สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 19 ต.ค. ว่านับตั้งแต่ต้นปี 2566 จนถึงวันที่ 10 ต.ค. ปีนี้ แนวปะการังทั่วโลกประมาณร้อยละ 77 ประสบกับ “ภาวะเครียด” จนก่อให้เกิดการฟอกขาว ซึ่งเกิดจากคลื่นความร้อนที่ทำให้น้ำทะเลอุ่น

นายเดเร็ก แมนเซลโล จากองค์การบริหารมหาสมุทรและบรรยากาศแห่งชาติของสหรัฐ (โนอา) กล่าวว่า ปรากฏการณ์ปะการังฟอกขาวที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นครั้งที่ 4 นับตั้งแต่ปี 2541 ได้ทำลายสถิติเดิมที่ร้อยละ 65.7 ภายในระยะเวลาครึ่งเดียว และมีขนาดใหญ่ขึ้นอย่างต่อเนื่อง

การฟอกขาวของปะการังไม่เพียงแต่ส่งผลต่อสุขภาพของมหาสมุทรเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อการดำรงชีวิตของผู้คน, ความมั่นคงด้านอาหาร และเศรษฐกิจในท้องถิ่นอีกด้วย อย่างไรก็ดี ยังคงมีความหวังที่พวกมันจะฟื้นตัวเมื่ออุณหภูมิลดลง และปัจจัยอื่น ๆ เช่น การทำประมงและมลพิษลดลง

แมนเซลโลกล่าวว่า โนอาได้ยืนยันรายงานการฟอกขาวครั้งใหญ่ของปะการังใน 74 ประเทศหรือดินแดน นับตั้งแต่เดือน ก.พ. 2566 รวมถึงในซีกโลกเหนือและซีกโลกใต้ของมหาสมุทรแอตแลนติก, แปซิฟิก และอินเดีย

ย้อนกลับไปเมื่อเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา ทางการออสเตรเลียได้ประกาศว่า “เกรทแบร์ริเออร์รีฟ” แนวปะการังซึ่งยาวที่สุดในโลก ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ กำลังประสบกับเหตุการณ์ฟอกขาวครั้งใหญ่เป็นครั้งที่ 5 ภายในระยะเวลาเพียง 8 ปี.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES