สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 15 ต.ค. ว่า นางเหมา หนิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวถึงบรรยากาศตึงเครียดรอบใหม่บนคาบสมุทรเกาหลี ว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ได้ก่อให้เกิดผลดีกับฝ่ายใด และสิ่งที่สำคัญสูงสุด ณ เวลานี้ คือการดำเนินการหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดความขัดแย้งรุนแรง
ทั้งนี้ จีนยืนยันการมีท่าทีชัดเจน ในการรักษาสันติภาพและเสถียรภาพบนคาบสมุทรเกาหลี พร้อมทั้งย้ำว่า การคลี่คลายความขัดแย้งต้องเป็นไปตามแนวทางการทูตเท่านั้น และแสดงความหวังว่า จะได้รับความร่วมมือจาก “ทุกภาคส่วน”
ท่าทีดังกล่าวของรัฐบาลปักกิ่งเกิดขึ้น หลังเกาหลีเหนือระเบิดทำลายถนน กย็องกี และดงแฮ ตั้งอยู่บนแนวเส้นแบ่งเขตแดนทางทหาร (เอ็มดีแอล) บนคาบสมุทรเกาหลี ขณะที่กองทัพเกาหลีใต้ยืนยันว่า ไม่มีโครงสร้างทางทหารส่วนใดของเกาหลีใต้ได้รับผลกระทบ แต่เจ้าหน้าที่ตอบสนองด้วยการยิงกระสุนเตือนให้อีกฝ่ายรับทราบ
บรรยากาศบนคาบสมุทรเกาหลีตึงเครียดขึ้นอีกระดับ เมื่อ น.ส.คิม โย-จอง น้องสาวของนายคิม จอง-อึน กล่าวว่า หากมีการพบเห็นโดรนของเกาหลีใต้ในเขตน่านฟ้าของเกาหลีเหนืออีก “แม้เพียงครั้งเดียว” รัฐบาลโซลจะ “เผชิญกับหายนะ” โดยรัฐบาลเปียงยางกล่าวว่า โดรนของเกาหลีใต้ละเมิดน่านฟ้าอย่างน้อย 3 ครั้งแล้วในเดือนนี้ และบินมาถึงกรุงเปียงยาง เพื่อโปรยใบปลิวโฆษณาชวนเชื่อโจมตีเกาหลีเหนือ
อย่างไรก็ตาม แถลงการณ์ของกองทัพเกาหลีใต้ “ไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธ” ว่ามีการส่งอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน ละเมิดน่านฟ้าของเกาหลีเหนือ และบินไปถึงกรุงเปียงยาง เพื่อโปรยใบปลิวโฆษณาชวนเชื่อต่อต้านตระกูลคิมจริงหรือไม่ แต่ประณาม “ข้อกล่าวหาที่ไร้ยางอาย” ของเกาหลีเหนือ.
เครดิตภาพ : AFP