เมื่อวันที่ 21 ต.ค. 67 พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผบช.ก. เรียกประชุมชุดทำงานกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) กรณีที่ก่อนหน้านี้ นายเอก คนขับรถของ นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ บอสพอล ได้นำโทรศัพท์อีกเครื่องที่คาดว่ามีข้อมูลคลิปเสียงเหล่าเทวดา มามอบให้ตำรวจเมื่อวันที่ 19 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยตั้งแต่ช่วง 10 โมงเช้าที่ผ่านมา ชุดทำงานได้ทยอยเข้าห้องประชุม แต่ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดใดๆ ต่อสื่อมวลชน

ขณะที่มีรายงานข่าวว่า หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับโทรศัพท์เครื่องดังกล่าวจากคนขับรถของ บอสพอล ก็ยังไม่สามารถที่จะตรวจสอบข้อมูลในโทรศัพท์ได้ เพราะมีเพียงบอสพอล ที่ทราบรหัสผ่าน แต่ตอนนี้ บอสพอล ถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำ และยังอยู่ในแดนกักโรค จึงยังไม่สามารถเข้าไปพบและสอบปากคำ พร้อมกับขอรหัสเปิดโทรศัพท์มือถือได้ จึงต้องรอให้ผ่านขั้นตอนการกักโรคก่อน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงจะสามารถเข้าไปพบ บอสพอล เพื่อเปิดดูข้อมูลในโทรศัพท์ว่ามีผู้ใดเกี่ยวข้องกับการเรียกรับผลประโยชน์บ้าง ทั้งนี้ เบื้องต้น บอสพอล อ้างว่าไม่ได้จ่ายเงินให้กับนักการเมือง แต่จ่ายให้กับพวกนักร้องเรียน

ทั้งนี้ ยังมีรายงานข่าวจากแหล่งข่าวระบุอีกว่า กรณีที่มีนักร้องเรียนรีดทรัพย์นั้น เป็นนักร้องเรียนเพศหญิง แต่ไม่ได้อยู่ในวงการการเมือง และมักจะชอบบอกว่าตนเองเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านแชร์ โดยได้มีการตบทรัพย์บริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป ไป 10 ล้านบาท เมื่อประมาณช่วงเดือน ก.พ. ถึง พ.ค. ที่ผ่านมา และบุคคลนี้ยังเคยไปแจ้งความที่ บก.ปคบ. ช่วงประมาณเดือน ก.พ. และร้องเรียนใส่ร้ายบริษัท จากนั้นบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป ก็เคยไปแจ้งความว่าถูกรีดเอาทรัพย์ แต่หลังจากนั้นก็ไปถอนแจ้งความ เพราะกลัว เนื่องจากถูกบุคคลนี้ข่มขู่หลายอย่าง

ทั้งนักร้องเรียนคนดังกล่าว ยังมักอ้างว่ารู้จักคนใหญ่คนโตที่มียศ แต่ไม่ถึงขนาดรู้จักกับระดับรัฐมนตรี แต่บุคคลที่นักร้องเรียนคนนี้แอบอ้างว่ารู้จักนั้น สามารถทำให้บริษัทเดือดร้อนได้ บริษัทจึงได้จ่ายเงินไปจำนวน 10 ล้านบาท เป็นเงินก้อนทีเดียว และมีการจ่ายเพิ่มไปอีก เพราะผู้หญิงที่มาตบทรัพย์รายนี้ มักจะขอเพิ่ม โดยให้จ่ายเป็นลักษณะการจ่ายผ่านมูลนิธิ

ผู้สื่อข่าวโทรศัพท์สอบถาม นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของ บอสพอล ซึ่งเปิดเผยสั้นๆ ว่า ช่วงบ่ายวันนี้ ตนเองจะเข้าไปเยี่ยม บอสพอล ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ส่วนเรื่องโทรศัพท์ที่คนขับรถ บอสพอล นำมามอบให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว เพื่อให้ทำการตรวจสอบนั้น ตนไม่ค่อยรู้รายละเอียด แต่โทรศัพท์เครื่องดังกล่าว เป็นอีกเครื่องหนึ่งที่บอสพอลมี และเป็นคนละเครื่องกับที่ถูกยึดไว้ในวันที่ถูกจับกุม

นายวิฑูรย์ ยังกล่าวถึงกรณีที่ถูกตบทรัพย์ด้วยว่า บอสพอล ให้ข้อมูลกับ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ไปหมดแล้วแต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ ให้เป็นการทำงานของตำรวจ แต่บอกได้แค่ว่า มีพยานหลักฐานชัดเจน 1 คนแน่นอน

ส่วนกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมพิจารณาแจ้งข้อหาฟอกเงินเพิ่มเติมนั้น ทนายวิฑูรย์ มองว่า ก็ไม่ได้เตรียมการอะไร ก็ให้ตำรวจแจ้งไป ส่วนทีมทนายความ ก็เตรียมสู้คดี ซึ่งก็ได้อธิบายให้ตำรวจฟังไปหมดแล้ว และมั่นใจว่าสามารถสู้คดีได้ทุกเรื่อง.