นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายไชยยศ จิรเมธากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีนายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ นายเกรียงศักดิ์ ประทีปวิศรุต ผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า น.ส.สุณัฐชา โล่สถาพรพิพิธ ส.ส.จังหวัดตรัง นางรัชฎาภรณ์ แก้วสนิท ประธานกรรมการบริหารกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร นายสไกร พิมพ์บึง เลขาธิการสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร (กฟก.) ประชุมติดตามความคืบหน้าโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกยางพาราและประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมันและเป็นประธานในพิธีมอบเช็คชำระหนี้และมอบโฉนดที่ดินของกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ให้แก่เกษตรกรจังหวัดตรัง
และเป็นสักขีพยานการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (Memorandum of Understanding) ระหว่างองค์การคลังสินค้า (อ.ค.ส.) กับสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ที่อาคารโดมเอนกประสงค์ วิทยาลัยเทคนิคตรัง อำเภอเมือง จังหวัดตรัง
นายจุรินทร์ กล่าวว่า วันนี้มีหลายกิจกรรมประกอบด้วย
- มอบเช็คชำระหนี้และมอบโฉนดที่ดินของกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร
- โครงการเซ็น MoU ความร่วมมือระหว่าง อ.ค.ส.กับกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร
- โครงการประกันได้เกษตรกร โดยเฉพาะชาวสวนยางและชาวสวนปาล์ม
โดยกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร มีหน้าที่ซื้อหนี้ให้กับเกษตรกรที่เป็นหนี้ของกองทุนฯ โดยหากเกษตรกรเป็นหนี้สถาบันการเงินแล้วใช้หนี้ไม่ครบถ้วนจะโดนฟ้องร้องดำเนินคดีและยึดที่ดินทำกิน กองทุนฯจะไปช่วยซื้อหนี้จากสถาบันการเงิน ให้มาเป็นหนี้กับกองทุนฯแทน ข้อดี 1.ไม่ยึดที่ดินทำกิน 2.ดอกเบี้ยแค่ 1% และวันนี้ลดลงเหลือ 0% เมื่อชำระเงินครบถ้วนก็จะได้รับโฉนดที่ดินคืน และมีโครงการฟื้นฟูชีวิตเกษตรกรที่จะจัดงบโครงการให้พี่น้องรวมกลุ่มกันไปทำอาชีพทั้งเกษตร ปศุสัตว์การบริการทางการเกษตรและเกษตรแปรรูป โดยวันนี้มาคืนโฉนดให้กับพี่น้องจำนวน 27 ราย มอบเช็คชำระหนี้แทนกรณีเป็นหนี้สหกรณ์การเกษตร 5 สหกรณ์ เป็นเงิน 15.39 ล้านบาท พร้อมทั้งมอบเช็คเงินฟื้นฟูและพัฒนาอาชีพเกษตรกร 3 องค์กร สมาชิก 44 ราย เป็นเงิน 1.5 ล้านบาท ที่ผ่านมาช่วยจังหวัดตรังซื้อหนี้มาแล้ว 133 ล้านบาท มอบโฉนดคืนให้พี่น้องจังหวัดตรังไปแล้ว 864 ราย
สำหรับยางพารากับปาล์มน้ำมัน เราให้ความสำคัญเป็นพิเศษและผลักดันนโยบายประกันรายได้เกษตรกรให้เป็นนโยบายรัฐบาล ซึ่งเป็นเงื่อนไขในการเข้าร่วมรัฐบาลของพรรคประชาธิปัตย์ โดยทำมา 2 ปีแล้ว ปีนี้ขึ้นปีที่ 3 ซึ่งดีกับพี่น้องชาวสวนยางและสวนปาล์ม คือจะทำให้มีรายได้สองทาง 1.เอายางไปขายในตลาด 2.มีเงินส่วนต่างจากรายได้ที่ประกัน
“เป็นการสร้างหลักประกันให้กับชาวปักษ์ใต้บ้านเราและชาวสวนยางทั่วประเทศรวมถึงข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มันสำปะหลังและข้าว
ส่วนผลไม้มีมาตรการช่วยเหลืออื่นๆ ซึ่งวันนี้ทั้งยางและปาล์มราคาขึ้น แต่น้ำยางข้นราคายังลงมาบ้างนี้ เพราะน้ำยางข้นบ้านเราผลิตไปเพื่อทำถุงมือยางและตลาดใหญ่ที่สุด คือ มาเลเซีย ช่วงที่ผ่านมามาเลเซียมีปัญหาโควิด ทำให้โรงงานผลิตถุงมือยางปิดตัว ส่งออกไปมาเลเซียลำบากราคาเลยตกลงมา และโรงงานทำถุงมือยางในบ้านเรามีปัญหาโควิดบางแห่งต้องปิดตัวลดกำลังการผลิต ส่วนปาล์มน้ำมัน วันนี้ขึ้นไปกิโลกรัมละ 8.50 บาท บางแห่งถึง 9 บาท ที่ราคาขึ้นเพราะมาตรการบริหารจัดการของเราแก้ปัญหาได้ถูกจุด ซึ่งก่อนนี้มีการลักลอบนำเข้าทำให้ปริมาณปาล์มล้นตลาดและราคาตก “ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าว
ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ได้ออกมาตรการ 1.ห้ามนำเข้าน้ำมันปาล์มทางบกเด็ดขาด ให้นำเข้าทางเรือท่าเรือแหลมฉบัง ออกทางหนองคายและสระแก้ว ในที่สุดจึงไม่นำเข้าเพราะต้องขนขึ้นเรือ 2.ตนนำคณะไปอินเดีย 2 รอบ เปิดตลาดน้ำมันปาล์ม วันนี้ราคาปาล์มสูงขึ้นเรื่อยๆ เพราะเราสามารถส่งน้ำมันปาล์มออกไปอินเดียได้มากขึ้น 3.เราอนุญาตให้นำน้ำมันปาล์มไปทำน้ำมันดีเซลผสม โดยเราจะยังไม่เลิกการนำไปผสม ให้คงที่ 3 ปีทั้ง B7 B10 และ B20 เพื่อให้น้ำมันดีเซลมีส่วนผสมน้ำมันปาล์ม ทำให้ปาล์มบ้านเราขายดีขึ้นจากมาตรการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ แต่หากวันไหนราคาตกก็ยังมีประกันรายได้เข้าไปช่วยพี่น้อง
โดยในระหว่างงาน มีเกษตรกรที่มาต้อนรับกำลังใจ และกล่าวว่า “ท่านจุรินทร์สู้ๆ บายใจ วันนี้ที่ท่านจุรินทร์มาเยี่ยม ปาล์มราคาโลละ 10 บาท ยางราคาก็ดีซึ่งเราพี่น้องเกษตรกรอยู่บายใจ ตอนนี้โครงการประกันรายได้เราก็ยังได้รับ”