นายอิทธิ ศิริลัทธยากร รมช.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยหลังลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์การค้าชายแดนด่านศุลกากรหนองคาย ว่า ให้เพิ่มความเข้มงวดในการป้องกันการลักลอบนำเข้าและส่งออกสินค้าเกษตรผิดกฎหมาย ทั้งด้านพืช ประมง และปศุสัตว์ พร้อมกำชับให้หน่วยงานกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมบูรณาการกับทุกภาคส่วนในพื้นที่ เช่น กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรหนองคาย (กอ.รมน.) ตำรวจ ทหาร ด่านศุลกากร เพื่อป้องกันแก้ไขปัญหาการลักลอบนำเข้าและส่งออกสินค้าเกษตรผิดกฎหมายตามแนวชายแดน หรือช่องทางธรรมชาติ รวมทั้ง กำกับดูแลการนำเข้า ส่งออก และนำผ่านสัตว์-ซากสัตว์ ตามพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 โดยตั้งจุดตรวจ จุดสกัด เพื่อควบคุมการเคลื่อนย้ายสัตว์-ซากสัตว์ในพื้นที่ และแนวชายแดนที่รับผิดชอบ ตรวจสอบใบอนุญาตเคลื่อนย้ายสัตว์-ซากสัตว์ และเอกสารที่เกี่ยวข้องอย่างเข้มงวด การตรวจสอบและขอความร่วมมือผู้ประกอบกิจการห้องเย็นขึ้นทะเบียนสถานที่เก็บรักษาสินค้าทางการเกษตรถูกต้องตามกฎหมาย ตลอดจนการเฝ้าระวังโรคระบาดสัตว์ในพื้นที่ เช่น โรคไข้หวัดนก โรคปากและเท้าเปื่อย
“ขอความร่วมมือหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรฯ ต้องบูรณาการทำงานร่วมกัน ขับเคลื่อนสานต่อ 9 นโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยเฉพาะการสานต่อการปราบปรามนำเข้าเนื้อเถื่อน ซึ่งสร้างผลกระทบต่อกลไกตลาด ทำให้ราคาตกต่ำ ได้กำชับให้ทุกด่านปฏิบัติงานอย่างเข้มงวด ด้วยความระมัดระวัง ให้เป็นไปตามกฎหมายและกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด ตลอดจนให้คำนึงถึงความปลอดภัยด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ ขอให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ด่าน ที่ได้ปฏิบัติหน้าที่กันอย่างจริงจัง อย่างไรก็ตาม หากมีปัญหาหรือข้อติดขัดในการทำงาน ให้แจ้งให้ทราบอย่างทันท่วงที”
ทั้งนี้ จังหวัดหนองคาย มีด่านตรวจของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จำนวน 3 ด่าน ได้แก่ ด่านกักกันสัตว์หนองคาย ด่านตรวจพืชหนองคาย และศูนย์บริหารจัดการด่านตรวจประมงเขต 2 หนองคาย โดยมีสถิติการนำเข้า ส่งออก นำผ่าน ดังนี้ 1) ด่านกักกันสัตว์หนองคาย จำนวนสัตว์/ซากสัตว์ ที่อนุญาตส่งออกราชอาณาจักร (ตั้งแต่ ม.ค.-ต.ค. 67) มีจำนวนสัตว์ 3,381,660 ตัว มูลค่า 43.71 ล้านบาท อาทิ กระบือ ไก่ไข่รุ่น ลูกไก่เนื้อ ลูกไก่ไข่ เป็ดไข่ สุกรพันธุ์ โคเนื้อ เป็นต้น และซากสัตว์จำนวน 4,154.42 ตัน มูลค่า 140.33 ล้านบาท ได้แก่ ซากสุกร ซากไก่ และไม่มีการนำเข้าซากสัตว์ 2) ด่านตรวจพืชหนองคาย การส่งออกผลไม้ไทยไปประเทศจีน (ตั้งแต่ ม.ค.-ส.ค.67) จำนวน 3,854 ตู้ ปริมาณ 65,238.28 ตัน มูลค่า 8,623.62 ล้านบาท ดังนี้ ทุเรียน 3,129 ตู้ 51,648,125 กิโลกรัม มูลค่า 7,235 ล้านบาท มังคุด 622 ตู้ 11,956,475 กิโลกรัม มูลค่า 1,203 ล้านบาท ลำไยอบแห้ง 103 ตู้ 1,633,683 กิโลกรัม มูลค่า 184 ล้านบาท ส่วนการนำเข้าสินค้าจากประเทศจีน ปริมาณ 12,263.84 ตัน มูลค่า 149 ล้านบาท ได้แก่ ผักกาดหอมโครัลลีฟ ผักกาดขาว กะหล่ำปลีรูปหัวใจ บรอกโคลี กะหล่ำดอก และ 3) ศูนย์บริหารจัดการด่านตรวจประมง เขต 2 (หนองคาย) มีการส่งออกสินค้าประมง (ตั้งแต่ ม.ค.-ต.ค. 67) ปริมาณ 35,485.06 ตัน มูลค่า 328.99 ล้านบาท ได้แก่ ลูกพันธุ์สัตว์น้ำ ส่งออกเพื่อบริโภค (มีชีวิต, แช่เย็นแช่แข็ง) ผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำ เป็นต้น ไม่มีสินค้านำเข้า
