เมื่อวันที่ 15 ต.ค. นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี และโฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) และ ศปช. ส่วนหน้า เปิดเผยว่า จากแนวโน้มฝนภาคเหนือ ภาคกลางที่ลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วงนี้ ทำให้ปริมาณน้ำไหลผ่านแม่น้ำเจ้าพระยาสถานี C.2 นครสวรรค์ ลดลงเหลือ 1,808 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และการระบายน้ำล่าสุด (16 ต.ค. 67 เวลา 06.00 น.) ศปช. ปรับลงเหลือ 1,451 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่งผลให้บริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำที่เคยได้รับผลกระทบ ใกล้กลับคืนเข้าสู่ภาวะปรกติ อาทิ คลองโผงเผง วัดไชโย อ.ไชโย จ.อ่างทอง คลองบางบาล แม่น้ำน้อยบริเวณ ต.หัวเวียง อ.เสนา ต.ลาดชิด ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา วัดสิงห์ อ.อินทร์บุรี อ.เมือง อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี มีระดับน้ำลดลง
โฆษก ศปช. กล่าวว่า ศปช. รายงานว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ที่สถานี C.29A อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา มีปริมาณน้ำไหลผ่านเฉลี่ย 1,326 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที มีแนวโน้มลดลง และจะไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล และจังหวัดท้ายน้ำภาคกลาง โดยจากการปรับลดการระบายน้ำวันนี้ส่งผลให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนจะลดลงอีก 20-30 เมตร โดยที่ประชุม ศปช. คาดว่าในช่วงสัปดาห์หน้า หากไม่มีฝนตกเพิ่ม จะสามารถปรับลดการระบายน้ำเหลือ 700-800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งจะช่วยให้จุดที่ต่ำที่สุดของลุ่มเจ้าพระยา ที่จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ
โฆษก ศปช. กล่าวอีกว่า ส่วนพื้นที่ภาคใต้จากปริมาณฝนที่ยังตกหนัก ถึงหนักมากในพื้นที่ภาคใต้อย่างต่อเนื่อง ยังคงมีจังหวัดที่ต้องเฝ้าระวังน้ำหลากดินถล่มอย่างต่อเนื่องใน 13 จังหวัด โดย ศปช. ขอแจ้งเตือนในพื้นที่เสี่ยงดินถล่มในพื้นที่ 13 จังหวัด เฝ้าระวังและติดตามข่าวสารจากหน่วยงานราชการอย่างใกล้ชิด ได้แก่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ (บางสะพาน บางสะพานน้อย) ภาคใต้ 12 จังหวัด จ.ชุมพร (ท่าแซะ พะโต๊ะ) จ.สุราษฎร์ธานี (คีรีรัฐนิคม กาญจนดิษฐ์) จ.นครศรีธรรมราช (ทุ่งสง ช้างกลาง) จ.กระบี่ (เมืองกระบี่ เขาพนม เกาะลันตา) จ.ภูเก็ต (เมืองภูเก็ต กะทู้ ถลาง) จ.ตรัง (ย่านตาขาว ปะเหลียน ห้วยยอด นาโยง) จ.สตูล (ควนโดน ควนกาหลง ละงู ทุ่งหว้า มะนัง) จ.พัทลุง (กงหรา ศรีบรรพต ศรีนครินทร์ เขาชัยสน ตะโหมด ควนขนุน) จ.สงขลา (หาดใหญ่ สะบ้าย้อย จะนะ นาทวี รัตภูมิ สะเดา) จ.ปัตตานี (โคกโพธิ์ หนองจิก ปะนาเระ มายอ ทุ่งยางแดง สายบุรี ยะรัง) จ.นราธิวาส (บาเจาะ ยี่งอ ระแงะ รือเสาะ ศรีสาคร แว้ง สุคิริน สุไหงปาดี จะแนะ เจาะไอร้อง) จ.ยะลา (เบตง ธารโต กาบัง บันนังสตา ยะหา รามัน กรงปินัง)
“ศปช. ขอให้ประชาชนเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำหลากดินถล่ม หากต้องการความช่วยเหลือ โทรฯ สายด่วนได้ที่ 1567 ตลอด 24 ชม. ทั้งนี้ จากการวิเคราะห์ปริมาณน้ำฝนที่ อ.ธารโต ยะลา มีปริมาณฝนตกมากถึง 194 มม. และเป็นฝนที่ตกเหนือเขื่อนบางลาง ส่งผลให้ปริมาณน้ำไหลลงเขื่อนบางลางเพิ่มขึ้น แต่ขณะนี้ยังไม่มีผลกระทบต่อปัญหาน้ำล้นตลิ่งในพื้นที่” โฆษก ศปช. กล่าว.