เมื่อวันที่ 15 ต.ค. นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ในฐานะประธาน สส.พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกระบวนการขับ พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี ออกจากพรรคเพื่อไทย หากไม่กลับมาเข้าสู่กระบวนการในคดีตากใบก่อนที่คดีจะหมดอายุความว่า เมื่อวันที่ 14 ต.ค. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี แจ้งว่า พล.อ.พิศาล ได้ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยแล้ว จึงไม่มีใครต้องไปว่าอะไรท่านอีก แต่รายละเอียดว่าลาออกที่ไหนอย่างไร ต้องไปถามนายภูมิธรรม แต่ยืนยันว่าเมื่อลาออกแล้ว ก็ถือว่าขาดจากความเป็น สส.
“เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่อยากไปโทษใคร เพราะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อ 20 ปีก่อน ที่ยังไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย แต่เป็นข้าราชการในระดับเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ วันนี้ท่านลาออกแล้ว การที่พรรคเพื่อไทยจะไปรับผิดชอบอะไรก็ถือว่าจบ จากนี้เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม ไม่เกี่ยวกับพรรคเพื่อไทย” นายวิสุทธิ์ กล่าว
เมื่อถามว่า แบบนี้ถือเป็นการปัดความรับผิดชอบหรือไม่ นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ต้องถามว่าแล้วจะให้รับผิดชอบเรื่องอะไร ก่อนหน้านี้ทุกฝ่ายถามทุกสัปดาห์ว่า เมื่อไรจะลาออก หรือจะให้ขับออก แต่วันนี้ท่านแสดงสปิริตความเป็นลูกผู้ชาย ด้วยการลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค และขาดจากความเป็น สส. ก็ถือว่าจบแล้ว จากนี้เป็นหน้าที่ของตำรวจและศาล ที่จะต้องดำเนินการ พรรคเพื่อไทยไม่จำเป็นต้องทำอะไรอีก จึงไม่ใช่การปัดความรับผิดชอบอะไรทั้งสิ้น
เมื่อถามว่าในหนังสือมีการชี้แจงเหตุผลในการลาออกหรือไม่ นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า พล.อ.พิศาล ไม่ได้ประสานตน แต่เชื่อว่า เพื่อไม่ให้เชื่อมโยงมาถึงพรรคเพื่อไทย
เมื่อถามว่านักวิชาการให้ความเห็นว่าหากนายกรัฐมนตรีปัดความรับผิดชอบในกรณีนี้ จะเข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ตนยังไม่เจอกับนายกรัฐมนตรีเลย และไม่ใช่เรื่องปัดความรับผิดชอบ เพราะไม่ใช่หน้าที่นายกฯ ที่จะต้องไปตามจับใคร เป็นหน้าที่ของกระบวนการยุติธรรม อย่าไปอ่านไกลถึงขนาดนั้น ไม่เช่นนั้นหากใครทำความผิด ก็เป็นความรับผิดชอบของนายกฯ ทั้งหมด มันไม่ใช่ต้องพูดตามข้อเท็จจริง
“วันนี้พรรคเพื่อไทยจึงไม่มีการพิจารณาในเรื่องนี้ เพราะท่านลาออกไปแล้ว ผมจะไปทำอะไรเขาได้ เราไม่มีสิทธิไปตามเขาแล้ว มันสิ้นสุดกระบวนการแล้ว” นายวิสุทธิ์กล่าว
เมื่อถามว่า มีคนในพรรคเพื่อไทยยังติดต่อกับ พล.อ.พิศาล ได้อยู่หรือไม่ นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ไม่ทราบขนาดนั้น แต่ส่วนตัวก็ไม่ได้ติดต่อกับพล.อ.พิศาล รู้เพียงว่าได้ลาออกตั้งแต่เมื่อวานแล้ว.