นายก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) กล่าวตอนหนึ่ง ในหัวข้อ “Soft Power : โอกาสประเทศไทย” ในงานเสวนา “เดลินิวส์ ทอล์ก 2024” ว่า เสน่ห์ประเทศไทยมีเยอะมาก และสิ่งหนึ่งคือเสน่ห์ของสุภาพสตรี เราจะเห็นสุภาพสตรีบนเวทีนี้แสดงความสามารถและเป็นผู้นำของประเทศด้วย ในด้านกีฬาก็เช่นเดียวกัน ผู้หญิงมักจะนำผู้ชาย เช่น วอลเลย์บอล หรือนักมวยเหรียญทองต่างๆ เป็นผู้หญิง รวมถึงนักกีฬาคนพิการของไทยส่วนใหญ่ก็เป็นผู้หญิง เช่น น้องแวว นักกีฬาฟันดาบ ที่ไปสร้างชื่อเสียงทั่วโลก และเป็นผู้หญิงคนแรกของโลกที่ได้เหรียญทอง 3 ประเภท   

สำหรับเสน่ห์ของกีฬาไม่ใช่มีแค่เรื่องของมวยไทย แต่กีฬาของไทยมีเสน่ห์อยู่เยอะมาก ซึ่งคำว่าเสน่ห์ได้ถ่ายทอดสิ่งต่างๆ ที่มากกว่าการแข่งขันกีฬาอย่างเดียว เราได้เห็นทีมกีฬาหญิง ภาพการไหว้สื่อถึงวัฒนธรรมต่างๆ เราสามารถแทรกสิ่งที่ดี สิ่งงามๆ เข้าไปในกีฬาได้ ‘มวยไทย’ เห็นที่ชัดเจน เพราะมีความสนุกตื่นเต้น แต่ด้วยความเป็นไทยเป็นหนึ่งเดียว และเป็นกีฬาชนิดเดียวที่ใช้ชื่อประเทศเป็นชื่อกีฬา นั้นก็คือ ‘มวยไทย’”

ทั้งนี้เราจะถ่ายทอดความเป็นไทยผ่านการไหว้ครู เช่น ปี่พาทย์ ได้ในเชิงของดนตรีไทย ความสนุกสนาน ประเพณี และการปฏิบัติของคนไทย ซึ่งนักกีฬาไทยเป็นเสน่ห์อย่างแรง ที่จะดึงดูดคนหันมาสนใจกีฬาและติดตามนักกีฬา และเป็นไอดอลระดับโลก เช่น  บัวขาว-บัญชาเมฆ ดังไกลไปทั่วโลกทุกคนรู้จักเป็นความโดดเด่นที่คนรู้จัก  เพราะมีความน่ารัก มีรอยยิ้มมีเสน่ห์ไทย ซึ่ง กทท. จะชูมวยไทยนำร่องเพื่อพลักดันหลายชนิดกีฬาผ่านเสน่ห์ไทย

นายก้องศักด กล่าวว่า กทท. อยากทำให้การแข่งขันกีฬาซีเกมส์ เป็นเฟสติวัล มีทั้งอาหาร ดนตรี ผลไม้ไทย ท่องเที่ยว ซึ่งได้หารือกับ ททท. แล้วเพื่อใช้กีฬามาเป็นโอกาสในการท่องเที่ยวด้วย และต่อไปหวังว่าจะได้มือกับทุกท่าน โจทย์สำคัญของ กกท. วันนี้คือจะทำอย่างไรเพื่อ ดึงเสน่ห์กีฬาไทย ดึงเสน่ห์มวยไทย ออกมาเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจและสังคมออกมา สร้างงานสร้างรายได้อย่างยั่งยืน โดยเริ่มจากโมเดลจากมวยไทยก่อน และจะขยับไปยังกีฬาอื่นๆ ด้วย ในปีที่ผ่านมาได้