้งคู่เป็นเอเย่นต์จัดหาบัญชีจากทั่วประเทศส่งขายองค์กรอาชญากรรมทั้งแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โรแมนซ์สแกม ขบวนการฟอกเงิน และแก๊งค้ายาเสพติดในต่างประเทศ เช่น กัมพูชา ฮ่องกง เกาหลีใต้ แอฟริกาใต้ ที่สำคัญยังเชื่อมโยงกับกลุ่มองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติแอฟริกาตะวันตกที่เคลื่อนไหวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

“สองสามีภรรยายังมีลูกน้องในเครือข่าย คอยเป็นมือไม้ หรือนายหน้าจัดหาบัญชีม้า ซึ่งแต่ละคนจะมียอดส่งบัญชีม้าเฉลี่ยเดือนละ 100 บัญชี การจัดหาใช้ช่องทางโพสต์ผ่าน Facebook ทั้งกลุ่มตัวเองและเพื่อน เนื่องจากเครือข่ายทั้งคู่กระจายหลายพื้นที่ทั้งใน จ.นครสวรรค์ และแถบภาคตะวันออกเฉียงเหนือ”

ที่มาที่ไปเอเย่นต์นี้เริ่มตั้งแต่ปี 61 ที่เล็งเห็นค่าตอบแทนสูง กระทั่งปี 64-65 มีการแพร่ระบาดโควิด-19 มีคนจำนวนมากทำธุรกรรมรับเงิน โอนเงิน ชำระเงินผ่านทางออนไลน์ จึงเห็นว่าบัญชีม้าที่ตัวเองทำนั้นสร้างกำไรเป็นกอบเป็นกำ จากรายงานการสืบสวนพบว่ากลุ่มนี้ ทำกำไรจากการขายบัญชีม้าได้มากถึง 6 ล้านต่อปี มีราคาซื้อขาย 10,000 บาทต่อบัญชี แถมฟรีซิมการ์ด สมุดบัญชี และบัตรเอทีเอ็ม

ร.ต.อ.ทินวุฒิ ระบุ ภรรยาของนายอิเกดิ มีความช่ำชองในการจัดหาบัญชีม้าดำ ที่ผ่านมาไม่พบประวัติก่ออาชญากรรม และหากสังเกตจะมีลักษณะการขายเป็น “แพ็กเกจ” เพิ่มโทรศัพท์เครื่องใหม่เข้าไปด้วย เพราะรู้ดีว่าบัญชีธนาคารจะต้องผูกกับหมายเลขโทรศัพท์ โดยมีการสแกนยืนยันตัวตนให้พร้อมใช้งาน

สำหรับกลุ่ม บัญชีม้า 3 สี มาจากการจัดอันดับร่วมกับหน่วยงาน แบ่งเป็น บัญชีม้าดำ ม้าเทา และม้าน้ำตาล ตามพฤติการณ์กระทำความผิด บัญชีม้าดำ คือ ความผิดสนิท ในกรณีคู่สามีภรรยานี้ ดีเอสไอถือเป็นบัญชีม้า Double black เพราะเกี่ยวข้องกับกลุ่มแอฟริกาตะวันตกที่มักใช้บัญชีม้าในการกระทำความผิด

“เดิมกลุ่มเหล่านี้เคยใช้บัญชีม้าในเครือข่ายโรเเมนซ์สแกม แต่พอขยายฐานและเห็นผลกำไรธุรกิจค้าบัญชี ทำให้พัฒนาจัดสรรครบแพ็กเกจมากขึ้นคือ มีสมุดบัญชี บัตรเอทีเอ็ม ซิมการ์ดที่จดทะเบียนแล้ว รวมถึงโทรศัพท์เครื่องใหม่”

การจัดส่งจะใช้ช่องทางพัสดุส่งไปประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะพื้นที่ถูกใช้เป็นฐานคอลเซ็นเตอร์และเว็บพนันออนไลน์ ซึ่งเป็นต้องใช้บัญชีม้าเป็นเครื่องมือทำธุรกรรมจ่ายโอน

ร.ต.อ.ทินวุฒิ เผยเส้นทางการเงินที่มีการจำหน่าย จ่าย โอน ออกไปจากบัญชีม้าดำของเครือข่าย 1,000 บัญชีว่า ส่วนใหญ่ปลายทางอยู่ที่ ฮ่องกงและกัมพูชา มีทั้งนำไปใช้ในแก๊งโรแมนซ์สแกมและคอลเซ็นเตอร์ พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างขยายผลบัญชีม้าจากแถว 1 ที่เชื่อมโยงมากที่สุด ไปยังแถว 2 แถว 3 แถว 4 ต่อไป

“อาชญากรรมออนไลน์เป็นเรื่องสำคัญ สิ่งที่ต้องการคือ ต้องตัดเครื่องมือยักย้าย ถ่ายเททรัพย์สินที่เชื่อมโยงไปประเทศอื่นๆ ด้วย” ร.ต.อ.ทินวุฒิ ทิ้งท้าย.

ทีมข่าวอาชญากรรม รายงาน